
19 กรกฎาคม 2565 พล.อ.วรเกียรติ รัตนานนท์ ปลัดกระทรวงกลาโหม ชี้แจง ระหว่างการประชุมคณะกรรมาธิการ (กมธ.) วิสามัญ พิจารณาร่างพระราชบัญญัติ (พ.ร.บ.) งบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ พ.ศ.2566 วานนี้( 18 ก.ค.) ถึงการแก้ไขปัญหาเรือดำน้ำไม่มีเครื่องยนต์ว่า เราได้พยายามแก้ไขปัญหาให้เหมาะสมกับทั้ง 2 ฝ่ายโดยคำนึงถึงความสัมพันธ์ที่ดีระหว่างประเทศ แต่กระทรวงกลาโหมต้องปกป้องสิทธิ์และรักษาผลประโยชน์ของชาติอย่างดีที่สุด พยายามหาแนวทางแก้ไขปัญหาแบบฉันมิตรที่ดีต่อกัน
ส่วนการดำเนินการตามขั้นตอน เป็นเรื่องของกองทัพเรือ เป็นผู้ดำเนินการหลัก ส่วนกระทรวงกลาโหมจะเป็นผู้กำกับนโยบาย ตอนทำทีโออาร์ก็ไม่คิดว่าเยอรมันจะไม่ขายเครื่องยนต์เรือดำน้ำให้จีน ทั้งที่ที่ผ่านมาเขาขายให้มาตลอด
ส่วนการจัดซื้อเครื่องบิน F-35 ของกองทัพอากาศนั้น ยืนยันว่าในของเดิมกองทัพอากาศได้ตั้งงบประมาณในการจัดหาเครื่องบินทดแทนโดยการตั้งงบในปี 2561 แต่ยังไม่ได้ระบุว่าจะเป็นเครื่องบินของประเทศไทย แต่หลังจากนั้น กองทัพอากาศ ได้มีการพัฒนาแผนการจัดหาที่มีความชัดเจน โดยการเสนอซื้อเครื่องบินจะต้องมีงบประมาณรองรับเพื่อเป็นหลักประกัน
ส่วนกระบวนการจัดซื้อที่จะต้องผ่านสภาคองเกรสของสหรัฐฯนั้น เป็นเรื่องของสหรัฐฯที่ต้องดำเนินการ ในส่วนของเราแค่ขอสนับสนุน และแจ้งความประสงค์ไปว่าต้องการเครื่องบินที่ทันสมัย ทุกอย่างก็ขึ้นอยู่กับสหรัฐฯในการดำเนินการเร่งรัดให้อย่างไร และทางกองทัพมีแผนรองรับอยู่แล้ว หากการดำเนินการล้าช้า หรือไม่เป็นไปตามที่คาดหวังไว้
ก่อนจบการชี้แจงงบประมาณกระทรวงกลาโหม และกองทัพไทย ทาง พล.อ.เฉลิมพล ศรีสวัสดิ์ ผู้บัญชาการทหารสูงสุด ขอบคุณ กมธ.ที่ให้เหล่าทัพได้มาชี้แจง จากนั้นขออนุญาตประธานในที่ประชุมเปิดเพลง "กองทัพไทยหัวใจเพื่อประชาชน" เพื่อให้ กมธ.ได้เข้าใจภารกิจทหาร เพราะตนพูดไม่เก่ง จึงให้ลูกน้องรวบรวมว่า กองทัพได้ทำอะไรบ้าง โดยประธานอนุญาต เพื่อผ่อนคลายบรรยากาศการประชุม