ตาก - วันที่ 4 กรกฎาคม 2565 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า โรงเรียนบ้านวาเล่ย์ ตำบลวาเล่ย์ อำเภอพบพระ จังหวัดตาก กลับมาทำการเรียนการสอนอีกครั้ง หลังการสู้รบระหว่างทหารเมียนมา และ กองกำลังกลุ่มชาติพันธุ์ ทำให้ต้องปิดเรียนไปเมื่อวันที่ 1 ก.ค.2565 แต่ผู้ปกครองบางส่วน ยังไม่ส่งบุตรหลานมาเรียน เพราะยังไม่วางใจในสถานการณ์ ขณะที่ กิจกรรมแรก ก่อนการเรียนก็คือ การซักซ้อมแผนหนีภัยหากเกิดการสู้รบตามแนวชายแดนไทย-เมียนมา โดยทางโรงเรียนใช้วิธีส่งสัญญานด้วยกริ่งเตือนภัย จากนั้นทั้งครู และนักเรียนจะเดินไปที่ลานจอดรถใต้ดินในอาคารหลบภัย ภายในโรงเรียน ซึ่งสามารถรองรับได้ไม่น้อยกว่า 500 คน
นางสาวศิรินภา นาทวงษ์ ครูโรงเรียนบ้านวาเล่ย์ เปิดเผยกับเนชั่นทีวีว่า จากเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น เบื้องต้นทางโรงเรียนได้สอบถามความสมัครใจไปยังผู้ปกครองของนักเรียนว่า ต้องการให้บุตรหลานมาเรียนหรือไม่ หากยังไม่พร้อมหรือยังไม่มั่นใจก็สามารถให้นักเรียนหยุดเรียนได้ ทางโรงเรียนไม่ได้บังคับให้นักเรียนมาโรงเรียนเพราะเข้าใจสถานการณ์ในปัจจุบันนี้ โดยวันี้มีนักเรียนที่กลับเข้ามาเรียนทั้งหมดประมาณร้อยละ 80 จากนักเรียนทั้งหมด 293 คน
“ตนกังวลใจว่าเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นมา จะทำให้กระทบต่อการเรียนและพัฒนาการของเด็กนักเรียน เนื่องจากนักเรียนไม่สามารถเรียนรู้ได้อย่างเต็มประสิทธิภาพ สำหรับการแก้ปัญหาเด็กนักเรียนที่ไม่สามารถมาเรียนที่โรงเรียนได้ ทางโรงเรียนจะทำการเรียนในรูปแบบออนไลน์ ควบคู่ไปกับการเรียนในชั้นเรียนปกติ คล้ายกับการเรียนการสอนในช่วงการแพร่ระบาดของโควิด-19 แต่ปัจจุบันผู้ปกครองส่วนใหญ่ก็ยังมั่นใจส่งบุตรหลานมาเรียนที่โรงเรียน” นางสาวศิรินภา กล่าว
ขณะที่ ด.ญ.ธันยพร นักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 3 โรงเรียนบ้านวาเล่ย์ กล่าวว่า จากเหตุการณ์ที่เครื่องบินรบของประเทศเพื่อนบ้านลุกล้ำเข้ามา เมื่อวันที่ 30 มิถุนายน นั้น รู้สึกตกใจและกลัวมาก เนื่องจากในขณะนั้นตนและเพื่อนนักเรียน กำลังกินข้าวเที่ยงอยู่ที่โรงอาหาร และได้ยินเสียงเครื่องบินดังมา 3 รอบ รอบ แรก กับ รอบสอง ยังไม่เกิดอะไรขึ้น แต่รอบที่สามมีเสียงดังคล้ายกับเสียงระเบิดดังขึ้น ทำให้ตนและนักเรียนภายในโรงเรียนต่างวิ่งหนีหาที่หลบภัย บางส่วนได้วิ่งเข้าไปหลบในอาคารหลบภัย บางส่วนก็หลบอยู่ภายในอาคารเรียน ซึ่งเด็กบางคนก็ร้องไห้เนื่องจากกลัวและไม่เคยเจอเหตุการณ์แบบนี้มาก่อน
แต่หลังจากที่มีการซ้อมแผนหลบภัย ตนและเพื่อนรู้สึกมั่นใจขึ้น เพราะหากเกิดเหตุการณ์ขึ้นอีกจะได้รู้ว่าต้องทำอย่างไร และคิดว่าอาคารหลบภัยของโรงเรียนมีความปลอดภัยหากเกิดเหตุขึ้น
จักรินทร์ นมนาน รายงาน