แซนฟ้อง “หนิง ปณิตา” ฐานแจ้งเท็จ แนะหาทนายที่รอบคอบกว่านี้

วันที่ 16 มิถุนายน 2565 เวลา 15.00 น. นายวิศาพัช มโนมัยรัตน์ หรือ เเซน พร้อมกับ นายพรศักดิ์ วิภาสอาภานนท์ ทนายความส่วนตัว ออกมาให้สัมภาษณ์เพิ่มเติม ภายหลังจากที่ได้เข้าไปพบพนักงานสอบ เพื่อรับทราบข้อกล่าวหาตามที่ นางปณิตา ธรรมวัฒนะ หรือ หนิง ปณิตา แจ้งความเอาผิดในข้อหาหมิ่นประมาทไว้ โดยเจ้าตัวปฏิเสธตลอดข้อกล่าวาห

"แซน - วิศาพัช" กล่าวว่า ตนจะดำเนินการแจ้งความกลับ ต่อ "หนิง ปณิตา" เนื่องจากพบว่า สิ่งที่อีกฝ่ายแจ้งความกล่าวหาว่าตนพูดหมิ่นประมาทนั้น ไม่มีมูลความจริง และอีกฝ่ายควรเลือกทนายความที่ละเอียดรอบคอบกว่านี้ โดยคู่กรณี มีการแจ้งความว่า ตนกล่าวถึงชื่อเขานำหน้าประโยคที่พูด แต่ยืนยันว่าตลอดการให้สัมภาษณ์วันนั้น ไม่เคยเอ่ยชื่อ โดยมีคลิปข่าวเป็นหลักฐาน สามารถถอดเทปฟังได้ ซึ่งกำลังพิจารณาว่าจะแจ้งข้อหาอะไรบ้าง แต่เบื้องต้นน่าจะเป็นข้อหาแจ้งความเท็จแก่พนักงานสอบสวน และข้อหา รู้ว่ามิได้มีการกระทำความผิดเกิดขึ้น แต่มาแจ้งข้อความแก่พนักงานสอบสวน ตามกฎหมายอาญา มาตรา 173

นายวิศาพัช กล่าวอีกว่า การแจ้งความตน โดยที่ไม่มีมูลความจริง ทำให้เสียหาย วันนี้ตนต้องถูกพิมพ์ลายนิ้วมือ ตกเป็นผู้ต้องหา ซึ่งไม่สนุกเลย และอีกฝ่ายเองเป็นถึงผู้จัดละคร หากทำผิดควรกล้ายอมรับผิดมากกว่าออกมาทำแบบนี้ ส่วนถ้าอีกฝ่ายจะฟ้องตนกลับอีกรอบ ก็ไม่กังวล เพราะตนทำทุกอย่างถูกต้องตามหลักฐานที่มี ใครอยากจะทำอะไรตนห้ามไม่ได้ แต่จะปกป้องสิทธิของตัวเอง

สำหรับกรณีหลังวันที่ 23 มิ.ย. คนบนเรือจะมีมหกรรมแจ้งความกลับ โดยบอกว่า ตอนนี้คนบนเรือมีการพูดคุยกันอยู่เรื่อยๆ ตามประสาเพื่อน เมื่อถามว่ามีการคุยกันเรื่องที่บุคคลต่างๆ ออกมาพูดถึงเรื่องบนเรือหรือวิจารณ์คนบนเรือด้วยหรือไม่ แซนเผยว่า มีแน่นอน และขอให้รอดู พวกตนขอปรึกษากันก่อนว่าจะมีการจัดแถลงข่าวเลยหรือไม่ เพราะทั้ง 5 คนคงไม่มีใครยอม ทนโดนด่ามานาน 3 เดือน โดยตอนนี้กำลังพิจารณาดำเนินคดี เบื้องต้น 3-4 คน เป็นคนที่อยู่ในกระแส ขอให้รอดู แต่กับชาวเน็ต จะไม่ดำเนินคดี เพราะถือว่าเป็นประชาชนทั่วไปที่รับฟังข้อมูลข่าวสารจากสื่อและไม่สามารถแยกเฟคนิวส์ได้ แซนให้อภัย 100%

