วันที่ 17 สิงหาคม 2565 เมื่อช่วงเย็น ที่ผ่านมา พ.ต.อ.สุพล ค้ำชู รองผู้บังคับการตำรวจนครบาล 4 นำกำลังตำรวจ สน.ประเวศ พร้อมด้วย นางปวีณา หงสกุล ประธานมูลนิธิปวีณาหงสกุลเพื่อเด็กและสตรี นางราตรี แฉล้มวารี หัวหน้าบ้านพักเด็กและครอบครัวกรุงเทพมหานคร และเจ้าหน้าที่กรมกิจการเด็กและเยาวชน กระทรวงพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ เข้าตรวจค้นห้องพักคอนโดมิเนียมแห่งหนึ่ง ถนนเฉลิมพระเกียรติ รัชกาลที่ 9 ซอย 21 แขวงหนองบอน เขตประเวศ กรุงเทพฯ เพื่อช่วยเหลือ ด.ช.เอ (นามสมมติ) อายุ 7 ขวบ หลังได้รับการร้องเรียนถูกพ่อเลี้ยงซึ่งติดยาเสพติดทำร้ายร่างกายทุบตีอย่างหนัก
โดยเมื่อเจ้าหน้าที่ไปถึงพบ ด.ช.เอ และครอบครัวอาศัยอยู่ในห้องพักดังกล่าว เจ้าหน้าที่จึงเชิญตัวพ่อเลี้ยง อายุ 24 ปี และผู้เป็นแม่แท้ๆ อายุ 25 ปีมาให้ปากคำ ที่ สน.ประเวศ เพื่อนำเด็กชายรายนี้เข้าสู่กระบวนการช่วยเหลือทางกฎหมาย
ทั้งนี้ พ่อเลี้ยงและแม่ของ ด.ช.เอ ยอมรับว่า ได้ตีและทำร้ายร่างกายลูกจริง แต่ทำไปเพียงต้องการสั่งสอน เนื่องจากความซุกซนของลูก บางครั้งถึงขั้นแอบเล่นไฟแช็ค ซึ่งเกรงว่าจะทำให้เกิดเพลิงไหม้ รวมถึงการพูดจาหยาบคายด้วย ส่วนเรื่องยาเสพติดนั้น ยอมรับว่าเคยถูกดำเนินคดีข้อหาเสพยาเสพติด แต่ตอนนี้เลิกเสพแล้ว มีบ้างเป็นบางครั้งที่นำใบกระท่อมมาเคี้ยว รวมถึงกัญชาหลังจากเปิดเสรี
“เรื่องที่ชาวบ้านบอกว่า ตนทำร้ายร่างกายลูกนั้น ตนไม่สามารถห้ามความคิดใครได้ หากทางเจ้าหน้าที่จะรับไปดูแลตนก็ยินดี เนื่องจากไม่มีกำลังในการส่งเสีย เลี้ยงดู เพราะความยากจน ซึ่งตนเพิ่งมาเลี้ยงลูกคนนี้เมื่อช่วงเดือนพฤศจิกายน ที่ผ่านมา”
ด้านเพื่อนบ้านที่อาศัยอยู่ที่อาคารเดียวกัน เล่าว่า เห็นเด็กถูกทำร้ายมานานแล้ว เห็นทุกวัน ชาวบ้านแถวนี้รู้กันหมด ซึ่งตนเองเคยถามกับเด็กว่า ไปโดนอะไรมา ก็ได้คำตอบว่า ถูกกระทืบ พอการทำร้ายเกิดบ่อยขึ้น ชาวบ้านก็รู้สึกสงสาร จึงแจ้งตำรวจ
จากนั้น ตำรวจควบคุมตัวพ่อเลี้ยงและแม่ของ ด.ช.เอ ทำการสอบปากคำ พร้อมทั้งตรวจหาสารเสพติด ขณะที่เมื่อตรวจสอบสภาพร่างกายของเด็กชายเอ บริเวณแขน ขา ศีรษะ และใบหน้า มีรอยบาดแผล โดยที่บริเวณขา พบรอยแผลเป็นหลายแห่ง ส่วนที่อุ้งมือขวา มีลอยช้ำ บวมปูดขนาดใหญ่
ด้าน นางปวีณา กล่าวว่า มีพลเมืองดีได้แจ้งมาว่ามีเด็กถูกตีทุกวัน และวันนี้ถูกตีหนักมาก กลัวว่าเด็กจะเป็นอันตราย และทราบมาว่าทั้งพ่อเลี้ยงและแม่ อาศัยอยู่ในบ้าน จึงประสานตำรวจเข้าข่วยเหลือ ซึ่งต้องขอบคุณพลเมืองดีที่แจ้งเบาะแสให้มเพราะทุกวันนี้มีปัญหาสังคมเยอะมาก เมื่อแจ้งเบาะแสมาจะช่วยเหลือทันที
หลังจากนี้ เด็กจะอยู่ในความดูแลของกระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ หรือ พม. และทาง พม. จะเป็นผู้เข้าแจ้งความดำเนินคดี ตาม พ.ร.บ.คุ้มครองเด็ก มาตรา 40 ข้อหาทำร้ายร่างกายเด็ก และพยานหลักฐานที่พลเมืองดีแจ้งมา ทั้งนี้ ตัวเด็กได้พูดชัดเจนว่าถูกพ่อเลี้ยงและแม่แท้ๆ กระทำ โดยรุนแรงสุดคือถูกพ่อเลี้ยงกระทืบ จากนี้ จะส่งตัวเด็กไปดูแลที่บ้านพักเด็กและครอบครัวกรุงเทพมหานคร
ขณะที่ พ.ต.อ.สุพล กล่าวว่า จากนี้จะทำการตรวจสอบสอบสารเสพติดในร่างกายพ่อเลี้ยงและแม่ของเด็ก หากพบสิ่งผิดกฎหมายก็จะดำเนินคดีตามกฎหมาย อย่างไรก็ตาม ขณะนี้ยังไม่ได้พูดคุยกับทางผู้ต้องหาแต่อย่างใด
ส่วน นางราตรี กล่าวว่า สภาพร่างกายนั้นมีร่างกายค่อยข้างเล็ก หลังจากนี้จะต้องตรวจจร่างกายและฟื้นฟูสภาพจิตใจของเด็ก รวมถึงจะให้แพทย์ทำการประเมินอีกครั้ง ขณะที่เท่าที่พูดคุยกับเด็กคนนี้ยังไม่เคยไปโรงเรียน แต่ยังดีที่เด็กสามารถโต้ตอบได้อย่างดี และดีใจเมื่อเจ้าหน้าที่เข้าช่วยเหลือครั้งนี้