ขาวผ่อง แนะใช้วิทยาศาสตร์การกีฬาช่วยนักมวย ปลาร้า ส้มตำ ข้าวเหนียวไม่เอื้อ

ทวี อัมพรมหา หรือ “ขาวผ่อง สิทธิชูชัย” อดีตนักชกเหรียญเงินจากกีฬาโอลิมปิก เปิดเผยกับ "เนชั่นออนไลน์" กรณี “เจ้าแหลม ศรีสะเกษ”  วัย 35 ปี แพ้น็อคให้กับ เจสซี โรดิเกซ วัย 22 ปี แชมป์โลกชาวสหรัฐอเมริกา ศึกชิงแชมป์มวยโลกที่สหรัฐอเมริกา  เมื่อวานที่ผ่านมา จนเกิดกระแสดราม่าในโลกโซเชียลว่า อายุที่มากทำให้แพ้ ควรแขวนนวมได้แล้ว ควรยอมรับความจริง  

“ขาวผ่อง”  เปิดเผยว่า ไม่รู้สึกแปลกใจหากดูจากทางมวย เห็นได้ชัดว่า “เจสซี” ได้เปรียบทั้งในด้านอายุและพละกำลัง โดยเห็นได้ชัดว่า “เจ้าแหลม” ดูอ่อนแรง กำลังไม่แข็งแรงเท่า ซึ่งอายุถือเป็นปัจจัยหนึ่ง แต่สิ่งที่สำคัญกว่าคือ “วิทยาศาสตร์การกีฬา” ซึ่งประเทศไทยไม่ค่อยให้ความสำคัญในแวดวงมวย หากเทียบกับกีฬาประเภทอื่น เช่น ฟุตบอล หรือวอลเล่ย์บอล

ทั้งนี้ “วิทยาศาสตร์การกีฬา” ในต่างประเทศให้ความสำคัญมากและมีผลต่อตัวนักกีฬา รวมไปถึงโภชนาการและสภาพจิตใจ แม้จะอายุมาก แต่หากมี “วิทยาศาสตร์การกีฬา” ที่ดี จะทำให้นักมวยสามารถอยู่ในอาชีพได้นาน โดยนักมวยไทยส่วนใหญ่ชอบกิน ข้าวเหนียว ส้มตำ ปลาร้า เพราะคิดว่าจะช่วยเพิ่มกำลังวังชา ทำให้สดชื่น แต่เป็นความเข้าใจที่ผิด และผิดหลักโภชนาการสากล

ส่วนกรณีที่ “เจ้าแหลม” ให้สัมภาษณ์ว่า กรรมการลำเอียงเข้าข้างคู่แข่งทั้งที่เจ้าตัวยังสู้ต่อได้ กรรมการไม่น่าจะจับแพ้น็อคนั้น “ขาวผ่อง” มองว่ากรรมการไม่ได้ลำเอียง แต่เป็นไปตามหลักสากลหากเห็นว่านักมวยคนนั้นไม่ไหว เพื่อเป็นการป้องกันตัวนักมวยเอง

ส่วนกระแสดราม่าในโลกโซเชียลที่วิพากษ์วิจารณ์ว่า “เจ้าแหลม” ควรแขวนนวมเนื่องจากอายุมากแล้วนั้น ตนมีความเห็นว่าหาก “เจ้าแหลม” จะยังชกต่อไปเป็นเรื่องของเจ้าตัว แต่หากยังไม่มีการปรับตัวรวมถึงไม่ใช้วิทยาศาสตร์การกีฬาเข้ามาช่วยแบบจริงจัง อาจทำให้การทวงคืนแชมป์กลับมาเป็นไปได้ยาก