กระทรวงการคลัง สภาหอการค้าแห่งประเทศไทย สภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย สภาผู้ส่งสินค้าทางเรือแห่งประเทศไทย และวิทยาลัยการจัดการมหาวิทยาลัยมหิดล ร่วมลงนามบันทึกข้อตกลงโครงการความร่วมมือสนับสนุนผู้ประกอบการตลอดห่วงโซ่การส่งออก เสริมสภาพคล่องทางการเงินให้ผู้ประกอบการ
รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง อาคม เติมพิทยาไพสิฐ ระบุ ปัจจุบันมีผู้ประกอบการ SMEs ในระบบประมาณ 3.1 ล้านราย ในจำนวนนี้เป็นผู้ส่งออกไม่ถึง 1% ขณะที่การจ้างานของประเทศโดยรวมมีประมาณ 17 ล้านคน เป็นการจ้างงานของผู้ประกอบการ SMEs ถึง 12 ล้านคน หรือคิดเป็น 70% ของการจ้างงานทั้งหมด
ปี 2565 เป็นปีที่มีความสำคัญกับเศรษฐกิจไทยอย่างมาก ท่ามกลางปัญหาด้านราคาพลังงาน อาหาร ความขัดแย้งระหว่างรัสเซียยูเครน รวมถึงสงครามการค้า แต่การส่งออกของไทยยังทำได้ดีไตรมาสแรกขยายตัวได้ 15% ซึ่งคาดหวังว่าภาคการส่งออกจะเป็นตัวขับเคลื่อนเศรษฐกิจไทยที่สำคัญ
ดังนั้น การสนับสนุนให้ผู้ประกอบการไทยผันตัวเป็นผู้ส่งออกได้และแข่งข้นได้ในเวที่การค้าโลกยุคใหม่ จะทำให้ SMEs มีงานทำและรายได้เพิ่มขึ้น ภาคการส่งออกมีมูลคำเพิ่มขึ้น ส่งผลดีต่อระบบเศรษฐกิจของประเทศ สร้างความเข้มแข็งของธุรกิจทุกระดับตลอดทั้งห่วงโซ่การส่งออก ทั้งเงินทุน องค์ความรู้ และเครื่องมือต่างๆ ที่จะช่วยให้ผู้ประกอบการไทยมีภูมิต้านทานการเปลี่ยนแปลงของโลกยุคใหม่ที่เกิดขึ้นตลอดเวลา เพื่อให้ภาคการสงออกยังเป็นเครื่องยนต์สำคัญในการขับเคลื่อนเศรษฐกิจไทยปีนี้ พร้อมกับวางรากฐานการพัฒนาห่วงโซ่การส่งออกในระยะยาว
สำหรับโครงการความร่วมมือสนับสนุนผู้ประกอบการตลอด Value Chain ของภาคการส่งออก ผู้ประกอบการไทยที่เป็นสมาชิกหอฯ ส.อ.ท. และ สรท. สามารถสมัครขอรับบริการด้านสินเชื่อจาก EXIM BANK สำหรับผู้ที่ต้องการเริ่มต้นส่งออก ผู้ผลิตเพื่อส่งออก ผู้ให้บริการโลจิสติกส์ทางบก ทางเรือ หรือทางอากาศด้วยอัตราดอกเบี้ย 4.5% ต่อปี รายละไม่เกิน 5 ล้านบาท วงเงิน 5 พันล้านบาท
โครงการความร่วมมือด้านวิชาการเพื่อพัฒนศักยภาพผู้ประกอบการด้วยทักษะและสมรรถนะในโลกการค้ายุคใหม่ สามารถสมัครเข้าอบรมหลักสูตรที่ EXIM BANK กำลังพัฒนาร่วมกับวิทยาลัยการจัดการมหาวิทยาลัยมหิดล
ซึ่งทั้งสองโครงการจะนำไปสู่การจับคู่ธุรกิจ นำผู้ประกอบการไทยเข้าสู่ตลาดโลกยุค Next Normal ทั้งทางออนไลน์และรุกตลาดใหม่โดยเฉพาะ CLMV ประกอบด้วยกัมพูชา สปป.ลาว เมียนมา และเวียดนาม ซึ่ง EXIM BANK จัดตั้งสำนักงานผู้แทนใน CLMV ครบทั้ง 4 แห่งแล้ว นำไปสู่การสร้าง Ecosystem วงจรการค้าที่ขับเคลื่อนการเติบโตของภาคการส่งออกและเศรษฐกิจไทยอย่างยั่งยืน เชื่อมโยงกับการพัฒนาในมิติสังคมและสิ่งแวดล้อม ทั้งในระดับประเทศ ภูมิภาคอาเซียน และประชาคมโลกโดยรวม