5 มิถุนายน 2565 นายชัชชาติ สิทธิพันธุ์ ผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร (กทม.) เป็นประธานกิจกรรม “รวมพลเก็บขยะในแม่น้ำเจ้าพระยาและปลูกต้นไม้” เนื่องในวันสิ่งแวดล้อมโลก 2565 พร้อมกับเจ้าหน้าที่กทม. และภาคีเครือข่ายด้านสิ่งแวดล้อม ที่บริเวณลานใต้สะพานพระราม 8 และสวนหลวงพระราม 8 เขตบางพลัด ภายหลังเสร็จสิ้นกิจกรร ได้ชี้แจงถึง กรณีการขุดลอกคูคลองในกรุงเทพมหานคร ที่ก่อนหน้านี้ นาย สมศักดิ์ อุดมศักดิ์ ผู้อำนวยการสำนักระบายน้ำ ระบุว่า ได้งบประมาณขุดลอกคลอง 2คลองจากทั้งหมด 1,980 คลอง จนเป็นประเด็นดราม่า โดยยืนยันว่า
ไม่ได้เกิดเป็นประเด็นดราม่า เพราะเป็นข้อเท็จจริง พร้อมอธิบายว่า คลองมี 2 ประเภท คือ คลองใหญ่ หรือ คลองหลัก สำนักงานระบายน้ำ จะเป็นผู้ดูแลและรับผิดชอบ และคลองย่อย จะเป็นสำนักงานเขตเป็นผู้ดูแล ซึ่งที่ผ่านมาเขตอาจจะขุดลอกเยอะ ก็เป็นเรื่องของแต่ละเขต แต่สำนักระบายน้ำดูคลองใหญ่ ดังนั้นข้อมูลที่ผอ.สำนักการระบายน้ำแจ้งก็เป็นข้อมูลปัจจุบัน ซึ่งถ้ารวมคลองย่อยด้วยก็มากกว่า 2 คลองแน่นอน แต่ถ้าพูดถึงคลองใหญ่ถือว่าทำมาแล้ว 2 คลองและอยู่ระหว่างดำเนินการอีก ไม่มีอะไรที่เป็นดราม่า ดังนั้นจึงขออย่าให้ประชาชนนำมาเป็นประเด็น เพราะสุดท้ายก็ต้องรู้ข้อมูลก่อนจึงจะปรับปรุงได้
ทั้งนี้ขอบคุณผอ.สำนักระบายน้ำที่ให้ข้อมูล และอาจจะไม่ได้เตรียมตัวอะไรมาก ตนเองก็มีส่วนผิดที่ไปไลฟ์สดแล้วสอบถาม อาจจะทำให้เร่งรีบจนข้อมูลไม่ครบถ้วน และผอ.ก็เป็นคนตั้งใจทำงาน
ส่วนที่มีข้อมูลก่อนหน้านี้ ว่า ผู้รับเหมาเอกชนที่รับจ้างในการขุดลอกคลองทิ้งงานนั้น ผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร ระบุว่า เป็นเรื่องอีกงานไม่ใช่มาจากการขุดลอกคลอง แต่มาจากการทำเขื่อน เช่น เขื่อนคลองลาดพร้าวที่ยังคงทำไม่เสร็จ จึงทำให้การขุดลอกคูคลองทำไม่ได้ โดยตนคงจะต้องเข้าไปดู และหากพบว่ามีการทิ้งงานก็คงต้องเข้าไปดูข้อกฎหมาย
