svasdssvasds
เนชั่นทีวี

การเมือง

"กองทัพอากาศ" เปิดเอกสารแจงยิบ เหตุจำเป็นต้อง"จัดซื้อเครื่องบินรบ" F-35 A

31 กรกฎาคม 2565
เกาะติดข่าวสาร >> Nation Story
logoline

"กองทัพอากาศ" เปิดเอกสารแจงเหตุจำเป็นต้อง"จัดซื้อเครื่องบิน F-35 A" เพราะเครื่องบินรบเริ่มทยอยปลดประจำการ เตรียมยกระดับทัพฟ้าให้มีคุณภาพ-ดำรงขีดความสามารถในการปฏิบัติภารกิจ-รับมือภัยคุกคามต่างๆ

 

เมื่อวันที่ 31 ก.ค.65   พลอากาศตรี ประภาส สอนใจดี โฆษกกองทัพอากาศ ชี้แจงผลกระทบกรณีการเลื่อนโครงการจัดหาเครื่องบินขับไล่โจมตีทดแทน หลังจาก กมธ. ตัดงบประมาณจัดซื้อ "F-35 A" ว่า ปัจจุบันกองทัพอากาศมีเครื่องบินขับไล่โจมตี 5  ฝูงบิน โดยได้ปรับปรุงขีดความสามารถของอากาศยานที่มีอยู่ เพื่อให้ดํารงขีดความสามารถในการปฏิบัติภารกิจเอาไว้

 

พลอากาศตรี ประภาส สอนใจดี โฆษกกองทัพอากาศ

 

แต่จากข้อจํากัดด้านอายุของอากาศยานมีผลต่อขีดความสามารถที่ลดลง ข้อจํากัดการส่งกําลัง และซ่อมบํารุงที่มีราคาสูงขึ้น รวมทั้งมีระยะเวลาในการจัดหาพัสดุอะไหล่ที่ยาวนาน ส่งผลให้กองทัพอากาศมีความจําเป็นที่จะต้องทยอยปลดประจําการอากาศยานประเภทเครื่องบินขับไล่โจมตีจาก 5 ฝูงบิน จนเหลือ 2 ฝูงบิน ในปี พ.ศ.2575 โดยกองทัพอากาศ วางแผนดําเนินการจัดหาเครื่องบินขับไล่โจมตี 1 ฝูงบิน เพื่อมาทดแทน 3 ฝูงบินที่ได้วางแผนทยอยปลดประจําการ เพื่อดํารงขีดความสามารถในการปฏิบัติการบินรบในอากาศ และการโจมตีทางอากาศต่อไปเป็นเวลาอย่างน้อยอีก 40 ปี

 

"กองทัพอากาศ" เปิดเอกสารแจงยิบ เหตุจำเป็นต้อง"จัดซื้อเครื่องบินรบ" F-35 A

ทั้งนี้ ปัจจุบันมีการขยายอิทธิพลจากชาติมหาอํานาจสู่ภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้มากขึ้น รวมถึงปัญหาการเมือง และความมั่นคงภายในแต่ละประเทศ ทําให้หลายประเทศในภูมิภาคมีการสะสมกําลังทางทหาร โดยเฉพาะอย่างยิ่งกําลังทางอากาศที่มีขีดความสามารถสูงในการปฏิบัติการทางทหาร อาทิ เมียนมา, มาเลเซีย และเวียดนาม โดยมีการจัดหาเครื่องบินขับไล่สมรรถนะสูง (เช่น เครื่องบินแบบ Su-27 และ Su-30)

 

 

"กองทัพอากาศ" เปิดเอกสารแจงยิบ เหตุจำเป็นต้อง"จัดซื้อเครื่องบินรบ" F-35 A

ซึ่งอันดับของกําลังทางอากาศของไทยในปัจจุบับอยู่ในอันดับที่ 5 ในอาเซียน กองทัพอากาศจึงจําเป็นต้อง จัดเตรียมกําลังให้มีขีดความสามารถและศักย์กําลังรบทัดเทียมกับประเทศรอบบ้าน เพื่อป้องปรามและเตรียมพร้อมรับภัยคุกคามที่อาจเกิดขึ้น โดยการจัดหาเครื่องบินขับไล่โจมตีทดแทนสมรรถนะสูงยุคที่ 5 คือ เครื่องบิน F-35 ซึ่งราคาปัจจุบันลดลงต่ำกว่า 80 ล้านดอลลาร์สหรัฐ ตั้งแต่ปี ค.ศ.2019 

