เพิ่ม nation online
ลงในหน้าจอหลักของคุณ
กลายเป็นดรามาวงการข้าวไทย ต่อกรณีที่กรมการข้าวเสนอของบประมาณปี 2566 เพิ่มเติม 15,000 ล้าน เพื่อสนับสนุนงบประมาณให้กับ"ศูนย์ข้าวชุมชน" 5,000 แห่ง และ "นายปราโมทย์ เจริญศิลป์" นายกสมาคมชาวนาและเกษตรกรและเกษตรกรไทย กล่าวว่า "ผมไม่ยอม ผมค้านเต็มที่ แล้วไม่ยอมฟังเสียงชาวนา ยกเลิก การจ่ายเงินไร่ ละ 1,000 บาท สูงสุดได้รับเงิน 2 หมื่นบาท ในนามของสมาคมชาวนาจะลุกฮือทั้งประเทศ ตอนนี้ได้ติดต่อไปหลายจังหวัดแล้ว คนพร้อมที่จะเข้าร่วมกันเพื่อคว่ำร่างงบประมาณ 1.5 หมื่นล้าน ผ่านศูนย์ข้าวชุมชน"
ล่าสุดได้ทำหนังสือ ถึง "พลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา" นายกรัฐมนตรี ในฐานะประธานคณะกรรมการนโยบายและบริหารจัดการข้าว เพื่อขอให้ทบทวนเงินสนับสนุนค่าบริหารจัดการต้นทุนการผลิตและค่าเก็บเกี่ยวให้กับเกษตรกรผู้ปลูกข้าว ไร่ละ 1,000 บาท ครัวเรือนละไม่เกิน 20 ไร่ ที่ให้กรมการข้าวดำเนินการโดยผ่านศูนย์ข้าวชุมชน 1.5 หมื่นล้าน
ในขณะที่ "ประธานศูนย์ข้าวชุมชน" สวนกลับ "นายกสมาคมชาวนาและเกษตรกร" วอนอย่าขวางความก้าวหน้าย้อนถามกลับ สมาคมชาวนาไทยฯ เพื่ออยากเห็นเกษตรกรลืมตาอ้าปากได้ใช่หรือไม่
"นายจารึก กมลอินทร์" ประธานคณะกรรมการกลาง ศูนย์ข้าวชุมชนระดับประเทศ ประธานศูนย์ข้าวชุมชนบ้านท่าเยี่ยม ต.บ้านท่าเยี่ยม อ.โชคชัย จ.นครราชสีมา กล่าวถึง กรณี"นายปราโมทย์ เจริญศิลป์" นายกสมาคมชาวนาและเกษตรกรไทย คัดค้านโครงการสนับสนุนลดต้นทุนการผลิตด้านการเกษตรสำหรับเกษตรกรผู้ปลูกข้าว วงเงิน 15,000 ล้านบาท ของกรมการข้าวเพื่อสนับสนุนงบประมาณให้กับศูนย์ข้าวชุมชน 5,000 แห่งทั่วประเทศว่า คิดว่าสมาคมทุกสมาคมตั้งขึ้นมาเพื่อพัฒนาเกษตรกรไทย
เช่น ศูนย์ข้าวชุมชน มีเป้าหมายที่ชัดเจนการผลิตเมล็ดพันธุ์คุณภาพ ทั้งนี้ การจัดทำโคงการดังกล่าว ตนมองว่าจะเป็นความยั่งยืน ไม่ได้มองแค่ว่า รัฐบาลช่วยเหลือเกษตรกรเพียงเฉพาะหน้าเป็นปีต่อปี ซึ่งไม่เกิดความยั่งยืน ปัญหาก็จะเกิดการวนเวียนแบบเดิมๆ หากมองย้อนกลับไปเหมือนกลายเป็นสิ่งเสพติดของเกษตรกร ที่ต้องรอการช่วยเหลือจากรัฐบาล
"ประธานศูนย์ข้าวชุมชน" กล่าวว่า การที่นายกสมาคมชาวนาฯ ออกมาคัดค้านโครงการดังกล่าวฯ ก็เป็นแนวคิดของเขา เพราะไม่ใช่กลุ่มเกษตรกรจริงๆ อย่างพวกเรา ที่เป็นเกษตรกรอย่างแท้จริงซึ่งไม่ต้องรอการช่วยเหลือจากภาครัฐ พวกเราก็อยู่กันมาได้
ทั้งนี้ การเป็นสมาคมที่ส่งเสริมให้เกษตรกรมีรายได้เพิ่มขึ้น ทำไมต้องมาขวาง ซึ่งสิ่งที่นายณัฏฐกิตติ์ ของทิพย์ อธิบดีกรมการข้าว คิดโครงการนี้ขึ้นมา เพื่อต้องการสร้างความยั่งยืน ไม่อยากให้เกษตรกรใช้วิถีชีวิตแบบเดิมๆ
