
สืบเนื่องจาก ปฎิบัติการพิเศษของตำรวจ บุกค้นสถานที่ บ้านพัก รวมถึงที่ตั้งบริษัทที่อาจเข้าไปพัวพันกับ “กลุ่ม 4 บ.” ดังกล่าว เบื้องต้น สามารถแบ่งผู้ถูกกล่าวหาได้ 2 กลุ่ม ดังนี้
กลุ่ม 4 บ. ทำธุรกิจร่วมกัน 5 บริษัท และมีธุรกิจย่อยของตัวเองรวมกันอย่างน้อย 10 แห่ง
กลุ่มผู้จัดการทางการเงินให้กลุ่ม 4 บ.
โดยเฉพาะ “ณพมนัส” หรือ “มายส์” ถูกตำรวจเข้าตรวจค้นบ้าน และบริษัทฯ โดยจากแนวทางสืบสวนเจ้าตัวทำหน้าที่เป็นผู้จัดการเรื่องเงินให้กับกลุ่ม 4 บ. และดำเนินการอายัดทรัพย์สินทั้งปืน กระเป๋าแบรนด์เนม สมุดบัญชีธนาคาร เอกสารการจดทะเบียนบริษัท ซึ่งมีความเชื่อมโยงกับ กลุ่ม 4 บ. ไว้สอบสวนต่อ
ขณะเดียวกันจากการตรวจค้นบริษัทฯ ที่เกี่ยวข้อง สืบเนื่องจากการขยายผลการตรวจค้นที่บ้านพักของ มายส์ ย่านประชานิเวศน์ หลังพบเอกสารจัดตั้งบริษัทที่มีความเชื่อมโยงระหว่าง มายส์ กับ “เอกชัย ขจรบุญถาวร” หรือ “บอส” พี่ชายคนรองของ กลุ่ม 4 บ.
อ่านข่าวที่เกี่ยวข้อง >>
"ชัยวุฒิ" ยก "ดิว" ตัวอย่างพลเมืองดี กล้าเปิดโปง "มาเก๊า 888" ขอ ตร.ดูแลความปลอดภัย
ช่างประจำทีมรถดริฟต์ “เบนซ์ เดม่อน” รับติดต่อครั้งสุดท้ายเดือน ม.ค.
กระเทาะขุมทรัพย์ “วอเตอร์ โซนิค” ธุรกิจ “มายส์” เชื่อมโยงคนถือเงิน “4 บ.” พบคนดังร่วมหุ้นด้วยเพียบ
สำหรับบริษัทที่ “มายส์” และ “บอส” ตั้งร่วมกันนั้น กรุงเทพธุรกิจ ตรวจสอบพบว่า คือ บริษัท วอเตอร์ โซนิค จำกัด มีนายณพมนัส และนายเอกชัย เป็นกรรมการบริษัทร่วมกัน
ข้อมูลจาก กรมพัฒนาธุรกิจการค้า เมื่อวันที่ 6 ก.พ. 2566 พบว่า บริษัทแห่งนี้ จดทะเบียนเมื่อวันที่ 15 ก.ค. 2558 ทุนปัจจุบัน 5 ล้านบาท ตั้งอยู่ที่ 1000/137 ซอยสุขุมวิท 55 แขวงคลองตันเหนือ เขตวัฒนา กรุงเทพมหานคร แจ้งประกอบธุรกิจกิจกรรมของบริษัทตัวแทนและสำนักงานคัดเลือกนักแสดง ปรากฏชื่อกรรมการ 3 ราย ได้แก่
นำส่งรายชื่อผู้ถือหุ้นล่าสุดเมื่อ 5 ก.ย. 2565 มีผู้ถือหุ้นรวม 12 ราย ได้แก่ นายณพมนัส สังขทรัพย์ ถือหุ้นใหญ่สุด 44% นายเอกชัย ขจรบุญถาวร ถือรองลงมา 17% นายวุฒิธร มิลินทจินดา (วู้ดดี้ พิธีกรชื่อดัง) ถือ 10% นายสุสิชณ์ทักษ์ อัจฉริยะสมบัติ ถือ 10% นางนวลชืน เจริญลาภ ถือ 5% นายพงษ์กร ร่วมพัฒนกิจ ถือ 2.5%
