svasdssvasds
เนชั่นทีวี

ภูมิภาค

อาช็อคหลาน 5 ขวบแขนหักกลับบ้านครูไม่สนเบี้ยวค่าเยียวยา

02 กรกฎาคม 2565
เกาะติดข่าวสาร >> Nation Story
logoline

อาสาวพาหลาน 5 ขวบ ส่งโรงพยาบาล หลังพบว่าแขนหักตั้งแต่เที่ยงที่โรงเรียนแต่ครูไม่แจ้งผู้ปกครอง โดยครูอ้างเด็กไม่ร้องขอความช่วยเหลือ จึงไม่พาไปพบแพทย์ ครูขอเยียวยา 5.5 หมื่น แต่กลับลำเบี้ยวไม่จ่ายบอกอยากได้ให้ฟ้อง

2 กรกฎาคม 2565 ผู้สื่อข่าวได้รับการร้องเรียนจากชาวบ้านโคกสูง ต.โคกสูง อ.หนองกี่ จ.บุรีรัมย์ ว่าครอบครัวไม่ได้รับความเป็นธรรม ต้องการให้เป็นกรณีศึกษา หากเด็กนักเรียนได้รับอันตรายภายในโรงเรียนครู ผอ.ควรจะดำเนินการอย่างไร   ผู้ร้องเรียนคือนางสาวกรรณิการ์ คำโส อายุ 42 ปี เลขที่ 55 หมู่ 1 ต.โคกสูง อ.หนองกี่ จ.บุรีรัมย์ พาน้องเตเต้ อายุ 5 ขวบ นักเรียนชั้นอนุบาล 3 โรงเรียนบ้านโคกสูง คูขาด หลานของตัวเองให้ผู้สื่อข่าวดูสภาพแขนซ้ายเข้าเฝือกเพราะแขนหัก น.ส.กรรณิการ์ เล่าว่า เลี้ยงน้องเตเต้ ตั้งแต่อายุ 3 เดือน เพราะพ่อแม่ออกไปทำงานรับจ้างอยู่ต่างจังหวัด ส่วนตนมีศักดิ์เป็นอาอาชีพรับราชการ จึงอาสาเลี้ยงไว้เพราะสงสาร ทุกเช้าหรือเย็นคนในครอบครัว จะผลัดกันไปส่งน้องที่โรงเรียน พอโตขึ้นน้องก็เดินไป หรือกลับเองบ้าง ขึ้นอยู่กับว่าวันนั้นมีใครว่างที่จะไปรับหรือไปส่งน้อง เพราะบ้านอยู่ไม่ห่างจากโรงเรียน

อาช็อคหลาน 5 ขวบแขนหักกลับบ้านครูไม่สนเบี้ยวค่าเยียวยา

 

วันเกิดเหตุคือวันที่ 13 มิ.ย. 65 ช่วงเลิกเรียนบอกให้พี่ชายไปรับหลานที่โรงเรียน เพราะยังอยู่ในที่ทำงานซึ่งตั้งอยู่ภายในหมู่บ้านเดียวกันกับโรงเรียน เวลา 16.00 น.พี่ชายวิ่งมาบอกว่าหลานแขนหักจึงรีบกลับบ้าน เมื่อเห็นสภาพอาการบาดเจ็บของหลานรู้สึกตกใจและสงสารหลานมาก เพราะหลานร้องไห้ตัวสั่น แขนซ้ายหักผิดรูป เมื่อสอบถามหลานบอกว่าแขนหักตั้งแต่ตอนเที่ยงวัน จึงรีบนำส่งโรงพยาบาลนางรอง อ.นางรอง บุรีรัมย์ กว่าหมอจะช่วยเหลือได้เป็นเวลาประมาณ 22.00 น.วันเดียวกัน วันต่อมาจึงได้เดินทางไปโรงเรียนสอบถามผู้อำนวยการโรงเรียนถึงสาเหตุที่เกิดขึ้น    ได้รับคำตอบครูประจำชั้นว่าแขนหลานหักตั้งแต่ตอนเที่ยงแต่เด็กไม่ได้ร้องไห้ ไม่ได้ขอความช่วยเหลือ จากนั้นทั้ง ผอ.และครูประจำชั้น นำกระเช้ามาขอโทษที่บ้าน บอกว่าทางโรงเรียนจะเยียวยาที่ปล่อยปละเลย โดย ผอ.สรุปว่าขอจ่ายเงินเยียวยา 55,000 บาท จึงโทรศัพท์ไปบอกพ่อแม่เด็ก นัดจ่ายเงินในวันที่ 20 มิ.ย

อาช็อคหลาน 5 ขวบแขนหักกลับบ้านครูไม่สนเบี้ยวค่าเยียวยา
 

“ส่วนหนึ่งครอบครัวรู้สึกเห็นใจโรงเรียน จึงตกลงกันว่า จะมอบเงิน 20,000 บาท คืนให้โรงเรียนไว้ไปซื้อกล้องวงจรปิด เมื่อถึงวันที่ 20 มิ.ย.ได้นัดกันที่บ้านผู้ใหญ่บ้าน ทางครอบครัวได้เตรียมเงินจำนวน 20,000 บาท ใส่ซองไว้เตรียมมอบให้ ผอ.เรียบร้อย แต่เมื่อไปถึงที่นัดหมาย ผอ.และคณะกรรมการสถานศึกษา พร้อมครูประจำชั้นมากันพร้อมหน้า สุดท้าย  ผอ.เป็นคนเอ่ยปากเองว่าไม่มีเงินแม้บาทเดียว ถ้าอยากได้ก็ต้องไปฟ้องเอา”นางสาวกรรณิการ์ กล่าว

น.ส.กรรณิการ์ กล่าวว่า รู้สึกผิดหวังของการบริหารของโรงเรียน สิ่งที่ยังคาใจคือ เด็กแขนหัก มองด้วยตาเปล่าเห็นชัดเจน ทำไมครูไม่รู้ไม่เห็น อีกทั้งไม่พาเด็กไปหาหมอ ไม่แจ้งผู้ปกครองทราบ ปล่อยเวลาล่วงเลยไปหลายชั่วโมง จนหมอที่โรงพยาบาลทักตอนไปรักษาว่าทำไมปล่อยไว้นานเพราะอันตรายแขนอาจจะได้รับผลกระทบหลังรักษาหายแล้ว ตอนนี้ครอบครัวได้ร้องไปยังศูนย์ดำรงธรรม และแจ้งความต่อพนักงานสอบสวน ที่ สภ.หนองกี่ไว้แล้ว แต่เรื่องยังเงียบอยู่ เหตุการณ์ที่เกิดขึ้น ส่วนตัวอยากจะให้เป็นกรณีศึกษา ว่าครูผู้สอนควรจะใส่ใจกับเด็กนักเรียนอย่างไร ผู้บริหารควรจะมีมาตรการอย่างไรสำหรับครูที่ไม่สนใจเด็กนักเรียน

ข่าว/ภาพ  เรืองรุจ วังแจ่ม สำนักข่าวเนชั่น จ.บุรีรัมย์

อาช็อคหลาน 5 ขวบแขนหักกลับบ้านครูไม่สนเบี้ยวค่าเยียวยา

logoline