ที่สำนักงานตำรวจแห่งชาติ (ตร.) นายรณณรงค์ แก้วเพ็ชร์ ทนายความพาครอบครัว และญาติของทั้งผู้ได้รับบาดเจ็บและเสียชีวิตรวม 33 ครอบครัว จากเหตุเพลิงไหม้ในผับเม้าท์เท่นบี จังหวัดชลบุรี ยื่นหนังสือถึงพล.ต.ท.สมพงษ์ ชิงดวง ผู้ช่วยผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ (ผช.ผบ.ตร.) เพื่อให้เร่งรัดโอนคดีจากที่สภ.พลูตาหลวง จังหวัดชลบุรี ให้กองปราบปรามทำคดีแทน เนื่องจากไม่มั่นใจการทำคดีของตำรวจในพื้นที่ โดยมีพ.ต.อ.ดนุ กล่ำสุ่ม รองผู้บังคับการ สำนักงานกฎหมายและคดี (รอง ผบก.สมค.) นายตำรวจเวรอำนวยการเป็นตัวแทนรับมอบหนังสือ
นายรณณรงค์ เปิดเผยว่า การเรียกร้องในวันนี้เพราะรู้ว่านายสมยศ ปั้นประสงค์ เจ้าของผับ เป็นคนกว้างขวางในพื้นที่ รวมทั้งการก่อสร้างผับมีเจ้าหน้าที่กรมการปกครอง และเทศบาลเข้ามาเกี่ยวข้องกับการออกใบอนุญาต รวมทั้งตำรวจจะมีการปล่อยปละละเลยหรือไม่ เกรงว่าจะไม่ได้รับความเป็นธรรม เนื่องจากผู้เสียหายถือว่าเป็นคู่ขัดแย้งของเจ้าหน้าที่ และเรียกร้องให้ตำรวจเร่งรัดให้เจ้าของผับช่วยเยียวยากับผู้บาดเจ็บ
“ตอนนี้บางคนมีค่ารักษาพยาบาลสูงถึง 3 ล้าน 8 แสนบาทแล้ว แต่ได้เงินช่วยเหลือมาจากเจ้าของผับเพียง 20,000 บาท และคาดหวังว่าจะได้รับความเป็นธรรม และนอกจากนี้ขอให้โอนคดีมากองปราบปรามแล้ว ยังขอให้เอาผิดวินัยกับตำรวจที่เกี่ยวข้องตั้งแต่ผู้บังคับบัญชาถึงระดับปฏิบัติการ รวมทั้งติดตามการตรวจจับปิดผับเถื่อน”
ขณะที่นางเบญจมาภรณ์ คล้ายแสง อายุ 51 ปี แม่ของนายวิริยะ แต่งสง่า กัปตันผับ กล่าวว่า เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นยังทำใจไม่ได้หลังจากสูญเสียลูกชายไป เพราะเป็นผู้ที่หารายได้เลี้ยงครอบครัวเพียงคนเดียว เหตุที่เกิดขึ้นทำให้ครอบครัวลำบาก ที่ผ่านมาเจ้าของร้านมอบเงินช่วยเหลือเพียง 50,000 บาท และได้โทรศัพท์มาสอบถามบ้าง แต่อยากให้เจ้าของผับมาช่วยเหลือมากกว่านี้ พร้อมทั้งขอโทษกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น
ด้านนางกัญญารัตน์ งามดี อายุ 60 ปี แม่นายภานุพงศ์ ร่วมสุข ผู้บาดเจ็บ อายุ 37 ปี กล่าวว่า ตอนนี้ลูกชายยังรักษาตัวอยู่ในโรงพยาบาล และมีบาดแผลไฟไหม้ตามร่ายกายถึงร้อยละ 90 ซึ่งแพทย์บอกว่าต้องใช้เวลาไม่ต่ำกว่า 2 เดือน ขณะนี้ใช้สิทธิ์ประกันสังคมในการรักษา แต่ก็ยังมีค่าใช้จ่ายส่วนต่างที่ต้องจ่ายเองอีกจำนวนมาก โดยทางเจ้าของผับให้การช่วยเหลือเบื้องต้น 50,000 บาท ซึ่งไม่เพียงพอ
ส่วนก่อนหน้านี้ที่ได้รวมตัวไปร้องขอให้กรมสอบสวนคดีพิเศษ หรือ ดีเอสไอ รับทำคดีนี้เป็นคดีพิเศษ แต่ยังไม่ได้รับการตอบรับ จึงมาร้องขอให้สำนักงานตำรวจแห่งชาติเร่งรัดคดีอีกครั้ง