15 กรกฎาคม 2565 กรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย (ปภ.) กระทรวงมหาดไทย ในฐานะกองอำนวยการป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยกลาง (กอปภ.ก.) รายงานจากสถานการณ์มรสุมตะวันตกเฉียงใต้กําลังแรงพัดปกคลุมทะเลอันดามัน ประเทศไทย และอ่าวไทย ประกอบกับร่องมรสุมจะเลื่อนลงมาพาดผ่านภาคเหนือ ภาคตะวันออกเฉียงเหนือตอนบน เข้าสู่หย่อมความกดอากาศต่ำกําลังแรงบริเวณทะเลจีนใต้ตอนบน ซึ่งทําให้ประเทศไทยจะมีฝนเพิ่มขึ้น โดยมีฝนตกหนักถึงหนักมากบางแห่งบริเวณภาคเหนือ ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ภาคกลาง ภาคตะวันออก และภาคใต้ในระหว่างวันที่ 9 - 15 ก.ค. 2565 ส่งผลให้เกิดสถานการณ์ภัยในพื้นที่ ดังนี้
อุทกภัย มีสถานการณ์ในพื้นที่ 11 จังหวัด ได้แก่ ลำปาง พิษณุโลก เพชรบูรณ์ สุรินทร์ ขอนแก่น ชัยภูมิ นครราชสีมา บุรีรัมย์ มุกดาหาร จันทบุรี และระนอง รวม 20 อำเภอ 42 ตำบล 115 หมู่บ้าน บ้านเรือนประชาชนเสียหาย 56 หลัง ผู้เสียชีวิต 1 ราย (นครราชสีมา) ปัจจุบันสถานการณ์คลี่คลายแล้ว 10 จังหวัด ยังคงมีสถานการณ์ในจังหวัดเพชรบูรณ์ระดับน้ำทรงตัว
วาตภัย มีสถานการณ์ในพื้นที่ 14 จังหวัด ได้แก่ แม่ฮ่องสอน จันทบุรี ชลบุรี ตราด สุราษฎร์ธานี นครศรีธรรมราช พัทลุง พังงา ภูเก็ต กระบี่ ตรัง สตูล ระนอง นราธิวาส รวม 48 อำเภอ 132 ตำบล 358 หมู่บ้าน บ้านเรือนประชาชนเสียหาย 1,576 หลัง ผู้ได้บาดเจ็บ 2 ราย (ชลบุรี,นครศรีธรรมราช) ผู้เสียชีวิต 1 ราย (ชลบุรี)
สำหรับการแก้ไขปัญหาและให้การช่วยเหลือ กรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย โดยสำนักงานป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยจังหวัดได้ประสานจังหวัด องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น และหน่วยงานที่เกี่ยวข้องลงพื้นที่ดูแลให้การช่วยเหลือผู้ประสบภัยและสำรวจประเมินความเสียหาย เพื่อดำเนินการช่วยเหลือตามระเบียบกระทรวงการคลังฯ ต่อไป
ทั้งนี้ ประชาชนที่ได้รับความเดือดร้อนจากสาธารณภัย สามารถแจ้งเหตุและขอความช่วยเหลือทางไลน์ “ปภ.รับแจ้งเหตุ 1784” โดยเพิ่มเพื่อน Line ID @1784DDPM และสายด่วนนิรภัย 1784 ตลอด 24 ชั่วโมง นอกจากนี้ ประชาชนยังสามารถติดตามประกาศการแจ้งเตือนภัยได้ที่แอปพลิเคชัน “THAI DISASTER ALERT”
สำหรับรายงานคาดการณ์และแจ้งเตือนภัย ประจำวันที่ 15 ก.ค. 2565
พื้นที่เฝ้าระวังน้ำท่วมฉับพลัน น้ำป่าไหลหลาก น้ำท่วมขัง น้ำล้นตลิ่ง
ภาคเหนือ
ภาคกลาง
พื้นที่เฝ้าระวังน้ำล้นตลิ่ง น้ำท่วมขัง
ภาคเหนือ
พื้นที่เฝ้าระวังน้ำทะเลหนุนสูงบริเวณปากแม่น้ำและพื้นที่ราบลุ่มชายฝั่ง
ภาคกลาง
ภาคใต้
ขอให้ประชาชนในพื้นที่เฝ้าระวังสถานการณ์ภัย ติดตามข้อมูลข่าวสารจากทางราชการ ระวังอันตรายจากสัตว์และแมลงมีพิษ ระวังอันตรายจากกระแสไฟฟ้า ระวังการขับขี่พาหนะบริเวณน้ำไหลผ่านทาง ระวังผลกระทบจากระดับน้ำทะเลหนุนสูง