ภาครัฐต้องช่วยเหลือประคองตลอดทำให้เกษตรกรไม่แข็งแรงสักที แต่ถ้าให้เครื่องไม้เครื่องมือ หรือสิ่งที่ศูนย์ข้าวชุมชนไม่มี เช่น ยุ้งฉาง หรือ ไซโลเก็บข้าว กลุ่มสมาชิกก็นำข้าวมาฝากกับทางศูนย์ฯ ก็จะช่วยสร้างรายได้เสริมขึ้นมา และเป็นการสร้างความยั่งยืนมากกว่า
"อยากถามว่า เป้าหมายสมาคมตั้งขึ้นมาเพื่ออะไร เพื่ออยากเห็นเกษตรกรลืมตาอ้าปากได้ใช่หรือไม่ ทั้งนี้ ฝากถึงนายกสมาคมชาวนาฯ อยากให้ต่างคนต่างช่วยกันสร้างความก้าวหน้าให้กับเกษตรกร ดีกว่ามาขวางทาง เพราะอยากให้เกษตรกรทำนาอย่างมีเป้าหมาย พบการเปลี่ยนแปลงที่ดีขึ้น และยั่งยืน" นายจารึก กล่าว
ในขณะที่"นายเกียรติศักดิ์ กายสุต" ประธานศูนย์ข้าวชุมชนบ้านหาดสูง ต.หาดสูง อ.โกรกพระ จ.นครสวรรค์ กล่าวว่า "เห็นด้วยอย่างยิ่งในการที่รัฐบาลจัดสรรงบประมาณสนับสนุนศูนย์ข้าวชุมชนทั่วประเทศ เป็นการสร้างความเข้มแข็ง มั่งคงอย่างยั่งยืนให้กับชาวไทย ที่ผ่านมาแม้หน่วยงานหลักอย่าง "กรมการข้าว" สนับสนุนเครื่องจักรกลการเกษตร แต่ก็ยังไม่เพียงพอเมื่อเทียบกับปริมาณการผลิตข้าว ทั้งยังเป็นการลดต้นทุนได้อีกด้วย
"เครื่องจักรที่ศูนย์อยากได้ก็มี รถไถ รถหว่านข้าว รถเกี่ยว ตอนนี้แรงงานหายากมากแล้วก็ค่าจ้างแพงด้วย มันคือต้นทุน หากได้มาก็จะช่วยสมาชิกได้เยอะมาก นอกจากนี้ยังต้องมีเครื่องอบความชื้น เครื่องคัดเมล็ดพันธ์ โดรนฉีดพ่นปุ๋ยและยาฆ่าโรคและแมลง ที่มีตอนนี้ คือ เครื่องคัดเมล็ดพันธุ์สนับสนุนโดยกรมการข้าวใช้ดีมากได้มา 2 ปีที่แล้วแต่เป็นตัวเล็กอยากได้ตัวใหญ่กว่านี้ ด้วยปริมาณงานที่เพิ่มมากขึ้น" ประธานศูนย์ข้าวชุมชนบ้านหาดสูง
ทั้งนี้เป็นที่น่าสังเกตว่า"นายปราโมทย์ เจริญศิลป์" นายกสมาคมชาวนาและเกษตรกรไทย ได้รับการแต่งตั้งจากนายวัฒนศักดิ์ เสือเอี่ยม อธิบดีกรมการค้าภายใน ให้ดำรงตำแหน่งที่ปรึกษากรมการค้าภายใน มีหน้าที่ให้คำปรึกษาเสนอแนะแก่กรมการค้าภายในเกี่ยวกับแนวทางการดำเนินการพัฒนาตลาดและระบบการค้าสินค้าข้าวและ ผลิตภัณฑ์ รวมทั้งปฏิบัติงานอื่นๆ ตามที่ใด้รับมอบหมาย ทั้งนี้ ให้มีสิทธิเบิกค่าใช้จ่ายในการเดินทางไปราชการต่างๆตามระเบียบ
นอกจากนั้น"นายวัฒนศักดิ์ เสือเอี่ยม" ยังไปเป็นประธานพิธีเปิดศูนย์ประสานงานสมาคมชาวนาและเกษตรกรไทย (ประจำภาคกลาง) เมื่อวันที่ 15 กรกฎาคม ที่ผ่านมา
ประเด็นความขัดแย้งนี้จะนำสู่การขยายต่อหรือไม่เพราะทั้งกระทรวงเกษตรและสหกรณ์และกระทรวงพาณิชย์ ล้วนมีพรรคประชาธิปัตย์คือหัวหน้าพรรคและเลขาธิการพรรคกำกับดูแลทั้งสองกระทรวง