svasdssvasds
เนชั่นทีวี

อาชญากรรม

“ชูวิทย์” เปิดหลักฐาน “ธรรมนัส” เอี่ยว "ตู้ห่าว" บินไปร้อยเอ็ด

23 พฤศจิกายน 2565
เกาะติดข่าวสาร >> Nation Story
logoline

“ชูวิทย์” เปิดหลักฐาน “ธรรมนัส” เอี่ยวช่วย "ตู้ห่าว" บินไปร้อยเอ็ด ยังไม่ชัดฟอกเงินหรือไม่ มั่นใจฝีมือ"บิ๊กโจ๊ก"สางคดี พร้อมแฉมีตัวกลางพา "ตู้ห่าว" พบคนชอบสะสมนาฬิกา

23 พฤศจิกายน 2565 ความคืบหน้า "ทุนจีนสีเทา" ล่าสุด นายชูวิทย์ กมลวิศิษฎ์ อดีตสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร (ส.ส.) กล่าวถึงการเปิดเผยนายทุนจีนสีเทาว่า ตนนำหลักฐานชุดนี้ ให้กับพล.ต.อ.สุรเชษฐ์ หักพาล​ รองผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติแล้ว โดยนายหาว เจ๋อ ตู้ ที่มีชื่อไทยว่า นายชัยณัฐร์ กรณ์ชายานันท์ หรือ "ตู้ห่าว" มีหลานที่หนีออกไปอายุ 21 ปี เวลาหลานไปน้าก็จะไปคู่กัน เพราะหลานจะขับรถ น้าก็จะนั่ง 

ในวันที่ตำรวจบุกผับจิ้งหลิง ตนมั่นใจว่า นายตู้ห่าว อยู่ที่นั่น แต่มีการนำนายตู้ห่าวออก เหลือหลานไว้  จากนั้นก็มีการเคลียร์ให้หลานออกมา และมีรถสี่คัน ทั้งรถโรลส์-รอยซ์ และเบนท์ลีย์  เรื่องเหล่านี้ปล่อยให้เกิดขึ้นได้อย่างไร  ผ่านมาเกือบเดือนหมายจับเพิ่งออกวันนี้ ทั้งที่เป็นคดีร้ายแรง

ข่าวที่เกี่ยวข้อง :

"ชูวิทย์" เดินหน้าแฉ "ทุนจีนสีเทา"

พร้อมกันนี้ข้อสังเกตว่า นายตู้ห่าว สนิทกับใคร รัฐมนตรีคนไหน จากที่ตนเคยเปิดเรื่องสนามบินไป ก็พบว่าเครื่องบินที่นายตู้หาว ใช้โดยสารมีความเชื่อมโยงกับรัฐมนตรีคนหนึ่ง และมักจะใช้เครื่องบินลำนี้ไปใช้หาเสียงอยู่บ่อยๆ อีกทั้งการขออนุญาตลงจอดก็ต้องขออนุญาตโดยรัฐมนตรี ไม่ใช่นายตู้ห่าว เพราะนายตู้ห่าวไม่ได้เป็นสมาชิกฝูงบิน 604 ซึ่งแสดงถึงอิทธิพลของนายตู้ห่าว 

นายตู้ห่าวเป็นคนจีนไม่รู้เรื่องการเมืองไทย แต่มีคนพานายตู้ห่าวไปพบกับคนที่ชอบสะสมนาฬิกา เพื่อไปกราบให้เห็นถึงบารมี จากนั้นก็มีการส่งมอบนาฬิกาปาเต๊ะมูลค่า 10 ล้านบาทให้ นอกจากนั้นยังมีเรื่องเงินหลาย 100 ล้าน เข้ามาเกี่ยวข้อง รวมถึงเงินบริจาคให้พรรคพลังประชารัฐ จำนวน 3 ล้านบาท 

 

จากการตรวจสอบพบว่า นายตู้ห่าว มี 2 สัญชาติ ทั้งไทยและจีน และยังใช้พาสปอร์ตจีนอยู่ ดังนั้นจึงไม่ทราบว่าข้อกฎหมายของ กกต. ให้คนที่ถือ 2 สัญชาติบริจาคเงินพรรคการเมืองได้หรือไม่ ส่วนหลังจากนี้ถือเป็นหน้าที่ของตำรวจในการตรวจสอบ เพราะวันนี้ถือว่าหมดหน้าที่ของตนแล้ว 

เมื่อถามถึงรัฐมนตรีที่เข้ามาเกี่ยวข้องเรื่องนี้ นายชูวิทย์ ไม่ตอบคำถาม แต่ได้เป่าปากแทนคำตอบ และเมื่อถามย้ำอีกครั้ง จึงยอมรับว่า เป็นอดีตรัฐมนตรีที่เคยอยู่พรรคพลังประชารัฐ และสัปดาห์ที่ผ่านมา มีการโทรศัพท์มาเคลียร์และบีบด้วยวิธีการมาเฟียทุกรูปแบบ แต่ยืนยันว่าไม่กลัว และพร้อมรับผิดชอบคำพูดตนเอง วันนี้วิบากกรรม มีสัมภเวสีอยู่ ซึ่งไม่เคยกลัวและจะรอ 

