วันนี้ (27 ก.ย.) เมื่อเวลา 11.00 น. ที่บริเวณริมถนนทางเข้า โรงเรียนวัดจันทร์ตะวันตกมิตรภาพที่ 73 ต.วัดจันทร์ ต.ในเมือง อ.เมือง จ.พิษณุโลก กลุ่มนักเรียนชั้น มัธยมศึกษาปีที่ 2 ชั้นประถมศึกษาบางส่วน ผู้ปกครอง และแม่ครัวโรงเรียน กว่า 20 คน ได้รวมตัวถือป้ายไวบอร์ดยืนประท้วง พร้อมส่งเสียงขับไล่ ผอ.โรงเรียน
โดยที่ป้ายไวท์บอร์ดเขียนข้อความว่า “ช่วยหน่อยนะคะ ไม่เอา ผอ.คนนี้ #ออกไป ไม่เอา ผอ.คนนี้ พร้อมเขียน พฤติกรรม ผอ. เป็นข้อว่า 1.ปิดสหกรณ์ 2.ไม่ให้สั่งของนอก รร.มากิน 3.ดูถูกนักเรียนว่ายากจน 4.ค้นกระเป๋านักเรียน 5.ส่องเฟซบุ๊กนักเรียนใครมีแฟน 6.ไม่ให้ต้มมาม่ากิน 7.จะยุบโรงอาหาร 8.ปิดประตูไม่ยอมให้เข้า-ออก 9.ปิดเพจโรงเรียนไม่ให้คนนอกรับรู้ข่าวสาร
ตัวแทนนักเรียนได้ออกมาพูดถึงพฤติกรรม ผอ.ว่า ตอนมาแรก ๆ ก็ดี แต่หลัง ๆ ไม่ดีเลย บางเรื่องก็ทำเกินไป ทั้งดูถูกนักเรียน ไล่แม่ครัวออก ด่าครูผู้สูงอายุกว่า ครูเอาของเครื่องใช้มาให้นักเรียนก็ว่า เด็กนักเรียนต้มมาม่ากินก็ว่า อย่างเรื่องมาม่าก็บอกว่า กลัวไฟจะช๊อตทั้ง ๆ ที่ครูท่านอื่น เป็นคนต้มน้ำให้ก็ไม่ได้ ที่ต้องต้ม เพราะชั้นมัธยมไม่มีอะไรกินเลย อาหารกลางวันของโรงเรียน ก็ให้ทานได้เฉพาะอนุบาล - ประถมฯ ปกติเด็กมัธยมฯ จะมีสหกรณ์ได้ซื้อของกินได้ แต่ตอนนี้สหกรณ์ปิดมาได้ประมาณ 2 เดือนแล้ว เด็กมัธยมต้องหาอะไรมากินเอง บางทีเอาข้าวมากิน อากาศร้อนจัดก็ทำให้อาหารบูด สั่งเดลิเวอรี่มาส่งก็ไม่ได้
ตัวแทนนักเรียน กล่าวว่า ที่ผ่านมา ผอ.ไม่เคยจัดประชุมผู้ปกครองเลย จึงอยากจะให้ ผอ.คนนี้ออกไป ทนไม่ไหวหลายครั้งมาก ดูถูกนักเรียนแย่มาก นักเรียนใส่เสื้อผ้าเลอะเพราะซักไม่ออกก็ว่า บ้านจนไม่มีเงินซื้อเสื้อผ้าใหม่ ที่ออกมาวันนี้ส่วนใหญ่ ผู้ปกครองรู้เรื่องและสนับสนุน แต่ตัวผู้ปกครองส่วนใหญ่มาไม่ได้เพราะต้องทำงาน ก่อนหน้านี้ก็เคยคุยกับ ผอ.แต่ก็ไม่มีอะไรดีขึ้น ตนและกลุ่มเพื่อน ๆ น้อง ๆ เตรียมตัวมานานมากแล้ว แต่ก็ไม่สามารถออกมาพูดได้ เพราะถ้าออกมาพูดก่อนจะสอบก็อาจจะโดนไล่ออก ตอนนี้สอบเสร็จแล้วจึงออกมาเรียกร้อง
ด้านแม่ครัวของโรงเรียนได้ออกมาเปิดเผยว่า ตนเป็นแม่ครัวของโรงเรียนมายาวนานถึง 15 ปี จู่ ๆ ทาง ผอ.ประกาศว่า ตั้งแต่เทอมหน้าเป็นต้นไป จะยุบเรื่องโรงอาหาร จะจ้างคนภายนอกเหมาทำอาหารเข้ามาส่งแทน ทำให้ตนเหมือนตกงานไปโดยปริยาย แต่ที่น่าเจ็บใจคือ ไม่บอกกับตัวเองล่วงหน้า ไม่บอกโดยตรง ตนต้องรับฟังมาจากคนอื่น
