เมื่อวันที่ 3 มิถุนายน 2565 นางนันทวัน ชุติพงษ์วิเวท ประธานชมรมผู้ประกอบการนวดไทยล้านนา และผู้บริหารลีลานวดแผนไทย เปิดเผยว่า ขณะนี้ร้านนวดแผนไทยในจังหวัดเชียงใหม่กำลังประสบปัญหาขาดแคลนแรงงาน จากแรงงานที่ขึ้นทะเบียนในช่วงก่อนการแพร่ระบาดของโควิด-19 มีอยู่กว่า 9,000 คน แต่ปัจจุบันคาดว่าจะเหลืออยู่เพียงร้อยละ 40 หรือประมาณ 3,600 คนเท่านั้น เนื่องจากช่วงที่มีการแพร่ระบาดของโควิด-19 ร้านนวดแผนไทยยังไม่สามารถให้บริการได้ ทำให้แรงงานเดินทางกลับภูมิลำเนา หรือหันไปทำอาชีพอื่นเพื่อเลี้ยงชีพ และการเรียกแรงงานกลับมาทำงานเป็นเรื่องที่เป็นไปได้ยาก
นอกจากนี้ แรงงานส่วนใหญ่ยังไม่มีความมั่นใจในความมั่นคงของงาน เพราะนักท่องเที่ยวยังมีจำนวนไม่มาก และกลัวว่าโควิด-19 จะกลับมาแพร่ระบาดจนต้องปิดร้านอีกครั้ง และการหาแรงงานใหม่มาทดแทนเป็นเรื่องที่ทำได้ยาก เนื่องจากผู้ที่จะมาให้บริการนวดแผนไทยต้องผ่านการเรียน และอบรมมาก่อนจึงจะสามารถให้บริการได้
สำหรับวิธีการแก้ไขปัญหาการขาดแคลนแรงงาน ตอนช่วงที่ผ่านมาได้ทำการเรียกพนักงานที่เคยทำงานกับทางร้านกลับมาทำงาน แต่มีเพียงส่วนน้อยที่กลับมาทำงานกับทางร้าน ตอนนี้จึงได้ประกาศรับสมัครพนักงานใหม่ เพื่อมาทดแทนพนักงานเก่าที่หายไป
ปัจจุบันนี้ ร้านนวดแผนไทยในจังหวัดเชียงใหม่กว่า 200 แห่ง จากที่มี 492 แห่ง ได้กลับมาเปิดให้บริการแล้ว และคิดว่าธุรกิจนวดแผนไทยน่าจะมีแนวโน้มดีขึ้นเรื่อย ๆ เนื่องจากสถานการณ์โควิด-19 เริ่มคลี่คลาย จากที่ได้เปิดให้บริการมาตั้งแต่ช่วงเดือนเมษายน จนถึงปัจจุบัน รายได้จะอยู่ที่ประมาณร้อยละ 40 จากรายได้ที่เคยได้ในช่วงก่อนมีการแพร่ระบาดของโควิด-19 และน่าจะกลับมาดีขึ้นในช่วงปลายปีนี้ เนื่องจากลูกค้าหลักของทางร้านจะเป็นนักท่องเที่ยวชาวจีนกว่าร้อยละ80 แต่ตอนนี้นักท่องเที่ยวชาวจีนที่มาใช้บริการยังมีจำนวนน้อย
“การนวดเพื่อสุขภาพจะแยกออกจาก อาบอบนวด อย่างชัดเจน การนวดเพื่อสุขภาพจะเป็นการนวดเพื่อผ่อนคลาย เป็นการนวดแผนไทย เช่น การนวดเท้า การนวดน้ำมัน แต่สำหรับอาบอบนวดจะเป็นอีกส่วนหนึ่ง และตอนนี้เราก็กำลังรณรงค์ให้ร้านที่เป็นร้านนวดเพื่อสุขภาพต้องไม่มีการค้าบริการแอบแฝง ” นางนันทวัน กล่าว
ข่าว/ภาพ : จักรินทร์ นมนาน สำนักข่าวเนชั่น ศูนย์ข่าวภาคเหนือ