เปิดใจ นร.ม.5 เล่านาที นพ.ซิ่งเก๋งฝ่าธงแดงชนคาทางม้าลาย

ภายหลังมีผู้ใช้เฟซบุ๊ก Pawarissara Pompom ได้แชร์เหตุการณ์รถยนต์ขับพุ่งชนนักเรียน 3 ราย ได้รับบาดเจ็บ บนทางม้าลายหน้าโรงเรียนสันติราษฎร์วิทยาลัย ถึงแม้ว่าขณะเกิดเหตุมีเจ้าหน้าที่โบกธงให้หยุดแล้วก็ตามนั้น

ล่าสุด ทีมข่าวได้ลงพื้นที่บริเวณทางม้าลายดังกล่าว พบว่าเป็นทางม้าลายบนถนน 2 เลน ขนาดเล็ก โดยผู้ใช้ต้องเดินลอดผ่านสะพานข้ามแยกพญาไท ซึ่งในช่วงเช้าก่อนเข้าเรียน และช่วงเย็นหลังเลิกเรียนทางโรงเรียนจะมีการจัดเจ้าหน้าที่ ร่วมกับเทศกิจ มีการโบกธงสีแดง และใส่เสื้อสีเขียวสะท้อนแสงมาคอยอำนวยความสะดวก ให้เกิดความปลอดภัยให้กับนักเรียน ตลอดจนผู้ที่สัญจรไปมาสามารถข้ามถนน 

จากการที่ได้พูดคุยกับครูเวรที่ดูแลนักเรียนบริเวณหน้าโรงเรียน ระบุว่า ทางโรงเรียนได้มีการจัดเจ้าหน้าที่มาคอยดูแลความปลอดภัยให้กับนักเรียนในการข้ามถนน ซึ่งตั้งแต่เริ่มปฏิบัติหน้าที่มา เหตุการณ์นี้ถือเป็นครั้งแรกที่เกิดขึ้น

ทั้งนี้ทีมข่าวยังได้รับการเปิดเผยจาก นายภัทรพล วิริยานนท์ นักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 5 ที่ถูกรถชนปรากฏตามในคลิปว่า ยืนยันในวันดังกล่าวตัวเอง และนักเรียนหญิงอีก 2 คน ที่ถูกชน ไม่ได้เล่นโทรศัพท์มือถือระหว่างข้ามถนน ตอนนั้นข้ามถนนด้วยความระมัดระวังตามปกติ ซึ่งบริเวณนั้นมีท่อน้ำจึงต้องก้มลงไปมองเพราะกลัวที่จะตกท่อ แต่เมื่อเงยหน้าขึ้นมาเห็นรถคันดังกล่าว ก็ได้ชนตัวเองไปแล้ว

เมื่อโดนชนกลัวว่าจะมีรถคันอื่นมาชนซ้ำ จึงรีบลุกด้วยความตกใจ ก่อนที่คนขับรถจะลงมาขอโทษ และขับรถออกไปตามที่ปรากฏในภาพ หลังเกิดเหตุการณ์ทำให้รู้สึกกลัวการข้ามทางม้าลาย และระแวงเมื่อจะต้องข้ามถนนเพียงคนเดียว จากเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นตนเองไม่โทษโรงเรียน และเห็นว่าทางโรงเรียนทำดีที่สุดแล้ว ที่มีการจัดเจ้าหน้าที่ในการดูแล แต่ต้องโทษความประมาทของคนขับรถที่ขับมาชน

ส่วนอาการตอนนี้ ยังคงเจ็บระบมที่ขา และสะโพกซ้าย ที่กระแทกกับพื้น รวมถึงแผลที่คาง ที่กระแทกกับพื้นจนมีเลือดออก

ขณะที่ แม่ของนายภัทรพล เปิดเผยว่า ตั้งแต่เกิดเหตุทางคู่กรณีไม่ได้มีการสอบถามอาการเจ็บ และติดต่อมา พบกันครั้งเดียวที่สถานีตำรวจวันที่เกิดเหตุซึ่งคู่กรณีมาโดยที่ไม่มีการพูดคุยอะไรบอกเพียงแต่ว่า ผมกำลังตั้งสติอยู่ แล้วก็ให้ทนายความจัดการในเรื่องของค่ารักษาพยาบาล 

