“รองผบ.ตร.” ยัน “เหยื่อฆ่าฝังดิน” ชายไม่ใช่ชาวเอเชีย-หญิง เป็นคนอีสาน

ความคืบหน้าทางคดีของ2ศพที่ถูกฆ่าฝังดินในป่าชุมชน ต.ทุ่งอรุณ อ.โชคชัย จ.นครราชสีมา วันนี้ชุดสืบสวนมีการประชุมติดตามความคืบหน้าคดี หลังจากลงพื้นที่หาพยานหลักฐานเพิ่มเติม

โดยรองผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ พล.ต.อ.สุชาติ ธีระสวัสดิ์ บอกถึงความคืบหน้าคดี ว่า ขณะนี้มีข้อมูลที่ได้จากแพทย์ชันสูตร พบว่า ผู้เสียชีวิตที่เป็นผู้ชาย มีลักษณะพันธุกรรม โครงกระดูกและรูปร่างต่างๆ ไม่ใช่ชาวเอเชียแน่นอน ส่วนจะเป็นยุโรปหรือไม่ ยังยืนยันได้ไม่ชัด

ทั้วนี้แนวทางการพิสูจน์ทราบตัวบุคคลของผู้เสียชีวิตทั้ง 2 ราย เบื้องต้นจะใช้แนวทางนิติวิทยาศาสตร์ในการพิสูจน์ทราบว่าผู้เสียชีวิตทั้ง2คนเป็นใคร และคาดว่าจะใช้เวลาประมาณ 2 วัน หรือประมาณวันอังคารนี้ จะมีความชัดเจนขึ้น แต่เบื้องต้นจากข้อมูลพบว่า ผู้เสียชีวิตที่เป็นผู้หญิงไม่ใช่คนในพื้นที่ จ.นครราชสีมา แต่เป็นคนในพื้นที่ภาคอีสาน

และนอกจากนี้ แนวทางการสืบสวน ยังพบข้อมูล ด้วยว่า ในระยะเวลาประมาณ 1 เดือน ผู้เสียชีวิตทั้ง 2 คน ไปติดต่อหน่วยงานราชการแห่งหนึ่งในพื้นที่ จ.นครราชสีมา ซึ่งมีพยานบุคคลจดจำรูปพรรณสัณฐานและรอยสักของผู้หญิงได้ ซึ่งขณะนี้ยังอยู่ระหว่างตรวจสอบโดยละเอียด

และพยานรายนี้ ตำรวจได้สอบปากคำไว้เป็นข้อมูลแล้ว  ซึ่งจากการสอบปากคำพยานทั้งหมด พบว่า มีพยานปากสำคัญจำนวน 2 ปาก ที่มีความน่าเชื่อถือและเป็นประโยชน์ต่ออรูปคดี ทั้งในเรื่องที่มาของผู้เสียชีวิตว่าเป็นใครและเรื่องที่เกี่ยวข้องกับการฝังศพ

ส่วนความคืบหน้าการตรวจสอบจากรอยสักของผู้เสียชีวิที่เป็นผู้หญิงนั้น พบว่า บนร่างมีการสักทั้งหมด 5 จุด เป็นลักษณะทั้งการสักและการเพ้นท์ ซึ่งขณะนี้ทราบข้อมูลแล้วว่าเป็นรอยสักประเภทใด มีชื่อเรียกว่าอะไร รวมถึงมีข้อมูลร้านที่รับสักประเภทนี้แล้ว ซึ่งอยู่ระหว่างการตรวจสอบรายละเอียด แต่เบื้องต้นไม่ใช่ร้านที่อยู่ในพื้นที่ จ.นครราชสีมา

พล.ต.อ.สุชาติ ยังบอกอีกว่า หากทราบว่า ผู้เสียชีวิตเป็นใครก็จะทราบกลุ่มผู้ต้องสงสัย แต่เบื้องต้นมีกลุ่มผู้ต้องสงสัยอยู่บ้างแล้ว เพราะมีพยานหลักฐานทางนิติวิทยาศาสตร์ที่เก็บได้จากที่เกิดเหตุ ส่วนจะเชื่อมโยงกันมากน้อยแค่ไหน อยู่ระหว่างตรวจสอบ แต่ยังเปิดเผยรายละเอียดไม่ได้

ส่วนกรณีการตรวจสอบซิลิโคนที่เป็นวัตถุพยาน พล.ต.อ.สุชาติ บอกว่า ขณะนี้มีข้อมูลในสำนวน แต่อยู่ระหว่างการตรวจสอบว่าซิลิโคนดังกล่าวนำเข้าจากต่างประเทศหรือไม่ แต่ในประเทศมีบริษัทที่เป็นตัวแทนจำหน่ายซิลิโคนยี่ห้อนี้อยู่ ซึ่งหากได้ข้อมูลจากบริษัทตัวแทนจำหน่ายก็จะสามารถทราบที่มาที่ไปว่าซิลิโคนยี่ห้อนี้ส่งให้กับโรงพยาบาลหรือคลินิกใดบ้าง และได้ทำให้มีข้อมูลว่าผู้เสียชีวิตไปทำมาจากที่ใด และผู้เสียชีวิตเป็นใคร