svasdssvasds
เนชั่นทีวี

เศรษฐกิจ

ศาลปกครองสูงสุด สั่งคุ้มครองชั่วคราว “ไทยคม” ใช้วงจรดาวเทียมไทยคม 7-8 ได้

02 มิถุนายน 2565
เกาะติดข่าวสาร >> Nation Story
logoline

ศาลปกครองสูงสุด มีคำสั่งยืนตามศาลปกครองกลาง คุ้มครองชั่วคราว “ไทยคม” มีสิทธิ์เข้าใช้วงโคจรดาวเทียมไทยคม 7 และ 8 ได้ หลังยื่นฟ้องมติ กสทช.ไม่ชอบด้วยกฎหมาย

2 มิถุนายน 2565 ผู้สื่อข่าวรายงาน ว่า ที่ศาลปกครอง ถนนเเจ้งวัฒนะ ศาลปกครองกลางอ่านคำสั่งศาลปกครองสูงสุดกรณีคำร้องอุทธรณ์คำสั่งเกี่ยวกับวิธีการชั่วคราวก่อนการพิพากษา และคำร้องอุทธรณ์คำสั่งไม่รับคำร้องสอดไว้พิจารณา ในคดีที่บริษัท ไทยคม จำกัด (มหาชน) กับบริษัท อินทัช โฮลดิ้งส์ จำกัด ยื่นฟ้องคณะกรรมการกิจการกระจายเสียง กิจการโทรทัศน์และกิจการโทรคมนาคมแห่งชาติ (กสทช.) ขอเพิกถอนมติ กสทช. ในส่วนที่เกี่ยวกับสิทธิในการเข้าใช้วงโคจรดาวเทียมของดาวเทียมไทยคม 7 และดาวเทียมไทยคม 8 วานนี้( 1 มิ.ย.) ว่า

 

คำฟ้องระบุสรุปว่า คณะกรรมการกิจการกระจายเสียง กิจการโทรทัศน์และกิจการโทรคมนาคมแห่งชาติ (กสทช.) กระทำการโดยไม่ชอบด้วยกฎหมาย กรณีมีประกาศ เรื่อง แผนการบริหารสิทธิในการเข้าใช้วงโคจรดาวเทียม พ.ศ.2563 ในข้อ 9.7 และข้อ 40 และภาคผนวก ข โดยไม่คำนึงถึงสิทธิในการใช้วงโคจรดาวเทียมที่ผู้ฟ้องคดีที่ 1 (บมจ.ไทยคม) ได้รับก่อนจะมีประกาศฉบับดังกล่าว และผู้ถูกฟ้องคดี (กสทช.) กระทำการโดยไม่ชอบด้วยกฎหมาย กรณีมีมติในการประชุม ครั้งที่ 10/2564 เมื่อวันที่ 25 พ.ค.2564 ว่า ในส่วนที่เกี่ยวกับสิทธิในการใช้วงโคจรดาวเทียมของดาวเทียมไทยคม 7 และดาวเทียมไทยคม 8 ซึ่งผู้ฟ้องคดีเห็นว่า มติดังกล่าวไม่ชอบด้วยกฎหมาย

 

ศาลปกครองชั้นต้น มีคำสั่งให้ทุเลาการบังคับตามมติของผู้ถูกฟ้องคดี (กสทช.) ในการประชุมครั้งที่ 10/2564 เมื่อวันที่ 25 พ.ค.2564 ในวาระที่ 5.2.11 ส่วนที่เกี่ยวกับสิทธิในการเข้าใช้วงโคจรดาวเทียมไทยคม 7 และ ดาวเทียมไทยคม 8 ไว้เป็นการชั่วคราว ต่อมา กสทช.ยื่นอุทธรณ์คำสั่งของศาลชั้นต้นที่สั่งทุเลาการบังคับตามคำสั่งทางปกครองของผู้ถูกฟ้องคดี

 

ศาลปกครองสูงสุด สั่งคุ้มครองชั่วคราว “ไทยคม” ใช้วงจรดาวเทียมไทยคม 7-8 ได้

โดยศาลปกครองสูงสุด เห็นว่ากรณีมีปัญหาที่ต้องพิจารณาต่อไปว่า การทุเลาการบังคับตามมติของผู้ถูกฟ้องคดี ที่พิพาทเป็นอุปสรรคแก่การบริหารงานของรัฐหรือแก่บริการสาธารณะหรือไม่ พิเคราะห์แล้วเห็นว่า คำสั่งของศาลปกครองชั้นต้นที่ทุเลาการบังคับตามมติของ ผู้ถูกฟ้องคดีในการประชุมครั้งที่ 10/2564เมื่อวันที่ 25 พ.ค.64 ในส่วนที่ให้ผู้ฟ้องคดีที่ 1 ใช้ข่ายงานดาวเทียมที่มีการใช้งานโดยดาวเทียมไทยคม 7 เเละ 8  ได้ถึงวันที่ 10 ก.ย.64 อันเป็นวันสิ้นสุดสัญญาสัมปทานไว้เป็นการชั่วคราว จนกว่าศาลจะมีคำพิพากษาหรือคำสั่งเป็นอย่างอื่น มีผลทำให้ผู้ฟ้องคดีที่ 1 ยังคงมีสิทธิเข้าใช้ ข่ายงานดาวเทียม THAICOM-A3, THAICOM-A3B , THAICOM-N3 และ THAICOM-Q2