น.ส.อมราภรณ์ ปฎิภาณวิเศษ (แต่งงานกับนายอนุรักษ์ เก่งเรียน มีศักดิ์เป็นสะใภ้ พล.ร.อ.บรรณวิทย์ เก่งเรียน อดีตประธานที่ปรึกษากระทรวงกลาโหม) ถือ 2.5% นายพณ ศรีสอ้าน ถือ 2% นายอนันตพร บุญญาเสถียร ถือ 2% นายรชต ธันยาวุฒิ (นักธุรกิจดัง จัดงานอีเวนท์) ถือ 2% นายธนัช ลิขิตวัฒนานุรักษ์ ถือ 2% นายองค์ จันทภาษา ถือ 1%
นำส่งงบการเงินล่าสุดเมื่อปี 2564 มีสินทรัพย์รวม 10,423,551 บาท หนี้สินรวม 582,257 บาท มีรายได้รวม 74,250 บาท รายจ่ายรวม 16,500 บาท กำไรสุทธิ 57,750 บาท
ขณะที่ธุรกิจอื่น ๆ ของ “ณพมนัส” หรือ “มายส์” ผู้ถูกกล่าวหาคดีดังกล่าวนั้น พบว่า ส่วนใหญ่ทำธุรกิจกับคน “วงการบันเทิง” เป็นหลัก เช่น บริษัท แซ๊ป ออนเซล จำกัด ที่มีนายณพมนัสเป็นกรรมการ พบว่า นายเทพวรรณ คณินวรพันธุ์ หรือ “บาส” นักธุรกิจด้านการจัดอีเวนท์ชื่อดังอย่าง “ZAAP Party” เป็นผู้ถือหุ้นใหญ่ 50% และบริษัท ไทย บรอดคาสติ้ง จำกัด ถือหุ้น 49.999% (บริษัทแห่งนี้มีบริษัท เวิร์คพอยท์ เอ็นเทอร์เทนเมนท์ จำกัด (มหาชน) ถือหุ้นใหญ่สุด 100%)
รวมถึง บริษัท แซ๊ป เวิลด์ เอ็นเตอร์เทนเม้นท์ จำกัด ที่มี “ณพมนัส” หรือ “มายส์” เป็นกรรมการร่วมกับ “บาส เทพวรรณ” โดยเจ้าตัวยังถือหุ้นใหญ่ 41.1765% เท่ากับบริษัท แอสเซทไวส์ จำกัด (มหาชน) ที่ถือ 41.1765% เช่นกัน (บริษัทแห่งนี้มีบริษัท เวลท์ แคปปิตอล วัน จำกัด (มหาชน) เป็นผู้ถือหุ้นใหญ่สุด 27.58%) ส่วน “ณพมนัส” ถือหุ้นอยู่ที่ 12.9412%
การเข้าไปร่วมคลุกคลี-ทำธุรกิจกับคนในวงการบันเทิง สะท้อนให้เห็นว่า “คอนเนกชั่น” ของ “ณพมนัส” ผู้ถูกกล่าวหาจัดทำด้านการเงินให้แก่ กลุ่ม “4 บ.” ไม่ธรรมดาเลยทีเดียว
อย่างไรก็ดีนอกเหนือจาก “ณพมนัส” ที่ถูกตั้งข้อหาไปแแล้ว บริษัท กรรมการ และผู้ถือหุ้นที่เหลือ ยังไม่เคยถูกตั้งข้อกล่าวหาใด ๆ ทั้งสิ้น จึงยังถือว่าเป็นผู้บริสุทธิ์อยู่ทั้งหมด