“ชูวิทย์” เปิดหลักฐาน “ธรรมนัส” เอี่ยว "ตู้ห่าว" บินไปร้อยเอ็ด

จากนั้นเมื่อถามถึงอดีตรัฐมนตรีคนดังกล่าว ทำให้นายชูวิทย์ เปิดโทรศัพท์ให้ดูหลักฐาน ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งที่จะมอบให้ กมธ.ป.ป.ช. และพล.ต.อ.สุรเชษฐ์ เพราะมาถึงขนาดนี่แล้วไม่มีอะไรที่ต้องกลัว โดยหลักฐานดังกล่าวเป็นเอกสารลงวันที่ 9 มีนาคม 2565 ขออนุญาตเที่ยวบินส่วนบุคคลบินขึ้นลง และจอดพัก ที่ท่าอากาศยานร้อยเอ็ด โดยมี ร้อยตำรวจเอกธรรมนัส พรหมเผ่า ส.ส.พรรคเศรษฐกิจไทย เดินทางมากับเที่ยวบิน HS-HAO นี้ด้วย 

ทั้งนี้ ส่วนตัวไม่มีปัญหา หรือบาดหมางกับร้อยเอกธรรมนัส แต่นายสันธนะ เป็นคนพูดเองในรายการทีวีรายการหนึ่ง ว่า ร้อยเอกธรรมนัสฝากให้นายสันธนะดูแลคนจีนเหล่านั้น นั่นเป็นจุดเริ่มต้นในการพาดพิงถึงชื่อร้อยเอกธรรมนัส ยืนยันว่า ไม่ได้มาจากตนเอง 

“ชูวิทย์” เปิดหลักฐาน “ธรรมนัส” เอี่ยว "ตู้ห่าว" บินไปร้อยเอ็ด

ทั้งนี้ หลักฐานที่มี ไม่ทราบว่ามีความเชื่อมโยงกันอย่างไรระหว่าง ร้อยเอกธรรมนัส กับนายทุนจีน แต่หลักฐานทั้งหมดจะมอบให้ พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ เท่านั้น และอยากให้เร่งดำเนินการ

ส่วน ผบช.น. จำเป็นต้องร้องเรียน เพราะมาจากภาค 2 ดูแลชลบุรี พัทยา และเมื่อดูจากพฤติการณ์แล้วพบว่ามีตำรวจที่เป็นลูกน้องสับเปลี่ยนผู้ต้องหา ปล่อยรถของกลางออกและดองหมายจับ จึงจำเป็นต้องนำเรื่องนี้ร้องต่อกรรมาธิการตำรวจ เพื่อสอบถึงถึงพฤติการณ์ที่ผับจิ้งหลิง พบนักท่องเที่ยวเสพยา 200 คน มีการเปลี่ยนตัวนายหวัง เจิ้นหนาน อายุ 21 ปี จากนั้นมีการย้ายรองผู้กำกับ ซึ่งเคยอยู่ สน.ยานนาวา นำตัวนายหวัง เจิ้นหนาน ซึ่งเป็นหลานของนายตู้ห่าว หลังจากนั้นมีการแต่งตั้งรองผู้กำกับมารับผิดชอบแทน ปรากฎว่ามีการปล่อยรถมาอีก 4 คัน คันละ 2 ล้านบาท ซึ่งจากนั้นมีการขยายผลและพบว่านายตู้ห่าวเป็นเจ้าของตัวจริง พร้อมเปิดเผยด้วยว่า นายตู้ห่าวไม่ได้อยู่ที่หมู่บ้านลัดดาวัลย์ ตลิ่งชัน แต่อยู่ที่โอ๊ควู้ด สาทร 21 ซึ่งไม่ไกลจากผับจิ้งหลิง 

“ชูวิทย์” เปิดหลักฐาน “ธรรมนัส” เอี่ยว "ตู้ห่าว" บินไปร้อยเอ็ด

ส่วน ร้อยเอกธรรมนัส ถึงขั้นเกี่ยวข้องกับการฟอกเงินของนานทุนจีนหรือไม่ นายชูวิทย์ กล่าวว่า บุคคลนั้นเป็น ส.ส. มีเอกสิทธิ์ ตนไม่ขอพูดพาดพิง ขอให้เป็นหน้าที่ของพล.ต.อ.สุรเชษฐ์ดีกว่า

สำหรับความมั่นใจในฝีมือของพล.ต.อ.สุรเชษฐ์นั้น ตนมองว่า..

"พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ มีเส้นอยู่เส้นหนึ่ง ขอแค่อย่าล้ำเส้น แต่หากมีการล้ำเส้นก็จำเป็นต้องดำเนินการ ยิ่งหากข้างบนไฟเขียวก็ยิ่งช่วยไม่ได้ ส่วนตนเองเป็นเพียงตัวเร่งปฏิกิริยา เช่น หมายจับที่ตนเองกระทุ้งทุกวัน จนที่สุดแล้วจึงมีหมายจับออกมาเมื่อวาน และคิดว่าท้ายที่สุดจะเจอตอแน่นอน เพราะหากไม่เจอตอคงไม่สามารถสลับตัวผู้ต้องหาและปล่อยรถของกลางออกไปได้ รวมถึงการออกหมายจับที่ล่าช้า ไม่เจอตอวันนี้ก็ไม่รู้จะเจอตอวันไหน แต่ที่เจอคือตอจีน ที่ทำธุรกิจสีเทามาหากินแล้วก็ไป ที่มาวันนี้เพราะจีนปิดประเทศ เพราะมีการปราบคอลเซ็นเตอร์"


“ชูวิทย์” เปิดหลักฐาน “ธรรมนัส” เอี่ยว "ตู้ห่าว" บินไปร้อยเอ็ด

logoline