กระทรวงสาธารณสุข ได้ประกาศชัดเจน แล้วว่าจะประกาศโรคติดเชื้อโควิด-19 เป็นโรคประจำถิ่น ในวันที่ 1 กรกฎาคม 2565 นั้น
ประเด็นนี้จึงเป็นที่มา ที่ทาง กระทรวงสาธารณสุข เตรียมปรับลดระดับการ “ถอดแมสก์” หรือ ถอดหน้ากากอนามัย ในจังหวัดที่มีความพร้อม โดยเฉพาะพื้นที่สีเขียว 14 จังหวัด และพื้นที่นำร่องท่องเที่ยว หรือ พื้นที่สีฟ้า 17 จังหวัด แต่จะคงไว้ให้ใส่หน้ากากไว้ 3 กลุ่มเสี่ยง ทั้งนี้ เพื่อรองรับสู่การเป็นโรคประจำถิ่นกลางเดือนมิ.ย. 2565
จากกรณีกระแส "ถอดแมสก์" หรือ หน้ากากอนามัย ซึ่งกระทรวงสาธารณสุข (สธ.) เตรียมนำร่อง 31 จังหวัด พื้นที่สีเขียว และ พื้นที่สีฟ้า ให้ผ่อนคลายสามารถถอดหน้ากากอนามัยได้แล้วนั้น ล่าสุด นายณรงค์ วุ่นซิ้ว ผู้ว่าราชการจังหวัดภูเก็ต ออกคำสั่งผ่อนคลายมาตรการโควิด-19 หลังมีแนวโน้มลดลงต่อเนื่อง
โดย “ยกเว้น” การสวมหน้ากากอนามัยได้ 4 กรณี
1. เมื่ออยู่ในบริเวณโล่งแจ้ง อากาศถ่ายสะดวก
-ชายหาด
-สวนสาธารณะ
-สนามกีฬา
ซึ่งห่างจากบุคคลอื่น “ไม่ต่ำกว่า 2 เมตร” มีผล 1 มิ.ย.65 เป็นต้นไป
2. ในระหว่างรับประทานอาหารหรือเครื่องดื่ม
3. เพื่อยืนยันตัวตนกับเจ้าหน้าที่ของรัฐ
4. ในขณะออกกำลังกาย
นพ.ทวีทรัพย์ ศิรประภาศิริ ผู้ทรงคุณวุฒิ กรมควบคุมโรค กล่าวว่า การผ่อนคลายถอดหน้ากากอนามัย ต้องดูรายพื้นที่ แต่คาดว่าจะเริ่มก่อนก็จะเป็นพื้นที่สีฟ้าและสีเขียว ที่สถานการณ์ดีและมีความพร้อมก่อน แต่ต้องพิจารณาจากปัจจัยอื่นร่วม ไม่ใช่เริ่มทั้งหมดทุกจังหวัด
เมื่อเร็วๆ นี้ ที่ประชุม ศบค.ชุดใหญ่ที่ได้มีการปรับพื้นที่โซนสี ซึ่งจะมีผลตั้งแต่วันที่ 1 มิถุนายน 2565 ที่ผ่านมา
พื้นที่สีเขียว 14 จังหวัด
พื้นที่สีฟ้า 17 จังหวัด
ขณะที่ทางด้าน นพ.เกียรติภูมิ วงศ์รจิต ปลัดกระทรวงสาธารณสุข ระบุถึงการผ่อนคลายดังกล่าว กลุ่มที่ยังต้องมีการสวมหน้ากากอนามัยใน 3 เงื่อนไข ได้แก่
ขอขอบคุณที่มา : กระทรวงสาธารณสุข
ความคืบหน้าล่าสุด ทางสำนักงานประชาสัมพันธ์จังหวัดภูเก็ต เผยแพร่คำสั่งจังหวัดภูเก็ต ที่ 3660/2565 ลงวันที่ 31 พ.ค. 2565 มีผลตั้งแต่วันที่ 1 มิ.ย. 2565 เป็นต้นไป เรื่อง มาตรการป้องกันการแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 ในพื้นที่จังหวัดภูเก็ต
โดยสาระสำคัญ ยังคงให้สวมหน้ากากอนามัยหรือหน้ากากผ้า โดยเฉพาะเมื่ออยู่ในสถานที่ปิดที่อากาศไม่ถ่ายเท และการเข้าร่วมกิจกรรมที่มีคนจำนวนมาก
แต่สามารถถอดหน้ากากได้ในขณะรับประทานอาหารหรือเครื่องดื่ม, ยืนยันตัวตนกับเจ้าหน้าที่รัฐ, ออกกำลังกาย อยู่ในที่โล่งแจ้งที่มีอากาศถ่ายเทสะดวก และบริเวณชายหาด สวนสาธารณะ หรือ สนามกีฬาซึ่งห่างจากบุคคลอื่นไม่ต่ำกว่า 2 เมตร