ซึ่งเมื่อช่วงเช้าที่ผ่านมาตนได้พาลูกชายไปตรวจร่างกายที่โรงพยาบาล และมีกำหนดรับใบรับรองแพทย์การตรวจร่างกายในวันที่ 26 สิงหาคม และทางตำรวจมีการนัดคนเจ็บ และคู่กรณีเข้าไปพบในวันที่ 31 สิงหาคมนี้

ส่วนเด็กนักเรียนรายอื่นๆ ต่างบอกเป็นเสียงเดียวกันว่า รู้สึกตกใจกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น ทางมาหลายควรเป็นจุดที่ข้ามถนนได้อย่างปลอดภัย ซึ่งไม่น่าจะมีเหตุการณ์นี้ขึ้น หลังจากนี้หากจะข้ามทางม้าลายบริเวณนี้ก็คงต้องเพิ่มความระมัดระวังมากยิ่งขึ้น

ขณะเดียวกัน นางธัญจิรา โชติพงศ์กุล ผู้อำนวยการโรงเรียนสันติราษฎร์วิทยาลัย ระบุว่า ยอมรับเหตุการณ์ครั้งนี้เป็นครั้งแรกที่ถือว่ารุนแรงที่สุด เท่าที่ได้พูดคุยกับผู้ปกครองของเด็กที่ได้รับบาดเจ็บ จนทราบว่าเด็กยังมีสภาพจิตใจน่าเป็นห่วง ยังมีความหวาดกลัวเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น ตลอดจนเด็กนักเรียนคนอื่นๆด้วย

"หลังจากนี้ไปทางโรงเรียนได้มีมาตรการ ขยายเวลาให้มีเจ้าหน้าที่อำนวยความสะดวกขณะข้ามถนนในช่วงเช้ามากขึ้น และให้สวมชุดที่ผู้ขับขี่มองเห็นได้ชัดเจน อีกทั้งย้ำนโยบาย MOE-safety center สถานศึกษาปลอดภัยที่ผู้ปกครอง และนักเรียนสามารถเข้าไปแจ้งเหตุด่วนเหตุร้ายได้" ผอ.โรงเรียน ย้ำ

นางธัญจิรา ยังบอกอีกว่า สำหรับตัวเหตุผู้ก่อเหตุ หลังเกิดเหตุได้ให้ถ่ายภาพบัตรประชาชน พร้อมทิ้งเบอร์โทรศัพท์ไว้ จากนั้นทางโรงเรียนได้รีบนำตัวเด็กที่บาดเจ็บส่งโรงพยาบาล ก่อนที่ทุกฝ่ายจะไปพบกันที่สน.พญาไท ซึ่งตัวผู้ก่อเหตุเอง ก็ยินดีที่จะรับผิดชอบค่าเสียหาย และค่ารักษาพยาบาล

ขณะที่ตำรวจนครบาลพญาไท ได้ทำการสอบปากคำผู้ก่อเหตุ ซึ่งเป็นนายแพทย์โรงพยาบาลชื่อดังแห่งหนึ่ง ให้การว่า วันเกิดเหตุเป็นเวลา 07.45 น.ของวันที่ 19 สิงหาคม ที่ผ่านมา ได้ขับรถยนต์ ออกมาจากคอนโดมิเนียม เลี้ยวซ้ายมุ่งหน้าแยกพญาไท มาในช่องซ้ายสุด แล้วเปลี่ยนช่องทางขวาสุด เพื่อชิดขวาจะกลับรถใต้สะพานข้ามแยกพญาไท แต่ขับมาได้ไม่ไกลก็มาเฉี่ยวชนผู้บาดเจ็บทั้ง 3 คนในจุดเกิดเหตุ ซึ่งเจ้าตัวก็ยินดีจ่ายค่ารักษาพยาบาลของผู้บาดเจ็บทั้ง 3 ราย

เบื้องต้นแจ้งข้อหา “ขับรถโดยประมาทมีผู้ได้รับบาดเจ็บ, ไม่หยุดรถให้คนข้ามทางม้าลาย” ไว้ก่อน หลังจากนี้ต้องรอผลจากทางแพทย์เพื่อระบุอาการผู้บาดเจ็บมาประกอบสำนวน ก่อนดำเนินการตามขั้นตอนของกฎหมายต่อไป