ผู้ต้องหาปาดคอเมีย ผูกคอตายในห้องขังโรงพัก

วันที่ 31 พฤษภาคม 2565 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เมื่อเวลาประมาณ 22.30 น. ของคืนที่ผ่านมา (30 พ.ค.) ได้เกิดเหตุผู้ต้องหาในคดีพยายามฆ่าผู้อื่น ทราบชื่อคือ นายวันนา ดาลพงษ์ อายุ 55 ปี ชาวบ้านหมู่ 4 ต.น้ำพอง อ.น้ำพอง จ.ขอนแก่น ได้ใช้เชือกผูกคอตนเองเสียชีวิตในห้องควบคุมผู้ต้องขัง ภายใน สภ.น้ำพอง อ.น้ำพอง จ.ขอนแก่น หลังทราบเหตุเจ้าหน้าที่ตำรวจที่ทำหน้าที่เวร ได้รายงานให้ พ.ต.อ.พรศักดิ์ งามดี ผกก.สภ.น้ำพอง ทราบ พร้อมกับประสานแพทย์ รพ.น้ำพอง ฝ่ายปกครอง และญาติของผู้ต้องหา ร่วมกันชันสูตรพลิกศพผู้ต้องหาฆ่าตัวตายในห้องขัง 

ในที่เกิดเหตุพบผู้ตายอยู่ในสภาพสวมกางเกงยีนส์ขายาว สวมเสื้อยืนคอกลมสีเทา โดยชายเสื้อด้านหน้าถูกถลกขึ้นมาบริเวณคอ และมีเชือกลักษณะคล้ายเชือกผ้าร่มผูกโยงระหว่างคอของผู้ตายกับประตูทางเข้าออกที่เป็นกรงเหล็กห้องขัง สูงขึ้นไปประมาณ 2 เมตร ผู้ตายเสียชีวิตในสภาพนั่งพิงกรงเหล็ก เยียดขาทั้ง 2 ข้าง มือซ้ายกำมือ หลังตรวจสอบแล้วเสร็จ เจ้าหน้าที่ได้นำร่างของผู้เสียชีวิตส่งไปยัง รพ.น้ำพอง เพื่อดำเนินการตามขั้นตอน

สำหรับนายวันนา ผู้ตาย ก่อนหน้านี้เมื่อกลางดึกของวันที่ 29 พ.ค.ที่ผ่านมาได้ ได้ก่อเหตุใช้อาวุธมีดทำครัวปาดคอภรรยา คือ นางตุ๋ม เท่ฝ่าย อายุ 57 ปี จนได้รับบาดเจ็บสาหัส แพทย์ต้องเย็บแผลที่คอแม่ จำนวน 17 เข็ม ขณะนี้พ้นขีดอันตรายแล้ว แต่ยังต้องรักษาตัวอยู่ที่ รพ.น้ำพอง โดยสาเหตุมาจากถูกภรรยาท้าท้าย ก่อนที่บุตรสาวของนางตุ๋ม จะเดินทางเข้าแจ้งความกับตำรวจ สภ.น้ำพอง ให้ติดตามจับกุมตัวนายวันนา ซึ่งมีศักดิ์เป็นพ่อเลี้ยง ก่อนที่ชุดสืบสวน สภ.น้ำพอง จะติดตามจับกุมตัวนายวันนาได้ขณะขับขี่รถจักรยานยนต์ยี่ห้อ ยามาฮ่า เมท สีน้ำเงิน ทะเบียน ล-6271 ขอนแก่น อยู่บนถนนสายบ้านหินกอง-บ้านด้วง ต.น้ำพอง อ.น้ำพอง จ.ขอนแก่น จึงเข้าควบคุมตัวไปสอบสวน  และชี้จุดที่เกิดเหตุ ซึ่งอยู่ริมถนนข้างวัดสีลาขันธ์กับที่นาของชาวบ้าน  ห่างจากบ้านพักประมาณ 300 เมตร ซึ่งจุดดังกล่าว ยังมีรอยเลือดติดอยู่ในพงหญ้า ส่วนอาวุธมีดที่ใช้ก่อเหตุก็โยนทิ้งใกล้ ๆ กัน  เป็นมีดทำครัว ยาวประมาณ 8 นิ้ว  จึงตรวจยึดไว้เป็นของกลาง  และนำตัวนายวันนาไปสอบสวนดำเนินคดี ที่ สภ.น้ำพอง เมื่อเวลาประมาณ 13.30 น. วานนี้

