ไขข้อสงสัย ทำไมราคา "เบนซิน-แก๊สโซฮอล์" ลดฮวบลิตรละ 3 บาท

7 มิถุนายน 2565 บริษัท ปตท.น้ำมันและการค้าปลีก จำกัด (มหาชน) หรือโออาร์ และบริษัทบางจาก คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) ประกาศปรับลดราคาน้ำมัน กลุ่มเบนซินและแก๊สโซฮอล์ ทุกชนิดลง 3.00 บาทต่อลิตร เว้น E85 ลดราคา 1.80 บาทต่อลิตร ส่วนกลุ่มดีเซลทุกชนิดคงเดิม มีผล 8 ก.ค.เวลา 05.00 น. เป็นต้นไป

ทั้งนี้ เหตุผลสำคัญที่ทำให้ราคาน้ำมันเบนซินสามารถลดราคาจำหน่ายลงได้สูงถึง 3 บาท "ฐานเศรษฐกิจ" รายงานว่า "มาจากเรื่องของค่าการตลาดที่ถูกเฉือนออกไป"

อย่างไรก็ดี หากจำกันได้จะรู้เลยว่าเรื่องค่าการตลาดเป็นประเด็นดรามาที่มีการถกเถียงกันระหว่าง พรรคการเมืองที่นำโดย "นายกรณ์ จาติกวณิช"  หัวหน้าพรรค ที่ได้ออกมาเรียกร้องให้นายกรัฐมนตรี กำชับนายสุพัฒนพงษ์ พันธ์มีเชาวน์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพลังงาน ปฏิบัติหน้าที่อย่างเคร่งครัดในช่วงนี้  หลังมีความหละหลวมในการดูแลประชาชนอย่างมาก  
 

ประเด็นเรื่องของ ค่าการตลาด หัวหน้าพรรคกล้าระบุว่า ช่วง 3-4 วันที่ผ่านมานี้ ได้มีการปล่อยให้ผู้ขายนํ้ามันเพิ่มค่าการตลาด (รายได้ของผู้ค้าน้ำมัน) ในกรณีของเบนซินขึ้นมาสูงเกินมาตรฐานปกติอย่างมาก  โดยให้ข้อมูลว่า วันที่ 5 ก.ค. ค่าการตลาด Gasohol95 E10 สูงถึง 3.42 บาทต่อลิตร ส่วน Gasohol 91 อยู่ที่ 3.62 บาทต่อลิตร ค่าการตลาดปกติไม่ควรเกิน 2 บาท

หลังจากนั้นไม่นาน กระทรวงพลังงาน โดยโฆษกกระทรวง นายสมภพ พัฒนอริยางกูล ให้ความเห็นต่อเรื่องดังกล่าวว่า จากแนวทางการพิจารณา "ค่าการตลาด" อ้างอิงของสำนักงานนโยบายและแผนพลังงาน (สนพ.) ในการพิจารณาค่าการตลาดควรดูในภาพรวมของทุกชนิดน้ำมัน เพราะสถานีบริการไม่ได้จำหน่ายน้ำมันเพียงชนิดเดียว และไม่ควรเปรียบเทียบค่าการตลาดเป็นรายวัน เนื่องจากราคาเนื้อน้ำมันมีการเปลี่ยนแปลงขึ้นลงทุกวันตามราคาตลาดโลก โดยหากพิจารณาในปีนี้ค่าเฉลี่ยของค่าการตลาดในแต่ละเดือนก็อยู่ในกรอบที่ภาครัฐติดตามดูแล 

 
หากพิจารณาค่าการตลาดโดยรวมของสถานีบริการ (เฉลี่ยของทุกชนิดน้ำมันทั้งเบนซินและดีเซล) ตั้งแต่วันที่ 1 - 6 กรกฎาคม 2565 อยู่ที่ 2.17 บาทต่อลิตร ซึ่งใกล้เคียงกับค่าเฉลี่ยของปี 2564 ทั้งปี (2.14 บาทต่อลิตร) และอยู่ในกรอบที่ภาครัฐติดตามดูแล (2.00 +/- 0.40 บาทต่อลิตร) 
 

นายสมภพ ยังกล่าวต่อไปอีกว่า หากจะพิจารณาค่าการตลาดน้ำมัน ควรจะดูในภาพรวมของผลิตภัณฑ์ที่มีการจำหน่าย ทั้งน้ำมันเบนซินและดีเซล โดยทางภาครัฐได้มีการศึกษากรอบค่าการตลาดซึ่งควรอยู่ที่ 2 บาท และ +/- ได้ 0.40 บาทต่อลิตรซึ่งหากพิจารณาค่าการตลาดตั้งแต่วันที่ 1 – 6 กรกฎาคม 2565 ค่าการตลาดน้ำมันเฉลี่ยทุกประเภท ทั้งน้ำมันเบนซินและดีเซลจะอยู่ที่ 2.17 บาทต่อลิตร ซึ่งก็อยู่ในกรอบที่ภาครัฐกำหนด 
 

อย่างไรก็ดี จากประเด็นโต้แย้งดังกล่าว จึงนำมาสู่การปรับลดราคาน้ำมันเบนซิน แก๊สโซฮอล์ล่าสุด ซึ่งจะมีผลในวันที่ 8 ก.ค.65 ตั้งแต่เวลา 05.00 น. เป็นต้นไป

นอกจากนี้  การปรับลดดังกล่าวยังสอดคล้องกับทิศทางราคาน้ำมันในตลาดโลกด้วย  โดยราคาน้ำมันดิบเวสต์เท็กซัสและเบรนท์ปรับลดลงต่อเนื่อง แตะระดับต่ำสุดในรอบ 12 สัปดาห์  น้ำมันดิบเวสต์เท็กซัส ปรับตัวหลุดต่ำ 100 ดอลลาร์สหรัฐต่อบาร์เรลมาอยู่ที่ 98 ดอลลาร์สหรัฐต่อบาร์เรล เนื่องจากความกังวลเศรษฐกิจโลกที่อาจชะลอตัวหนักจนเข้าสู่ภาวะถดถอยทั่วโลก

เมื่อมาเจาะดูค่าการตลาดที่ สนพ. ประกาศผ่านเว็บไซด์วันที่ 7 ก.ค. 65 ประกอบด้วย

• แก๊สโซฮอล์ 95 E10 อยู่ที่ 5.7524 บาท
• แก๊สโซฮอล์ 91 อยู่ที่ 5.9468 บาท
• แก๊สโซฮอล์ 95 E20 อยู่ที่ 6.9314 บาท
• แก๊สโซฮอล์ 95 E85 อยู่ที่ 6.2111 บาท
   

ส่วนค่าการตลาดวันที่ 8 ก.ค.65 จะถูกปรับลง 3 บาท ส่งผลให้ค่าการตลาดของน้ำมันเบนซินจะประกอบด้วย 

• แก๊สโซฮอล์ 95 E10 อยู่ที่ 2.7524 บาท
• แก๊สโซฮอล์ 91 อยู่ที่ 2.9468 บาท
• แก๊สโซฮอล์ 95 E20 อยู่ที่ 3.9314 บาท
• แก๊สโซฮอล์ 95 E85 อยู่ที่ 4.4111 บาท

ขอบคุณข้อมูล : ฐานเศรษฐกิจ