หนุ่มหวิดคอขาด เจอมือดีใช้สายสื่อสารขึงกลางถนนในหมู่บ้าน

 18 มิถุนายน 2565 ผู้สื่อข่าวรายงานว่าได้มีผู้ใช้เฟสบุ๊ครายหนึ่งได้โพสต์รูปภาพที่บริเวณลำคอมีบาดแผลจากการถูกสารสื่อสารเกี่ยว พร้อมระบุข้อความว่า “เตือนภัยคอเกือบขาดเคยดูแต่ในข่าว เจอกับตัวเองเอาสายโทรศัพฑ์มัดขึงกับเสารั้ว ซอยหัวนาหมู่3 ต.บ้านโตก อ.เมือง จ.เพชรบูรณ์ เวลา20:10น.วัยรุ่น+ยาเสพติต เยอะมาก น่าจะด้วยความคึกคะนองทำให้คนอื่นเดือดร้อน ฝากถึงเจ้าหน้าที่ดูแลหน่อยคับแจ้งความไว้แล้ว” ลงในกลุ่มรวมข่าวแชร์เพชรบูรณ์ เพื่อเป็นการเตือนภัย 

          หลังจากโพสต์ดังกล่าวถูกโพสต์ออกไปได้ชาวเน็ตและคนในพื้นที่ เข้ามาแสดงความคิดเห็นเป็นจำนวนมาก ซึ่งต่างพากันบอกว่าน่ากลัวและอันตรายเป็นอย่างมาก อยากให้เจ้าหน้าที่ตำรวจติดตามคนก่อเหตุทำมาดำเนินคดีต่อมาผู้สื่อข่าวจึงเดินทางไปตรวจสอบที่เกิดเหตุพบว่าถนนเส้นดังกล่าวเป็นถนนในหมู่บ้านหมู่ที่ 3 อยู่ในชุมชนที่บ้านเรือนหนาแน่น ส่วนจุดเกิดเหตุยังมีสายสัญญาณที่ขาดห้อยลงมากองอยู่กับพื้น 

นายวัชระ เสือเกิด อายุ 37 ปี 79/16 หมู่ 3 ต.บ้านโตก อ.เมือง จ.เพชรบูรณ์ ผู้ประสบเหตุเปิดเผยว่าตนเปิดร้านซ่อมรถจักรยานยนต์อยู่ภายในหมู่บ้านห่างจากจุดเกิดเหตุประมาณ 20 เมตร ในวันเกิดเหตุตนขี่รถจักรยานยนต์ออกไปทำธุระ กระทั่งเวลาประมาณ 20.00 น.จึงจะกลับบ้าน แต่เมื่อมาถึงที่เกิดเหตุซึ่งเป็นถนนในหมู่บ้าน แต่ขณะนั้นแต่ละบ้านปิดไฟนอนกันหมดแล้ว ยังคงเหลือไฟส่องสว่างที่ติดอยู่กับเสาไฟ ตนได้สังเกตเห็นวัตถุคล้ายสายไฟสีดำพาดขวางถนนอยู่ในระดับคอพอดี แต่ก็ไม่สามารถหลบได้ทันเพราะเป็นระยะกระชั้นชิดแล้ว สายดังกล่าวจึงได้เกี่ยวไปที่ลำคอพอดี แต่โชคดีที่ตนขับรถมาไม่เร็ว จึงได้พยายามควบคุมรถไม่ให้ล้ม เมื่อจอดรถรู้สึกแสบที่บริเวณลำคอมาก แต่ในขณะนั้นก็ยังไม่รู้ว่าเป็นแผลมากน้อยขนาดไหน จึงได้วิ่งไปตามญาติ ๆ มาดูที่เกิดเหตุ จึงพบว่าสายที่เกี่ยวคอตนเองนั้นเป็นสายสัญญาณซึ่งก็ไม่ทราบว่าเป็นของบริษัทไหนซึ่งขาดและตกอยู่กับพื้นถนน แต่ตนมั่นใจว่าจะต้องมีคนนำไปผูกไว้กับเสารั่วอีกฝั่งของถนนในระดับคอพอดีอย่างแน่นอน เพราะถ้าหากขาดและหล่นลงมาเองสายดังกล่าวจะต้องอยู่อีกฝั่งของถนน จากนั้นจึงได้ไปแจ้งความร้องทุกข์กับเจ้าหน้าที่ตำรวจที่ สภ.เมืองเพชรบูรณ์ 

นายวัชระ เสือเกิด เปิดเผยอีกว่าในช่วงเกิดเหตุหากตนขับรถมาเร็วกว่านี้รวมทั้งหากสายสัญญาณไม่หลุดออกจากเสาที่มัดไว้ตนเชื่อว่าอาจจะได้รับบาดเจ็บมากกว่านี้หรือไม่คอก็อาจจะขาดจนเสียชีวิตก็เป็นได้ ทั้งนี้ตนก็ไม่ได้มีเรื่องทะเลาะอะไรหรือเป็นศรัตรูกับใคร ส่วนผู้ก่อเหตุตนก็ไม่มั่นใจว่าทำไปด้วยความคึกคะนองหรือหวังสิ่งใด จึงอยากจะให้เจ้าหน้าที่ตำรวจติดตามผู้ก่อเหตุรายนี้มาดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป เพราะอาจจะไปก่อเหตุสร้างความเดือดร้อนให้แก่ผู้อื่นและอาจจะมีการสูญเสียมากกว่านี้ก็เป็นได้ 

 

ภาพ/ข่าว: อารีย์ สีแก้ว สำนักข่าวเนชั่น จ.เพชรบูรณ์