สำนักงานอุตุนิยมวิทยาอังกฤษ รายงานว่า วัดอุณหภูมิได้ 40.2 องศาเซลเซียสที่สนามบินฮีทโธรว์ในกรุงลอนดอนเมื่อเวลา 12.50 น. ของวันที่ 19 ก.ค. ตามเวลาท้องถิ่น ทำลายสถิติเดิมที่เคยวัดได้สูงสุด 38.7 องศาเซลเซียสในปี 2562 และสร้างสถิติใหม่สูงเกินกว่า 40 องศาเซลเซียสครั้งแรก แต่คาดว่า อุณหภูมิจะพุ่งสูงสุดได้อีกถึง 42 องศาเซลเซียส
สภาพอากาศร้อนจัดในอังกฤษยังส่งผลให้ระบบขนส่งคมนาคมหยุดชะงัก เที่ยวบินและการเดินรถไฟหลายเที่ยวถูกยกเลิก หลังจากมีรายงานผิวรันเวย์สนามบินและผิวถนนละลาย และรางรถไฟร้อนจัด โรงเรียนต้องปิด และประชาชนหลายล้านคนต้องทำงานจากที่บ้าน
นอกจากนี้มีรายงานผู้เสียชีวิต 6 รายทั้งในแม่น้ำ ทะเลสาบ และอ่างเก็บน้ำขณะลงเล่นน้ำดับร้อนในช่วงสองวันที่ผ่านมา ท่ามกลางคำเตือนอันตราย ก่อนหน้านี้มีการประกาศเตือนภัยสภาพอากาศร้อนจัดระดับสูงสุดที่ถือว่าเป็นสถานการณ์ฉุกเฉินระดับประเทศ และเตือนว่า อาจทำให้ผู้มีสุขภาพแข็งแรงป่วยและเสียชีวิตได้เช่นเดียวกับกลุ่มเปราะบาง
ขณะเดียวกันหลายประเทศทั่วยุโรปเผชิญกับคลื่นความร้อนและไฟป่า โดยเฉพาะในสเปนและโปรตุเกสมีผู้เสียชีวิตเกินกว่า 1,100 รายแล้ว
ด้านองค์การอุตุนิยมวิทยาโลก หรือ WMO เตือนว่า แม้หลายประเทศจะมีอุณหภูมิสูงสุดในวันอังคาร แต่คาดว่า อุณหภูมิจะยังอยู่ระดับสูงกว่าปกติต่อไปจนถึงกลางสัปดาห์หน้า พร้อมกับเตือนว่า สภาพอากาศร้อนจัดแบบนี้จะยังเกิดบ่อยครั้งขึ้นในอนาคต และเพตเตรี ทาลาส เลขาธิการ WMO บอกว่า เขาเลือกสวมเสื้อเชิ้ตแขนสั้นและผูกไทสีแดงและน้ำเงินในการแถลงข่าวครั้งนี้เพื่อสะท้อนถึงแนวโน้มของโลกร้อน
นอกจากนี้เจ้าหน้าที่ WMO ที่ร่วมแถลงข่าว เตือนว่า อาจมีผู้เสียชีวิตเพิ่มมากขึ้นจากคลื่นร้อน โดยเฉพาะในกลุ่มผู้สูงอายุ และผู้มีโรคประจำตัว และจะเป็นควาท้าทายสำหรับระบบสาธารณสุขเนื่องจากจำนวนผู้ป่วยเข้ารักษาตัวที่โรงพยาบาลจะเพิ่มมากขึ้น