หลังจากตำรวจจับกุม นายมอส คลองขวาง ได้พร้อมกับพวก หลังก่อเหตุกราดยิงมีผู้ได้รับบาดเจ็บสาหัส โดยปมสาเหตุมาจากเรื่องโพสต์ข้อความท้าทาย และปมเรื่องชู้สาว รวมถึงปัญหาอื่นที่สะสมหลายเรื่องด้วย
ล่าสุด นางสาวนันทวัน พาระสิงห์ พี่สาวของนายมีน พาระสิงห์ หรือ "มอส" ผู้ต้องหา ออกมาเปิดหลักฐานเป็นแชทที่นายบุ๊ค ผู้บาดเจ็บจากเหตุการณ์นี้เป็นผู้คุกคามน้องชายตนเองมาตลอดซึ่งทางครอบครัวทราบเรื่องตั้งแต่ช่วงเดือนมิถุนายนที่ผ่านมา น้องชายมักจะมาระบายให้ฟังว่าถูกนายบุ๊ค บุกไปถึงบ้านพักและถ่ายรูปที่บริเวณบ้านพักและส่งแชทมาเพื่อเรียกให้น้องชายลงไปเจรจาเกี่ยวกับเรื่องชู้สาวที่อดีตแฟนของนายบุ๊คมาติดพันตัวน้องชาย รวมถึง น้องชายยังเคยถูกผู้บาดเจ็บใช้อาวุธปืนบุกมาถึงบ้านพักและจ่อที่ศีรษะ ซึ่งผู้บาดเจ็บ ยังคงคุกคามเรื่อยมาทุกวันจึงเชื่อว่าเป็นสาเหตุทำให้น้องชายขาดสติและตัดสินใจลงมือก่อเหตุ
“ปกติ น้องชายเป็นคนไม่ใจร้อน เพราะหากน้องเป็นคนใจร้อนคงก่อเหตุกลับผู้บาดเจ็บตั้งแต่ตอนที่โดนในช่วงแรกๆ ไม่จำเป็นต้องทนมานานกว่า 3 เดือน ส่วนความขัดแย้งเกี่ยวกับเรื่องวงแชร์ ไม่ทราบรายละเอียดมากนัก รู้แต่เพียงว่าน้องชายต้องการเปียแชร์รอบนี้ จำนวนเงิน 20,000 บาทเพื่อนำเงินดังกล่าวมาจ่ายค่ารถที่ซื้อต่อมาจากนายโย่ง ที่เป็นเพื่อนในกลุ่มเดียวกันกับผู้เสียหาย”
นางสาวนันทวัน บอกอีกว่าก่อนหน้านี้การตกลงกันซื้อขายรถคันดังกล่าวในวงเงิน 300,000 บาทและทางน้องชายได้มีการจ่ายเงินไปจำนวน 280,000 บาทแล้วและขาดเงินก้อนสุดท้ายอีก 20,000 บาทจึงมีความต้องการเปียแชร์ก้อนดังกล่าวเพื่อชำระค่ารถทั้งหมด ซึ่งสุดท้ายมารู้ภายหลังว่า เท้าแชร์ให้เปียใหม่ซ้ำ ทำให้น้องชายตนเองไม่ได้ ส่วนรายละเอียดมากกว่านี้ไม่ทราบ
ผู้สื่อข่าวถามถึงอาชีพของนายมอส ทางด้านพี่สาว บอกว่าอาชีพของน้องชายตนนั้น รู้แต่เพียงว่า หลังพ้นโทษในคดีวิ่งราวทรัพย์ได้หันมายึดอาชีพส่งอาหารมาโดยตลอด ส่วนปืนที่ใช้ก่อเหตุนั้นน้องชายไม่เคยมีเพราะไม่มีความจำเป็นต้องใช้อาวุธปืน แต่หลังจากถูกนายบุ๊คผู้ได้รับบาดเจ็บบุกมาใช้ปืนจ่อที่ศีรษะในบ้านพักจึงเริ่มหาอาวุธปืนมาใช้แต่ไม่ทราบว่าน้องชายพกติดตัวไปทุกวันหรือไม่
“รถยนต์ แจ๊ส สีเหลือง ที่บอกว่าน้องชายใช้ขับหนีไป ขอยืนยันว่า รถคันนี้ถูกจอดทิ้งไว้ที่หลังบ้านของตัวเอง ซึ่งเป็นคนละหลังกับที่บ้านน้องชายพัก ตอนนี้ยังหากุญแจรถไม่เจอ เพราะน้องชายเขาอ้างว่าโยนกุญแจไว้ในบ้าน คนในบ้านช่วยกันหาแต่ยังไม่เจอ ต่อมาทางตำรวจได้ใช้รถยกมาทิ้งไว้ที่สน. เพราะถูกยึดเป็นของกลางในคดี”