ความคืบหน้ากรณี ตำรวจ ดส. สนธิกำลัง 191 บุกจับร้านเหล้าย่านสายไหม เปิดไม่ได้รับอนุญาต ปล่อยเด็กเข้าเที่ยว 32 คน ซ้ำยังยาเคเกือบ 1 กรัม เมื่อช่วงกลางดึกที่ผ่าน (อ่านข่าว)
ล่าสุด พล.ต.ต.อรรถพล อนุสิทธิ์ ผู้บังคับการตำรวจนครบาล 2 ( ผบก.น.2 ) เปิดเผยว่า การเข้าตรวจค้นจับกุมดังกล่าว เป็นการร่วมจับของ ตำรวจ ดส. ตำรวจ สน.สายไหม เนื่องจากสถานบันเทิงแห่งนี้ มีคนเข้าไปใช้บริการจำนวนมาก จำเป็นต้องใช้กำลังเจ้าหน้าที่ ทั้ง 2 หน่วย หลังการจับกุม ได้มีคำสั่งให้ประมวลเรื่อง เสนอคณะกรรมการ บช.น. เพื่อปิดสถานที่ดังกล่าวแล้ว ลำดับต่อไปคงมีการเสนอเรื่องถึง สำนักงานตำรวจแห่งชาติ เพื่อปิดสถานที่แห่งนี้ ส่วนผลการดำเนินการจะเป็นอย่างไร ขึ้นอยู่กับทางคณะกรรมการเป็นผู้พิจารณา
ส่วนเหตุที่สถานบันเทิงแห่งนี้เปิดเกินเวลา ผู้บังคับการตำรวจนครบาล 2 ระบุว่า เรื่องนี้ พล.ต.ท.สำราญ นวลมา ผู้บัญชาการตำรวจนครบาล ( ผบช.น. ) ได้มีคำสั่งให้ตนดำเนินการสืบสวนข้อเท็จจริงแล้ว ซึ่งตนได้สั่งการให้คณะสืบสวน ตรวจสอบข้อเท็จจริง โดยกำหนดให้แล้วเสร็จภายใน 15 วัน ก่อนรายงานผลให้ ผบช.น. ทราบต่อไป
ขณะที่ พล.ต.ต.จิรสันต์ แก้วแสงเอก โฆษก บช.น. ระบุ การปฏิบัติงานในครั้งนี้เป็นการจับกุมร่วมกันของ กก.ดส. ตำรวจ 191 และตำรวจ สน.สายไหม หลังได้รับแจ้งเบาะแสจากพลเมืองดี จึงมีการสนธิกำลังการจากทุกหน่วยเข้ามาตรวจสอบ กระทั่งพบการกระทำความผิดดังกล่าว
ดังนั้น บช.น. จึงไม่ได้มีคำสั่งให้ 5 เสือของ สน.สายไหม หรือตำรวจที่เกี่ยวข้องไปช่วยราชการ เนื่องจากเป็นการจับกุมร่วมกันและเป็นการแจ้งเบาะแสจากทางโรงพักในพื้นที่เอง จึงถือว่าไม่ได้เป็นการปล่อยปละละเลยให้เกิดการกระทำความผิดดังกล่าว แต่หากในอนาคตมีข้อมูลพยานหลักฐานว่า ตำรวจในพื้นที่ มีการปล่อยปละละเลยก็จะดำเนินการทางวินัยในภายหลังได้
ส่วนเจ้าของร้ายผู้ต้องหา เบื้องต้นทางตำรวจได้แจ้งหลายข้อหา พร้อมนำตัวส่งพนักงานสอบสวน สน.สายไหม ดำเนินคดี ขณะที่เยาวชนทั้ง 32 ราย ตำรวจได้ทำประวัติและประสานผู้ปกครองให้มารับตัว โดยมีเงื่อนไขให้ดูแลบุตรหลานไม่ให้กระทำผิดอีก หากพบว่าทำผิดเงื่อนไขก็จะดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป
นอกจากนี้ ยังได้สั่งการให้ทุกพื้นที่เพิ่มความเข้มงวดในการตรวจสอบร้านอาหาร ร้านจำหน่ายสุรา และสถานบันเทิงต่าง ๆ ให้ปฏิบัติตามกฎหมาย ทั้งเรื่องการเปิด - ปิดให้ตรงเวลาที่กฎหมายกำหนด และประชาสัมพันธ์ให้ร้านอาหารร้านจำหน่ายสุราต่าง ๆ ไปดำเนินการขอใบอนุญาตให้ถูกต้องตามกฎหมาย