 

ที่มี การใช้งานโดยดาวเทียมไทยคม 7และ8 ทำให้การให้บริการดาวเทียมไทยคม 7และ 8 ที่ผู้ฟ้องคดีที่ 1 ทำสัญญากับหน่วยงานต่างๆ อันเป็นกิจการโทรคมนาคม ดำเนินได้ต่อไปเท่านั้น มิได้มีผลเป็นการลบล้างอำนาจหน้าที่ของผู้ถูกฟ้องคดีในการกำกับดูแล หรือบริหารสิทธิในการเข้าใช้วงโคจรดาวเทียมที่ประเทศไทยหรือหน่วยงานของรัฐได้รับหรือมีอยู่ ในการส่งดาวเทียมเข้าสู่วงโคจรตามข้อบังคับวิทยุของสหภาพโทรคมนาคมระหว่างประเทศ แต่อย่างใด จึงถือว่า การทุเลาการบังคับตามมติของผู้ถูกฟ้องคดีที่พิพาท มิได้เป็นอุปสรรคแก่การ บริหารงานของรัฐหรือแก่บริการสาธารณะ

 

ศาลปกครองสูงสุด สั่งคุ้มครองชั่วคราว “ไทยคม” ใช้วงจรดาวเทียมไทยคม 7-8 ได้

ส่วนกรณีที่ผู้ถูกฟ้องคดีอุทธรณ์ว่า ตามนโยบายและ แผนระดับชาติ ว่าด้วยการพัฒนาดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม (พ.ศ.2561-2580) ผู้ถูกฟ้องคดีมีหน้าที่ดำเนินการให้ได้มาและรักษาไว้ซึ่งสิทธิในการเข้าใช้วงโคจรดาวเทียมและการ สละสิทธิดังกล่าว และมีหน้าที่จัดทำแผนการบริหารสิทธิในการเข้าใช้วงโคจรดาวเทียม พิจารณา อนุญาตให้ผู้ที่ประสงค์ประกอบกิจการดาวเทียมได้เข้าใช้วงโคจรดาวเทียม จัดให้มีการดำาเนิน กิจการดาวเทียมในประเทศให้เพียงพอกับการใช้งานทั่วไป เพื่อส่งเสริมศักยภาพการพัฒนาดิจิทัล เพื่อเศรษฐกิจและสังคมของประเทศอย่างต่อเนื่อง

 

เนื่องจากการดำเนินกิจการดาวเทียม ต้องคําเนินการทั้งในประเทศและระหว่างประเทศ และการดำเนินการต้องใช้ระยะเวลาในการเตรียมการ เพื่อให้กิจการดาวเทียมของประเทศมีความต่อเนื่องตามลำดับสิทธิ์ในการเข้าใช้วงโคจรดาวเทียม ดังนั้น จึงต้องมีระยะเวลาสิ้นสิทธิในการเข้าใช้วงโคจรดาวเทียมที่แน่นอนชัดเจน หากมีการ ชะลอการนําสิทธิใช้วงโคจรดาวเทียมในบางพิกัด ย่อมกระทบต่อการบริหารจัดการกิจการ ดาวเทียมของประเทศ เพราะต้องจัดหาพิกัดตำแหน่งที่ตั้งของวงโคจรดาวเทียมอื่นๆ มาใช้ ทดแทน ซึ่งตำแหน่งที่ตั้งของวงโคจรดาวเทียมของแต่ละดวงมีประสิทธิภาพการใช้งานที่แตกต่าง ไม่เท่าเทียมกัน ทำให้อาจมีผลต่อประสิทธิภาพการให้บริการดาวเทียม

 

และหากไม่มีการกำหนด ระยะเวลาที่แน่นอนชัดเจนย่อมเป็นปัญหาต่อการบริหารจัดการกิจการดาวเทียมที่ส่งผลกระทบ ต่อการให้บริการสาธารณะด้านกิจการโทรคมนาคมของประเทศ และส่งผลกระทบต่อนโยบาย และแผนระดับชาติ ว่าด้วยการพัฒนาดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคมของประเทศ และการมีค่าสั่ง ทุเลาการบังคับตามมติของผู้ถูกฟ้องคดีก่อให้เกิดอุปสรรคแก่การดำเนินกิจการดาวเทียมในการจัดส่งดาวเทียมดวงใหม่ที่มีประสิทธิภาพเพื่อการให้บริการดาวเทียมรวมทั้งกิจการโทรคมนาคมที่มีประสิทธิภาพดีกว่าเดิมและรองรับการใช้งานได้มากขึ้นทำให้การให้บริการสาธารณะที่ดีขึ้น