นอกจากนี้ นายวิศาพัช กล่าวถึงลุงคนหนึ่งว่า เป็นถึงหัวหน้าชมรม ทำไมจึงมีจิตใจคับแคบ โดยเฉพาะเรื่องการเหยียดเพศ ตนไม่เข้าใจว่าเคยไปทำอะไรให้อีกฝ่ายเกลียดชัง ถึงต้องดูหมิ่นเหยียดหยามเพศตนตลอด และทำไมสังคมถึงยังปล่อยให้คนแบบนี้มาทวงถามหาความยุติธรรม ซึ่งเวลาตนถูกพูดเหยียดเพศ ก็โกรธและโมโห บางครั้งก็น้ำตาไหล แต่ก็ได้แต่ปล่อยไป เพราะว่าห้ามปากใครไม่ได้ และหากจะอ้างว่ามีหลักฐานจริงๆ ก็ขอให้เปิดออกมา ถ้ามีจริงก็คงเปิดออกมาแล้ว แต่ตนยืนยันว่า เรื่องทั้งหมดเป็นไปตามที่ตนเล่าทุกอย่าง การที่เพื่อนเสียชีวิตก็เสียใจมากพอแล้ว แม้ไม่ได้มาแสดงออกสื่อ เพราะทุกคนมีบุคลิกแตกต่างกัน ขอให้อย่าด่วนตัดสินแล้วเอามาด่า ตนไม่มีความจำเป็นต้องโกหก อยากให้คิดวิเคราะห์ด้วยว่าคนบนเรือมีเหตุผลอะไรที่ต้องทำแบบนั้น ส่วนเรื่องที่อ้างว่ามีหลักฐานเป็นรูปภาพกองเลือดที่บริเวณหัวเรือ ถ้ามีจริงก็ขอให้เอามาเปิดให้ดูเลย ไม่มีใครฟ้อง ทุกคนอยากเห็น แต่ยืนยันว่าสังคมที่แซนอยู่ไม่มีเรื่องแบบนี้ เป็นไปไม่ได้ที่ใครจะมาฆ่ากันทิ้งน้ำตามที่ถูกกล่าวอ้าง

กรณีเรื่องการใช้ยากดประสาท ก็ไม่เป็นความจริงโดยลุงคนนี้ออกมาพูดหลายเรื่องแล้ว ทำเหมือนกับว่าเอากล้องวงจรปิดมาติดบนเรือลำเกิดเหตุ หรือว่ามานั่งอยู่ด้วยกัน ส่วนเรื่องการล้างเรือก็ยืนยันว่าไม่มี เรือลำตั้งเท่าไหร่จะมาล้างสุ่มสี่สุ่มห้าได้ยังไง มีเวลาเพียงไม่นานก่อนเช้า คงไม่มีใครมานั่งล้างเรือ คนงานกลับบ้านกันหมด

นอกจากนี้ นายวิศาพัช ยังได้กล่าวถึงคุณแม่แตงโม โดยกล่าวว่า อยากให้ทุกคนเห็นใจคุณแม่มากกว่า เพราะคุณแม่สูญเสียลูก ก็เสียใจมากพอแล้ว คุณแม่อาจจะไปฟังคนอื่น ทำให้ไม่รู้จะเชื่ออะไรใคร เพราะว่าคุณแม่ก็อยากรู้ว่าเกิดอะไรขึ้นกับลูก ดังนั้นอย่าไปว่าคุณแม่

ทั้งนี้ ส่วนเรื่องของบังแจ็คที่ออกมา บอกว่ามีหลักฐานมากมายพร้อมกับเคลื่อนไหวในโซเชียลนั้น ตนไม่ให้ค่า เพราะไร้สาระ