หลังถูกจับกุม นายวันนา ให้การรับสารภาพว่า อยู่กินกับนางตุ๋ม ฉันท์สามีภรรยามาหลายปี ทะเลาะกันมาตลอด เคยตบตีทำร้ายกัน และเคยถูกภรรยาใช้อาวุธมีดแทงจนได้รับบาดเจ็บที่แขนซ้ายมาแล้ว  เคยแยกทางกัน แต่ก็กลับมาอยู่ด้วยกันเหมือนเดิม เพราะภรรยาโทรเรียกให้กลับมาหา ซึ่งวันเกิดเหตุก่อนจะลงมือปาดคอภรรยานั้น ช่วงกลางวันไปรับจ้างตัดหญ้าด้วยกัน ได้ค่าจ้างมา 500 บาท ภรรยาเอาไป 300 บาท ตนเองได้ 200 บาท เมื่อกลับถึงบ้านภรรยาก็ไปซื้อกับข้าวและสุรา 2 ขวดมาดื่ม ส่วนตนเองก็มีเหล้าอยู่ 1 ขวด เมื่อทำกับข้าวเสร็จ ภรรยาก็นำข้าวมาให้เป็นต้มขาหมู แต่เอามาให้เหมือนไม่เต็มใจจะให้กินมีกระดูกไม่กี่ชิ้น พร้อมทั้งรินเหล้ามาให้กินนิดหนึ่ง ตนเองดูแล้วรู้สึกไม่พอใจในเรื่องอาหาร จึงไม่กินอาหารและไม่กินเหล้าที่ภรรยารินมาให้ บอกว่ากินเลยของตัวเองมีอยู่ พอกินข้าวอิ่มแล้ว ภรรยาซึ่งดื่มสุราจนเมาก็เริ่มหาเรื่องทะเลาะ และพูดจาท้าทายให้ตนลงมือฆ่า โดยพูดคำว่า “ถ้ามึงเก่งมึงฆ่ากูเลย”  

จากนั้นภรรยาก็ลุกเดินออกจากบ้าน มุ่งหน้าไปยังทุ่งนาข้างวัด และตะโกนท้ายทายชวนให้ตนตามไป  ตนจึงไปหยิบเอามีดทำครัวที่หลังบ้านเดินตามภรรยาไป เมื่อถึงริมถนนใกล้ทุ่งนา ภรรยาก็ปรี่เข้ามาตบหน้า 1 ครั้ง ด้วยความโมโหจึงตบภรรยาคืน แรงตบทำให้ภรรยาล้มลงข้างถนน จึงใช้เท้าเหยียบหน้าและปาดคอทันที ตั้งใจจะเอาให้ถึงตาย ตามคำท้าทาย หลังจากลงมือเสร็จแล้วก็กลับไปเอารถจักรยานยนต์ที่บ้าน ขี่ไปหลบหลับนอนที่ใต้สะพานข้ามลำน้ำพอง จนถึงเช้าจึงขี่รถไปหาญาติเพื่อขอข้าวกิน  หลังกินข้าวเสร็จและกำลังขี่รถจะไปขอไก่จากญาติมาต้มกิน ก็เจอตำรวจจึงถูกจับกุมตัวได้  ขอสารภาพผิดและขอรับโทษตามกฎหมายตามที่ตนเองได้ลงมือทำ ส่วนภรรยาก็ถือว่าหมดกรรมต่อกัน และจะไม่ขอโทษเด็ดขาด

ภาพ/ข่าว - กฤศเมธ โลโห สำนักข่าวเนชั่น จ.ขอนแก่น