 

โดยคาดการณ์ราคา Lot 14 อยู่ที่เครื่องละ 77.9 ล้านดอลลาร์สหรัฐ ซึ่งลดลง 12.8 % จาก Lot 11 และมีส่งมอบ เครื่องบิน F-35 แล้ว มากกว่า 820 เครื่อง ทําการบินไปแล้วรวมกว่า 540,000 ชั่วโมงบิน นักบินที่ได้รับการฝึกตามโครงการแล้วมากกว่า 1,695 คน ขณะที่เจ้าหน้าที่ 12,520 คน ปฏิบัติภารกิจแล้วใน 8 หน่วยงาน (Service) ประกาศความพร้อมปฏิบัติการแล้ว 12 หน่วยงาน จากประเทศที่มีประจําการใช้งานในปัจจุบันทั้งหมด 9 ประเทศ นอกจากนี้ค่าใช้จ่ายต่อชั่วโมงในการปฏิบัติการ ยังลดลงถึง 50% นับจากปี ค.ศ.2015

 

สำหรับพัสดุอะไหล่ของอากาศยาน เป็นหนึ่งในปัจจัยสําคัญที่ดํารงขีดความสามารถการป้องกันประเทศของกองทัพอากาศ เเต่ในสภาวการณ์ปัจจุบัน เครื่องบินขับไล่โจมตีของกองทัพอากาศ ใช้งานมาในห้วงระยะเวลา 20- 40 ปี หรือระยะ Aging Phase ยังผลให้มีการปิดสายการผลิตพัสดุอะไหล่ในการซ่อมบํารุง และในบางรายการไม่สามารถจัดหาได้ ทำให้ห้วงเวลาจัดหาพัสดุอะไหล่ทดแทนรอคอยนาน (Long Lead Time) เเละแม้ว่าการดํารงสภาพอากาศยานจะทําให้กองทัพอากาศประหยัดงบประมาณได้บางส่วน แต่หากพิจารณาตามข้อเท็จจริง การดํารงสภาพอากาศยาน ที่มีอายุการใช้งานยาวนาน จะส่งผลกระทบทั้งในด้านความปลอดภัย งบประมาณซ่อมบํารุงที่สูงขึ้น ความพร้อมรบของอากาศยานที่ลดต่ำลง ดังนั้นเครื่องบินขับไล่โจมตียุคที่ 5 สามารถปฏิบัติภารกิจทดแทนทดแทนเครื่องบินขับไล่โจมตียุคที่ 4.5 ได้ในอัตรา 1:3 และแทนเครื่องบินขับไล่โจมตียุคที่ 3-4 ได้ในอัตราส่วน 1:6

 

