“วิษณุ” แจง กม. “บิ๊กตู่” ไปได้ทุกพรรค แม้เป็นแคนดิเดตนายกฯ พปชร.

23 พฤศจิกายน 2565 ที่ทำเนียบรัฐบาล นายวิษณุ เครืองาม รองนายกรัฐมนตรี กล่าวถึงกรณี พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี เดิมเป็นแคนดิเดตนายกรัฐมนตรีของพรรคพลังประชารัฐ ( พปชร.) แต่หากจะไปสังกัดพรรคใหม่ จำเป็นต้องออกจากพรรคพลังประชารัฐก่อนหรือไม่ ว่า ไม่ต้อง เพราะใกล้จะหมดวาระแล้วในอีกไม่กี่เดือน และหากจะมีการยุบสภาก่อนหมดวาระ บัญชีรายชื่อของผู้ที่เคยเป็นแคนดิเดตนายกรัฐมนตรี ก็จะหายไปทั้งหมด เพราะต้องเลือกนายกรัฐมนตรีใหม่ และก็ไม่สามารถเลือกได้เพราะต้องมีสภาใหม่ก่อน ซึ่งผู้ที่มีรายชื่อในแคนดิเดตนายกรัฐมนตรี จะต้องอยู่ในพรรคการเมืองเดียวโดยความสมัครใจ และตอนที่เสนอชื่อจะต้องขอความสมัครใจด้วยเช่นกัน

อย่างไรก็ตาม ตอนนี้ชื่อของ พล.อ.ประยุทธ์ ยังคงอยู่ในบัญชีของพรรคพลังประชารัฐ   แต่หากจะไปอยู่พรรคใหม่หรือพรรคอะไรก็ตามที ก็ไม่มีเหตุที่จะต้องหานายกรัฐมนตรี เพราะไม่ส่งผลกระทบอะไร แต่เมื่อมีเหตุต้องหานายกรัฐมนตรี ก็ต้องจัดการให้ตัวเองมีรายชื่ออยู่ในพรรคเดียว เช่นอาจจะถอยกลับมาอยู่พรรคเก่า

ขณะเดียวกันแม้ว่ารายชื่อ พล.อ.ประยุทธ์ จะอยู่ในพรรคพลังประชารัฐ แต่ก็สามารถไปสมัครเป็นสมาชิกพรรคการเมืองใหม่ได้ เพราะไม่ได้ดูคุณสมบัติในระหว่างทาง เช่นเดียวกับกรณีของ นายชัชชาติ สิทธิพันธ์ หรือ คุณหญิงสุดารัตน์ เกยุราพันธุ์ ที่ยังมีชื่ออยู่ในบัญชี กรณีนี้ไม่สงสัยกันบ้างหรือ ว่า ขณะนี้คุณหญิงสุดารัตน์ก็ไปเป็นหัวหน้าพรรคอีกพรรคการเมืองหนึ่งแล้วด้วยซ้ำ แต่เมื่อถึงเวลาที่จะต้องหานายกรัฐมนตรีขึ้นมาจริง ตอนนั้นก็จะต้องทำให้คุณสมบัติครบถ้วน

ส่วนการที่ดำรงตำแหน่งนายกรัฐมนตรีด้วย และเป็นสมาชิกของพรรคการเมืองอื่นด้วย จะมีผลต่อการได้เปรียบเสียเปรียบในการหาเสียงเลือกตั้งหรือไม่นั้น นายวิษณุ มองว่า ไม่เป็นปัญหา เพราะทุกครั้งที่ปลายสมัยสภา และจะมีการเลือกตั้งก็เป็นเช่นนี้ทุกครั้ง

นายวิษณุ ยังปฏิเสธตอบคำถามว่า หากนายกรัฐมนตรีมาขอคำปรึกษาจะแนะนำให้อยู่พรรคเดิมหรือไม่ เพราะเคยพูดไปแล้ว หากมีคำตอบใหม่ถึงจะตอบ

ส่วนหากถูกตั้งคำถามถึงมารยาททางการเมือง มองว่าก็อาจถูกตั้งได้ อีกทั้งยังเชื่อว่าจะไม่กระทบต่อการบริราชการแผ่นดิน

ส่วนก่อนหน้านี้ พล.อ.ประยุทธ์ ไม่ได้เป็นสมาชิกพรรคการเมือง แต่หลังจากนี้หากเป็นจะมีข้อจำกัดด้านกฎหมายหรือไม่ นายวิษณุ บอกว่าหากอยู่นานอาจมีข้อจำกัด ตอนนี้ไม่นาน “ข้อจำกัดคือจะบริหารกันอย่างไร ท่านเป็นหัวหน้าพรรค เป็นหัวหน้ารัฐบาล แต่ในรัฐบาล และ ครม. ไม่มีลูกพรรคท่านอยู่เลย”

แต่เนื่องจากระยะเวลาที่เหลืออยู่ไม่มากนัก ตนคิดว่าไม่น่าจะเกิดปัญหาจนกระทบสิ่งใด ก่อนเอ่ยว่า “อย่าไปคิดอะไรแทนเขาเลยครับ มันไม่มีอะไรน่ากลัวถึงขนาดนั้น เป็นห่วงเป็นใยกันจริงไม่ใช่เป็นห่วงประเทศชาตินะ แต่เป็นห่วงไม่มีอะไรจะพาดหัว”