ตร.บ้านโป่ง ลงทุนปลอมเป็นพระ จับขายยาบ้าในวัดดัง

วันนี้ (9 ส.ค.) พ.ต.อ.ปิยะพงษ์ วงค์เกตุใจ ผู้กำกับการ สภ.บ้านโป่ง จ.ราชบุรี เปิดเผยถึงคลิปภาพเหตุการณ์ปฏิบัติหน้าที่ ของเจ้าหน้าที่ตำรวจชุดปราบปรามยาเสพติด สภ.บ้านโป่ง ที่ปลอมตัวแต่งเป็นพระสงฆ์ ล่อซื้อยาบ้าจากพ่อค้ายาเสพติด บริเวณหน้าร้านขายของชำ ภายในวัดชื่อดังแห่งหนึ่ง ริมถนนเพชรเกษม ต.หนองอ้อ อ.บ้านโป่ง ว่า การจับกุมดังกล่าว เกิดขึ้นเมื่อช่วงบ่ายวันที่ 5 ส.ค. ที่ผ่านมา 
 

หลังตำรวจได้รับเรื่องร้องเรียนจากประชาชนว่า มีการลักลอบนำยาเสพติดเข้ามาจำหน่ายภายในวัดบ่อยครั้ง  จึงสั่งการให้ ร.ต.อ.วิรัช ขวัญชู รองสารวัตรปราบปราม ทำหน้าที่หัวหน้าชุดปราบปรามยาเสพติด สภ.บ้านโป่ง วางแผนล่อซื้อยาบ้า  มีการนัดแนะส่งมอบยาบ้าที่บริเวณหน้าร้านขายของชำภายในวัด โดยมีกำลังเจ้าหน้าที่ตำรวจไปซุ่มรออยู่รอบ ๆ พร้อมทั้งวางแผนให้ ด.ต.เกษม ดวงมา หนึ่งในเจ้าหน้าที่ชุดปราบปรามยาเสพติด ไปขอยืมผ้าสบงและอังสะของพระในวัดมาสวมใส่ ปลอมตัวเป็นพระ ไปยืนอยู่ตรงจุดนัดหมายส่งยาเสพติด  

ต่อมา นายอิทธิพร หรือโชค พลเรียบ อายุ 29 ปี และนายวิโรจน์ หรือ อ๊อฟ สนธิสาขา อายุ 31 ปี ชาว ต.หนองกบ อ.บ้านโป่ง พากันขับขี่จักรยานยนต์ยี่ห้อฮอนด้า เวฟ 110 ไอ สีดำ-แดง หมายเลขทะเบียน 1กว - 9336 ราชบุรี เข้ามาหน้าร้านขายของชำ ด.ต.เกษม ซึ่งปลอมเป็นพระยืนรออยู่ จึงกระโดดเข้าตะครุบตัวคนทั้ง 2 ไว้  พร้อมกำลังเจ้าหน้าที่ตำรวจที่ซุ่มรอได้ตรงเข้าช่วยกันจับกุมตัว  จากการตรวจค้นพบยาบ้า 5 เม็ดในตะกร้าหน้าจักรยานยนต์ และพบอีก 29 เม็ดในกระเป๋าเสื้อของ นายอิทธิพร รวมยาบ้าทั้งหมด 34 เม็ด

สอบสวน นายอิทธิพร รับสารภาพว่าได้ซื้อยาบ้ามาจาก นายต่อ ไม่ทราบนามสกุล บ้านอยู่หนองตะแคง โดยรับมาครั้งละ 50 -100 เม็ด ในราคาเม็ดละ 20 บาท แล้วนำมาจำหน่ายให้ผู้เสพอีกต่อหนึ่ง ในราคาเม็ดละ 30 - 40 บาท และส่วนหนึ่งเก็บไว้เสพเอง กระทั่งได้รับการติดต่อซื้อยาบ้า จำนวน 5 เม็ด จึงชักชวน นายวิโรจน์ พากันขี่จักรยานยนต์ นำยาบ้ามาส่งที่หน้าร้านขายของขำภายในบริเวณวัด และถูกตำรวจจับกุมตัวไว้ได้ 

เจ้าหน้าที่แจ้งข้อกล่าวหาทั้ง 2 คน ว่าร่วมกันจำหน่าย (โดยการขาย) ซึ่งยาเสพติดให้โทษประเภท 1 เมทแอมเฟตามีน (ยาบ้า) อันเป็นการกระทำเพื่อการค้าในบริเวณสถานอันเป็นที่เคารพในทางศาสนา โดยไม่ได้รับอนุญาตตามกฎหมาย และเสพยาเสพติดให้โทษประเภท 1 เมทแอมเฟตามีน โดยผิดกฎหมาย นำส่งพนักงานสอบสวน ดำเนินการต่อไป