"กองทัพอากาศ" เปิดเอกสารแจงยิบ เหตุจำเป็นต้อง"จัดซื้อเครื่องบินรบ" F-35 A

กองทัพอากาศ ได้วางแผนในการจัดหาในปริมาณที่ลดลง แต่มีประสิทธิภาพในการปฏิบัติภารกิจที่สูงขึ้น สามารถยกระดับสู่กองทัพอากาศคุณภาพ "Quality Air Force" เพื่อให้มีขีดความสามารถรับมือกับภัยคุกคามได้ทุกรูปแบบ สอดคล้องกับสถานการณ์ด้านความมั่นคงในปัจจุบันและแนวโน้มในอนาคต นอกจากนี้ยังวางแผนผลักดันให้เกิดการมีส่วนร่วมและประโยชน์กับประเทศไทยมากที่สุด โดยกองทัพอากาศมีแผนที่จะเสนอให้บริษัทผู้ผลิตประเมินขีดความสามารถของบริษัทอุตสาหกรรมป้องกันประเทศของไทย ที่มีศักยภาพเพื่อจ้างผลิตชิ้นส่วนอะไหล่ภายในประเทศ (S-Curve 11) และการถ่ายทอดเทคโนโลยีให้กับเจ้าหน้าที่ในการซ่อมบํารุง เพื่อให้มีขีดความสามารถและองค์ความรู้ (S-Curve 12) เพื่อต่อยอดในอนาคต กองทัพอากาศรับรู้และเข้าใจปัญหาเศรษฐกิจของประเทศ การจัดหาเครื่องบินขับไล่โจมตีทดแทนในครั้งนี้ จึงมุ่งสู่การยกระดับกองทัพอากาศและประเทศไทย สู่การมีเทคโนโลยีใหม่ที่เป็นเทคโนโลยีชั้นสูง โดยนําไปสู่การพัฒนาอุตสาหกรรมป้องกันประเทศ ซื่งเป็นส่วนสําคัญเพื่อให้ประเทศไทยสามารถผลักดันการเจริญเติบโต ทางเศรษฐกิจ มีโอกาสสร้างงานในลักษณะแรงงานฝีมือ ซึ่งมีค่าตอบแทนสูง

 

"โฆษกกองทัพอากาศ" กล่าวว่า "เครื่องบินแบบ F-35 A" มีขีดความสามารถและคุณสมบัติตรงตามความต้องการตามรายละเอียด ความต้องการเครื่องบินขับไล่โจมตีและระบบที่เกี่ยวข้องตามที่กองทัพอากาศได้กําหนดไว้ โดย 1 ในรายละเอียดความต้องการด้านระบบอาวุธที่สําคัญที่ได้กําหนดไว้คือ มีขีดความสามารถในการใช้ระบบอาวุธที่มีประจําการอยู่ในกองทัพอากาศ ซึ่งอาวุธดังกล่าวได้แก่ GP Bomb Mk 80 Series, GBU-10 Series, GBU-12 Series และ AIM-120 Series 

 

"กองทัพอากาศ" เปิดเอกสารแจงยิบ เหตุจำเป็นต้อง"จัดซื้อเครื่องบินรบ" F-35 A

 

นอกจากนี้เครื่องบินแบบ "F-35 A "ยังติดตั้งปืนใหญ่อากาศขนาด 25 มิลลิเมตร และสามารถติดตั้งใช้งานระบบอาวุธที่ทันสมัย มีความแม่นยําสูง ทั้งระบบอาวุธนําวิถีอากาศ-อากาศ, อากาศ-พื้น, อากาศ-ผิวน้ํา เช่น AIM-9X, JDAM, AGM-158 JASSM โดยจะได้พิจารณาจัดหาเข้าประจําการตามกรอบงบประมาณที่เอื้ออํานวยต่อไป

 

จากข้อมูล Defense Security Cooperation Agency (DSCA) ซึ่งเสนอข้อมูลประเทศที่ร่วมผลิตและสั่งซื้อเครื่องบิน F-35 มีประเทศที่ร่วมในการสั่งซื้อเครื่องบิน F-35 รวม 20 ประเทศ ยอดรวมการสั่งซื้อกว่า 3,400 เครื่อง จะส่งผลให้ราคาเครื่องบินลดลง ค่าอะไหล่และการซ่อมบํารุงลดลง

 

สําหรับโครงการจัดหาเครื่องบินขับไล่โจมตีทดแทน กองทัพอากาศได้ส่งหนังสือ Letter of Request (Price and Availability : P&A) ให้กับ JUSTMAGTHAI เมื่อ 28 ธ.ค. 64 เพื่อให้เข้ากระบวนการ ซึ่งต้องผ่านขั้นตอนการขออนุมัติจากหน่วยงานต่างๆ ของสหรัฐฯ โดยมีระยะเวลาการขอ P&A ทั้งสิ้นโดยประมาณ 12 เดือน คาดการณ์ว่าจะได้รับคําตอบภายใน ม.ค. 66 ซึ่งหากได้รับการอนุมัติการขาย พร้อมทั้งทราบระยะเวลาการจัดหา รวมถึงราคายุทโธปกรณ์ กองทัพอากาศจะสามารถดําเนินการในเรื่อง Letter Of Offer And Acceptance (LOA) กับทางการสหรัฐฯ แล้วเสร็จใน มิ.ย. 66 ซึ่งจะส่งผลให้กองทัพอากาศ สามารถลงนามในหนังสือ LOA และสามารถผูกพันงบประมาณได้เรียบร้อยใน ส.ค. 66 