การขุดลอกคูคลอง ถือ เป็นอีกหนึ่งสิ่งที่ต้องเร่งดำเนินการ เพราะเป็นหัวใจในการระบายน้ำ ไม่ได้ใช้งบประมาณมาก ส่วนอุโมงค์ระบายน้ำเป็นเพียงแค่ส่วนประกอบร้อยละ 10 ของการระบายน้ำ แต่จากการลงพื้นที่พบว่า การก่อสร้างต่างๆ เช่น การก่อสร้างถนน อุโมงค์ หรือแนวรถไฟฟ้า ไปตัดแนวคูคลองเดิม คงต้องไปไล่จี้ จะต้องทำท่อลอดให้ครองต่อเนื่องเพื่อให้ทางน้ำไหลไปได้
สำหรับกิจกรรม “รวมพลเก็บขยะในแม่น้ำเจ้าพระยาและปลูกต้นไม้” เนื่องในวันสิ่งแวดล้อมโลก 2565 เริ่มจากการปล่อยขบวนเรือจำนวน 68 ลำ แบ่งเป็นเรือ 30 ลำ เรือคายัค53 โดยนายชัชชาติ ได้ร่วมพายเรือคายัค เพื่อเก็บขยะในแม่น้ำเจ้าพระยาด้วยตนเอง และพายเรือวนหาขยะ ซึ่งช่วงนี้ นายชัชชาติ ได้ทักทายประชาชนที่มาออกกำลังกายสวนหลวงพระราม 8 และประชาชนได้แจ้งว่า เมื่อวานขยะเยอะมาก แต่วันนี้ไม่มีขยะเลย นายชัชชาติ เลยพูดแซวขึ้นมาว่า ‘ผมมาขยะหายหมดเลย’
จากนั้นได้ ร่วมปลูกต้นไม้บริเวณสวนสาธารณะสวนหลวงพระราม 8 จำนวน 69 ต้น ตามนโยบาย 214 ข้อ ที่มีเป้าหมาย 1 ล้านต้น ใน 4 ปี
โดยนายชัชชาติ กล่าวว่า วันนี้เป็น วันส่งแวดล้อมโลกปีที่ 50 ที่มีการจัดกิจกรรมทั่วโลก ตามแนวคิด OnlyOne Earth เพราะโลกมีเพียงใบเดียว สืบต่อมาเป็น OnlyOne Bangkok เพราะ กทม.มีเพียงที่เดียว
จึงต้องทำสิ่งแวดล้อมที่ดีส่งต่อให้ลูกหลานได้อาศัย โดยอาศัยความร่วมมือจากทุกภาคส่วน และจะทำต่อเนื่องเพราะทุกวันคือวันสิ่งแวดล้อมโลก เพราะไม่มีเวลาที่จะเสียไปอีกแล้ว ซึ่งได้ตั้งเป้า ให้กรุงเทพไปสู่เป้าหมาย net zero ปล่อยก๊าซเรือนกระจกเป็นศูนย์ภายในปี 2030ให้ได้
การลดภาวะก๊าซเรือนกระจก นั้นก็ต้องมาดูปัจจัยหลัก 4 ด้าน คือ การคมนาคมขนส่งที่กทม.จะต้องเป็นตัวอย่างในการส่งเสริมใช้รถไฟฟ้าให้มากขึ้น การใช้พลังงานในอาคารจะต้องมีการอนุรักษ์พลังงานที่มีกฎหมายควบคุมอาคารอยู่แล้ว รวมไปถึงการจำกัดขยะในอนาคตที่จะต้องมีการแยกขยะเพื่อช่วยลดการฝั่งกลบเพื่อลดแก๊สมีเทนที่จะเกิดขึ้น รวมถึงการปลูกต้นไม้ที่เป็นนโนบายหลักในการลดคาร์บอนไดออกไซด์ โดยเชื่อว่าถ้าทุกคนช่วยกันสิ่งแวดล้อมจะดีขึ้นได้
นายชัชชาติ ยังระบุถึงการแก้ไขปัญหาฝุ่น PM 2.5 ด้วยว่า ต้องมีการเก็บข้อมูลอย่างละเอียดในการแก้ไขปัญหา ซึ่งส่วนหนึ่งมาจากการสัญจรที่จะต้องมีการหารือกับกรมการขนส่งทางบกอีกครั้ง