ทางด้าน ผอ.ศุภมาศ ช่างมี ผู้อำนวยการโรงเรียนวัดจันทร์ตะวันตกมิตรภาพที่ 73 ได้ให้ข้อมูลกับทีมข่าว แต่ไม่อนุญาตให้บันทึกภาพ โดยบอกว่า โรงเรียนฯ มีครูทั้งหมด 10 คน พนักงานราชการ 1 คน มีนักเรียนระดับชั้นอนุบาล - มัธยมศึกษา จำนวน 91 คน โดยตนมารับตำแหน่งผู้อำนวยการโรงเรียน เมื่อช่วงเดือน ต.ค. 64 และได้ชี้แจงตามแต่ละข้อที่นักเรียนกล่าวหาว่า
กรณี “สั่งปิดสหกรณ์โรงเรียน” ได้สั่งให้หยุดกิจการจริง เพราะตนมาดูบัญชีแล้วทราบว่า ขาดทุน ไม่รู้ว่าผิดพลาดตรงไหนถึงขาดทุน จึงให้ครูเดิมที่ขายหยุดไป และตั้งครูคนใหม่มาทดลองขาย ปรากฏว่าได้กำไร แต่ทั้งหมดทั้งมวลมองว่า ครูไม่ได้มีหน้ามานั่งขายของสหกรณ์ หรือต้องมานั่งเสียบลูกชิ้นขาย ควรเอาเวลาไปสอนดีกว่า จึงได้เปิดประมูลให้บุคคลภายนอกเข้ามาขาย แต่เปิดไป 3 รอบแล้วก็ไม่มีใครเข้ามาเลย จึงปิดไปก่อน ตั้งใจว่าเทอมหน้าจะเปิดอีกครั้งโดยทางโรงเรียนจะลงทุนเอง แล้วหาจ้างคนมานั่งขาย
ส่วนกรณี “จะยุบโรงอาหาร” ไม่เป็นความจริง แต่มีการประกาศเหมาจ้างใหม่ ทำให้แม่ครัวคนเดิมต้องหยุดทำอาหารไป จึงอาจจะเกิดความเข้าใจผิดกัน กรณี “ไม่มีอาหารกลางวันให้นักเรียนชั้นมัธยมศึกษากิน” เป็นเรื่องจริงเพราะโรงเรียนวัดจันทร์ตะวันตกมิตรภาพที่ 73 มีนักเรียนทั้งหมด 91 คน แต่ได้รับงบประมาณอาหารกลางวันเฉลี่ยหัวละ 21 บาท และได้รับมาเฉพาะเด็กเล็กจนถึงชั้นประถมเท่านั้น จึงทำให้ไม่มีงบในการเลี้ยงอาหารกลางวันเด็กมัธยม เด็กชั้นมัธยมต้องห่อข้าวมากินเอง
ส่วนเรื่อง ไม่ให้ต้มมาม่า ก็เป็นเรื่องจริงเพราะไม่อยากให้เด็กทาน แต่มาม่าเพราะไม่มีประโยชน์ต่อร่างกาย ประกอบกับนักเรียนบางคนยกกระติกน้ำร้อนแบบต้มน้ำร้อนเร็วมาต้มเอง อันนี้ตนไม่เห็นด้วยเพราะอาจจะเกิดอันตรายได้จึงสั่งห้ามไป
กรณี “ไม่ให้สั่งอาหารเดลิเวอรี่" ผอ.ย้ำไม่เป็นความจริง ตนไม่เคยห้ามนักเรียนสั่งอาหารเดลิเวอรี่มาทานแต่อย่างใด ส่วนกรณี “ส่องเฟซบุ๊กนักเรียน” ในนักเรียนบางคน ที่อาจจะต้องการการดูแลและช่วยเหลือให้คำปรึกษาใกล้ชิด จึงต้องดูพฤติกรรมนักเรียน จะได้ช่วยแก้ปัญหาได้ถูกทางเท่านั้น ส่วนเรื่อง ที่ปิดประตูโรงเรียน เพราะตนหวั่นเกรงเรื่องของคนแปลกหน้า ที่เข้ามาในโรงเรียนโดยพละการ เกรงจะมีเรื่องของการมั่วสุมของผิดกฎหมายหรือยาเสพติด ที่จะก่อผลกระทบแต่เด็กนักเรียนภายในโรงเรียน
โดยหลังจากนี้ตนจะเชิญตัวกลุ่มนักเรียน ผู้ปกครอง และแม่ครัว เข้ามานั่งคุยกันชี้แจงและอธิบายสาเหตุต่าง ๆ ให้เข้าใจ และเพื่อหาทางออกร่วมกัน