 

การดําเนินการในการจัดทําหนังสือ LOA กับทางการสหรัฐฯ กองทัพอากาศต้องทราบงบประมาณที่จะได้รับในโครงการจัดหาเครื่องบินขับไล่โจมตีทดแทนก่อน ถึงจะทําการตกลงกับสหรัฐฯ ได้ ถึงจํานวนอากาศยาน และส่วนสนับสนุนอื่นๆ ภายใต้การจัดทําสัญญาตามกรอบงบประมาณที่ได้รับ แต่หากกองทัพอากาศมิได้รับงบประมาณในปี 66 ก็ไม่สามารถจัดทําหนังสือ LOA กับสหรัฐฯ ได้ และหากกองทัพอากาศเสนอความต้องการเครื่องบิน F-35 ในปี 67 จะทําให้ต้องรอคิวการพิจารณาสายการผลิต และไม่สามารถเริ่มกระบวนการจัดหาได้ทัน ประเทศเยอรมนี กรีก และสาธารณรัฐเชค (กลุ่ม NATO) ซึ่งมีแผนจะสั่งจองการผลิต ในปี 65-66 ซึ่งหากกองทัพอากาศสั่งจองการผลิตล่าช้าจะต้องต่อคิวจากทั้ง 3 ประเทศ และความพร้อมปฏิบัติการของเครื่องบิน F-35 ครบฝูง จะเลื่อนออกไปเป็นปี 77 ซึ่งในห้วงเวลา ปี 75 – 77 ส่งผลให้ประเทศไทยจะขาดขีดความสามารถในการป้องกันภัยทางอากาศ เพราะปลดประจําการเครื่องบินขับไล่โจมตีที่มีอายุการใช้งานจํานวนมาก

 

"กองทัพอากาศ" เปิดเอกสารแจงยิบ เหตุจำเป็นต้อง"จัดซื้อเครื่องบินรบ" F-35 A

 

ดังนั้น หากมิได้จัดสรรงบประมาณในโครงการจัดหาเครื่องบินขับไล่โจมตีทดแทน ในปี 66 จะเป็นผลให้กองทัพอากาศไม่สามารถจัดทําหนังสือ LOA กับทางการสหรัฐฯ ได้ทันในปี 66 ส่งผลให้การจัดหาเครื่องบินขับไล่โจมตีทดแทนล่าช้าไปอีก 2 ปี ทําให้เสียโอกาส และขาดความพร้อมรบของฝูงบินขับไล่โจมตีทดแทนที่ล่าช้าจาก ปี 75 เป็นปี 77 

 

อย่างไรก็ตาม กองทัพอากาศกําหนดความต้องการระยะ 10 ปี (2563– 2573) ตามที่ระบุในสมุดปกขาว 2563 ปรับปรุงแผนการจัดหาเครื่องบินขับไล่โจมตีทดแทน โดยคณะกรรมการศึกษาและจัดทําความต้องการเครื่องบินขับไล่โจมตี ให้มีความเหมาะสมกับงบประมาณที่กองทัพอากาศได้รับ และคํานึงถึงขีดความสามารถ ในการปฏิบัติภารกิจให้ได้ในปี 75 โดยมีรายละเอียด ดังนี้

 

- ระยะที่ 1 ผูกพันงบประมาณ 4 ปี (66 - 69) จํานวน 2 เครื่อง วงเงินงบประมาณ 7,382 ล้านบาท 

 

- ระยะที่ 2 ผูกพันงบประมาณ 4 ปี (69- 71 ) จํานวน 4 เครื่อง วงเงินงบประมาณ 14,628 ล้านบาทเศษ 

 

- ระยะที่ 3 ผูกพันงบประมาณ 4 ปี (72- 75 ) จํานวน 6 เครื่อง วงเงินงบประมาณ 21,924 ล้านบาทเศษ 

 

รวมเป็นวงเงินรวมทั้งสิ้น 43,935 ล้านบาทเศษ

logoline