 

ต้องล่าช้าออกไปโดยไม่มีกำหนด นั้น เห็นว่า ข้อเท็จจริงตามที่ปรากฏในรายงานการประชุม ของผู้ถูกฟ้องคดี ระบุว่า หากในภายหลังได้มีคำชี้ขาดของอนุญาโตตุลาการหรือคำสั่งศาลในประเด็นทางกฎหมาย ที่เกี่ยวกับการดำเนินกิจการดาวเทียมสื่อสารภายในประเทศที่อยู่ในคดีพิพาทภายใต้สัญญาสัมปทาน ซึ่งทำให้ข้อเท็จจริงอันเป็นสาระสำคัญของการพิจารณาอนุญาตสิทธิเปลี่ยนแปลงไป สำนักงาน กสทช. จะนำเสนอที่ประชุมคณะกรรมการกิจการกระจายเสียง กิจการโทรทัศน์ และ กิจการโทรคมนาคมแห่งชาติ เพื่อพิจารณาทบทวนประเด็นการอนุญาตสิทธิในการเข้าใช้วงโคจรดาวเทียมและการเรียกเก็บค่าธรรมเนียมการอนุญาตดังกล่าว ตามประกาศ กสทช.

 

เรื่อง หลักเกณฑ์และวิธีการ อนุญาตให้ใช้สิทธิในการเข้าใช้วงโคจรดาวเทียมอีกครั้งหนึ่งดังนั้น ผู้ถูกฟ้องคดีย่อมคาดหมาย ได้ว่า สิทธิของผู้ฟ้องคดีที่ 1 ในการใช้จ่ายงานดาวเทียมที่มีการใช้งานโดยดาวเทียมไทยคม 7และ 8 ยังมีความไม่แน่นอนและอาจเปลี่ยนแปลงได้หากอนุญาโตตุลาการหรือ ศาลปกครองวินิจฉัยให้ผู้ฟ้องคดีที่ 1 ชนะคดี และแม้ผู้ถูกฟ้องคดีมีอำนาจหน้าที่จัดทำแผน การบริหารสิทธิในการเข้าใช้วงโคจรดาวเทียมให้สอดคล้องกับนโยบายและแผนระดับชาติ ว่าด้วยการพัฒนาดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคมตามที่ผู้ถูกฟ้องคดีกล่าวอ้าง

 

แต่ผู้ถูกฟ้องคดีย่อมไม่อาจปฏิเสธที่จะไม่ปฏิบัติตามคำชี้ขาดของอนุญาโตตุลาการหรือคำพิพากษาของศาลในกรณีที่วินิจฉัยให้ผู้ฟ้องคดีที่ 1 เป็นฝ่ายชนะคดีได้ อุทธรณ์ของผู้ถูกฟ้องคดีดังกล่าวจึงฟังไม่ขึ้น คำสั่งทุเลาการบังคับตามมติของผู้ถูกฟ้องคดีศาลปกครองชั้นต้น

 

จึงชอบด้วยกฎหมาย และเมื่อคำสั่งของศาลปกครองชั้นต้นดังกล่าวชอบด้วยกฎหมายแล้ว จึงไม่มีเหตุที่ศาลปกครองสูงสุดจะมีคำสั่งระงับคำสั่งของศาลปกครองชั้นต้นที่ทุเลาการบังคับ ตามมติของผู้ถูกฟ้องคดีไว้เป็นการชั่วคราวก่อนการวินิจฉัยอุทธรณ์ตามคำขอของผู้ถูกฟ้องคดี การที่ศาลปกครองชั้นต้นมีคำสั่งทุเลาการบังคับตามมติของผู้ถูกฟ้องคดี ส่วนที่ เกี่ยวกับสิทธิในการเข้าใช้วงโคจรดาวเทียมของดาวเทียมไทยคม 7และ 4 ไว้เป็นการชั่วคราว ซึ่งหมายความรวมถึงให้ผู้ฟ้องคดีที่ 1มีสิทธิเข้าใช้ข่ายงานดาวเทียม THAICOM-A3, THAICOM-A3B , THAICOM-N3 และ THAICOM-Q2

 

ที่มีการใช้งานโดยดาวเทียมไทยคม7เเละ8 ได้ต่อไป จนกว่าศาลจะมีคำพิพากษาหรือคำสั่งเป็นอย่างอื่น นั้น ศาลปกครองสูงสุดเห็นพ้องด้วย จึงมีคำสั่งยืนตามคำสั่งของศาลปกครองชั้นต้น และยกคำขอของผู้ถูกฟ้องคดี ที่ขอให้ศาลปกครองสูงสุดมีคำสั่งระงับคำสั่งของศาลปกครองชั้นต้นที่ทุเลาการบังคับตามคำสั่ง ทางปกครองไว้เป็นการชั่วคราวก่อนการวินิจฉัยอุทธรณ์

logoline