"สุทิน"ชี้เอกสาร"มีชัย-บิ๊กตู่"หลุดขาดน้ำหนักสิ้นเชิงย้ำม.158ยึดไม่ได้

8 กันยายน 2565 "นายสุทิน คลังแสง" ส.ส.มหาสารคาม พรรคเพื่อไทย เปิดเผยว่า การที่ศาลรัฐธรรมนูญเตรียมวินิจฉัยการดำรงตำแหน่งนายกรัฐมนตรี ครบ 8 ปี ของ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา  ในวันนี้ (8ก.ย.) โดยข้อสังเกตในประเด็นหลักฐานของ "นายมีชัย ฤชุพันธ์" อดีตประธานคณะกรรมการร่างรัฐธรรมนูญ (กรธ.) ที่ถูกนำมาเผยแพร่นั้น ซึ่งหลักฐานดังกล่าวหมดน้ำหนักแล้ว เพราะในทางการพิจารณาคดี ถ้าเอกสารขัดกัน ถือว่าพยานหลักฐานไม่มีน้ำหนัก เพราะรายงานการประชุมครั้งที่ 500 กับ 501 ขัดกันชัดเจน

ทั้งนี้ คิดว่าในการพิจารณาคดีหลักฐานส่วนนี้ ไม่มีความจำเป็น แต่ที่เห็นว่าชัดเจนที่สุด คือ หากไปอ่านมาตรา 264 มีประเด็นที่อยากชี้ว่า น่าจะเป็นข้อพิจารณาที่ชัดเจนที่สุด คือ มาตรา 264 ที่ได้เขียนยึดโยงไปกับนายกรัฐมนตรี ก่อนที่จะมีการประกาศใช้รัฐธรรมนูญปี 60 หากอ่านแล้วไม่จำเป็นต้องวิเคราะห์เจตนารมณ์

ส่วนต่อมา คือ พระบรมราชโองการโปรดเกล้าฯ แต่งตั้งนายกรัฐมนตรี จะมองข้ามประเด็นนี้ไม่ได้ การมีพระบรมมราชโองการโปรดเกล้าฯแต่งตั้งนายกรัฐมนตรี เมื่อปี 57 ถือว่าเป็นนายกฯที่สมบูรณ์ และตรงกับมาตรา 158 ทุกประการ

สำหรับประเด็นที่ 3 หากจะมีการตีความว่าไม่นับย้อนหลัง ต้องนับจากปี 60 อยากชี้ให้ไปดูข้อสังเกตที่มาตรา 158 หากมุ่งหมายอย่างนั้น มาตรา 158 จะต้องเขียนไว้ว่า มาตรา 158 นี้ ไม่ให้มีผลบังคับกับรัฐบาลที่เกิดขึ้นก่อนรัฐธรรมนูญนี้ประกาศใช้ เขียนแบบนี้จะชัดเจนที่สุด การไม่เขียนแบบนี้ คือ เจตนาที่จะให้มีผลไปถึงรัฐบาลก่อนหน้านี้

อย่างไรก็ตาม ส่วนตัวมั่นใจว่าพยานหลักฐานที่ฝ่ายค้านยื่นไปเพียงพอ และชัดเจน แต่ก็ขึ้นอยู่กับดุลยพินิจของศาลรัฐธรรมนูญ โดยส่วนตัวมองว่าคำชี้แจงของ พล.อ.ประยุทธ์ และนายมีชัย ขาดน้ำหนักโดยสิ้นเชิง

นายสุทิน กล่าวต่อว่า กรณีเอกสารชี้แจงหลุดออกมานั้น มองว่ามีนัยยะในการโยนหินถามทางและนำทางการพิจารณา แต่คนที่ทำเอกสารหลุดอาจคาดการณ์ผิด ว่าฝ่ายค้านจะมีเอกสารใหม่ คือ บันทึกการประชุม ครั้งที่ 501 และตนจะหาข้อมูลเพิ่มหลังมีนักกฎหมายแนะนำว่า ให้ไปดูบทเฉพาะกาลของรัฐธรรมนูญปี 21 ที่นายมีชัย เป็นผู้เขียนมาเทียบกับปัจจุบัน ซึ่งจะชัดเจนว่าเจตนาของคนเขียนเป็นแบบไหน นั่นคือการเป็นนายกรัฐมนตรีเมื่อไหร่ในทางข้อเท็จจริง ก็คือเมื่อนั้น ไม่ได้อยู่กับกฎหมายที่บังคับใช้

"การสืบทอดอำนาจ พล.อ.ประยุทธ์ มีการอ้างถึงการเปลี่ยนผ่าน ทำให้คนเข้าใจว่าจะมีการปฏิรูปประเทศ แต่ทุกวันนี้ จะเห็นได้ชัดว่าประเทศ ยังไม่มีการปฏิรูปเลยแม้แต่น้อย ตอนนี้เป็นเพียงการเปลี่ยนผ่านจากประยุทธ์ 1 ไปสู่ประยุทธ์ 2 และกำลังไปประยุทธ์ 3" นายสุทิน ระบุ