29 พฤษภาคม 2565 นายสันติ กีระนันทน์ รองหัวหน้าพรรค และประธานด้านนโยบายพรรคสร้างอนาคตไทย เปิดเผยการวิเคราะห์การจัดสรรงบประมาณปี 2566 ของรัฐบาล โดยพบว่ามีแต่จุดอ่อน คือ
1.การจัดทำงบไม่เป็นไปตามเป้า และไม่เคยจัดเก็บรายได้ตามเป้าแม้แต่ปีเดียว
2.โครงสร้างงบประมาณยังไม่มีการเปลี่ยนแปลงไม่สอดรับกับสถานการณ์ที่เป็นจริง เป็นแค่งานรูทีน
3.งบส่วนใหญ่เป็นงบสำหรับบุคลากร มองว่ารัฐกำลังติดหล่มกับระบบราชการที่ทำให้ขาดประสิทธิภาพ งบหมดไปกับการดูแลคน
4.งบสำหรับการลงทุนยังต่ำ ตั้งไว้ 21.82% แต่นำไปใช้สำหรับงลทุนแค่ 15.46% ทำให้ไม่เกิดประโยชน์ต่อการฟื้นฟูเศรษฐกิจ
5.งบแต่ละกระทรวง 35.26% เป็นเงินอุดหนุนถึง ซึ่งตรวจสอบได้ยาก เพราะเป็นงบให้ขาด
6.งบกลางสูงถึง 590,470 ล้านบาท หรือ 18.54% ถือว่าสูงที่สุดในโครงสร้างทั้งหมด แต่นำมาใช้ในการบรรเทาความเดือดร้อนประชาชนได้น้อยมาก
7.มีการซุกงบไว้ในงบบูรณาการ มากกว่า 218,477 ล้านบาท
8.มีการตั้งงบสำหรับเพิ่มขีดความสามารถของกองทัพ เป็นงบซื้ออาวุธ 60,000 ล้านบาท เเละยังมีงบสำหรับแผนระยะยาว 10 ปี จำนวน 450,000 ล้านบาท ก็ต้องตั้งคำถามว่าในสถานการณ์ที่เศรษฐกิจตกต่ำขณะนี้ เราควรจัดสรรงบให้กองทัพไปซื้ออาวุธ หรือเอาไปแก้ปัญหาปากท้องให้ประชาชน
นายสันติ ยังกล่าวด้วยว่า ทุกครั้งที่มีการจัดทำงบประมาณ จะมีนักการเมืองเข้าไปล็อบบี้กับท้องถิ่นตั้งแต่ต้น ก่อนส่งเรื่องมาที่สำนักงบประมาณ เพื่อขอจัดสรรงบ พอเข้ากรรมาธิการฯ ก็จะรอดูว่างบของตัวเองโดนตัดเท่าไร ช่วงนี้จะมีการต่อรองกันสนุกสนานมาก ซึ่งตนเคยเป็นกรรมาธิการวิสามัญงบฯ มาก่อน จึงทราบดี และรับไม่ได้ จึงขอให้ประชาชนช่วยกันจับตา เพราะนักการเมืองที่มีอิทธิพลสามารถทำได้ทุกอย่าง
ทั้งนี้ รัฐธรรมนูญ มาตรา 144 ที่ห้ามนักการเมืองเข้าไปมีส่วนเกี่ยวข้องกับการแปรญัตติเปลี่ยนแปลงงบประมาณ ถือเป็นบทบัญญัติที่ดีเพื่อป้องกันสมาชิกเข้าไปมีส่วนได้เสียในงบประมาณแผ่นดิน แต่การบังคับใช้ยังไม่มีประสิทธิภาพ ยังไม่เท่าเทียม ดังนั้นขอฝากว่า การจัดทำงบประมาณ อย่าตอบสนองความต้องการของนักการเมืองในพื้นที่ แต่ให้ตอบสนองประชาชน เราต้องสังคายนาระบบราชการอย่างจริงจัง