บุกทลายแก๊งลักลอบตัดไม้พะยูง พบอดีต จนท.รัฐมีเอี่ยว

วันที่ 19 สิงหาคม 2565 พล.ต.ท.จิรภพ ภูริเดช ผู้บัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง(ผบช.ก.) พร้อมด้วย พล.ต.ต.มานะ กลีบสัตบุศย์ ผู้บังคับการปราบปรามการกระทำความผิดเกี่ยวกับทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม  ( ผบก.ปทส.)ผบก.ปทส. พล.ต.ต.สันทัด วินสน ผบก.ภ.จว.ตรัง พ.ต.อ.ธงชัย อยู่เกษ รอง ผบก.ป. ร่วมแถลงผลการเปิดปฏิบัติการกวาดล้างเครือข่ายลักลอบตัดไม้พะยูง สามารถจับกุมผู้ต้องหาได้ 7 ราย

พล.ต.ท.จิรภพ เปิดเผยว่า ในพื้นที่ จ.ตรัง มีทรัพยากรไม้พะยูงเป็นจำนวนมาก จึงทำให้มีกลุ่มนายทุนจากทั่วประเทศสนใจ และมีความต้องการไม้พะยูง เนื่องจากเป็นไม้ที่มีมูลค่าสูง โดยในกลุ่มผู้ซื้อขายไม้พะยูงจะซื้อขายกันในราคากิโลกรัมละ 200 บาท หากสามารถส่งขายออกต่างประเทศได้ โดยเฉพาะประเทศจีน ที่มีความต้องการเป็นจำนวนมาก โดยจะมีมูลค่าเพิ่มขึ้นอีกเป็น 3 เท่า 

โดยกลุ่มขบวนการดังกล่าวมีการลักลอบตัดไม้พะยูงมาตั้งแต่ปี 2557 ต่อมาช่วงปลายปี 2564 เจ้าหน้าที่สามารถจับกุมกลุ่มขบวนการลักลอบตัดไม้พะยูง ในพื้นที่ อ.กันตัง จ.ตรัง ได้ จึงขยายผลจนพบว่ามีกลุ่มนายทุนในพื้นที่ภาคอีสาน และ จ.อุบลราชธานี เข้ามาเกี่ยวข้อง

ต่อมา เมื่อวันที่ 10 เมษายน ที่ผ่านมา เจ้าหน้าที่ป่าไม้ได้พบกลุ่มคนร้ายที่เข้ามาลักลอบตัดไม้พะยูงในเขตอุทยานแห่งชาติเขาปู่-เขาย่า ป่าสงวนแห่งชาติป่าเทือกเขาบรรพัด อ.นาโยง จ.ตรัง ซึ่งเกี่ยวข้องกับคนท้องถิ่นในพื้นที่ภาคใต้ นายทุนทางภาคตะวันออก และนักการเมืองท้องถิ่นในพื้นที่ จ.พัทลุง และจ.จันทบุรี โดยมีตำแหน่งสูงสุดคือ อดีตเลขานายกเทศบาลตำบล ส่วนเจ้าหน้าที่ป่าไม้นั้นยังไม่พบว่ามีส่วนร่วม 

นอกจากนี้ ยังมีความเชื่อมโยงกับขบวนการที่เคยจับกุมเมื่อปลายปี 2564 จึงรวบรวมพยานหลักฐานขอศาลอนุมัติหมายจับผู้ร่วมขบวนการ 8 ราย กระทั่งวันที่ 16-19 สิงหาคม เจ้าหน้าที่ได้ปฏิบัติการกวาดล้างขบวนการลักลอบตัดไม้พะยูง ลงพื้นที่ 7 จังหวัดทั่วประเทศ เข้าตรวจค้น 16 จุด สามารถจับกุมผู้ต้องหาได้ 7 รายดังกล่าว พร้อมตรวจยึดของกลาง ไม้พะยูง 93 แผ่น, เลื่อยโซ่ยนต์ 5 เครื่อง และอาวุธปืน 1 กระบอก

จากการสอบสวน ผู้ต้องหาบางส่วน ให้การรับสารภาพและบางส่วนให้การปฏิเสธ เบื้องต้นจึงนำส่งพนักงานสอบสวน สภ.นาโยง จ.ตรัง ดำเนินคดี ส่วนผู้ต้องหาที่ยังหลบหนีการจับกุม และผู้ที่มีส่วนเกี่ยวข้องกับขบวนการลักลอบตัดไม้พะยูง ทางเจ้าหน้าที่จะสืบสวนขยายผลและติดตามตัวมาดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป