24 พฤษภาคม 2565 นายสุทิน คลังแสง ส.ส.มหาสารคาม พรรคเพื่อไทย ในฐานะประธานคณะกรรมการประสานงานพรรคร่วมฝ่ายค้าน (วิปฝ่ายค้าน) กล่าวถึงการพิจารณาร่าง พ.ร.บ.งบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ 2566 ว่า การจัดงบฯครั้งนี้ สะท้อนให้เห็นว่า ประเทศไม่มีความหวังที่จะฟื้นหรือหลุดพ้นจากภาวะตกต่ำ เพราะจัดงบไม่ตรงกับปัญหา งบภาพรวมเม็ดเงินน้อยมาก ที่จะอัดฉีดให้ระบบฟื้นตัวได้ ขณะที่ในระบบไม่มีเงิน ทั้งเงินเฟ้อและฝืด งบประมาณไม่ได้เพิ่มตามสัดส่วนที่ควรเป็น เปรียบเหมือนคนที่ต้องการเลือด 6 ลิตร แต่รัฐจัดเลือดให้เพียงลิตรกว่า ไม่มีทางฟื้น แต่รัฐบาลน่าจะชี้แจงไปในทิศทางว่า ติดเพดานเงินกู้ อย่างไรก็ตามเห็นว่ารัฐบาล ต้องมีแนวทางในการก้าวข้ามผ่านไป ไม่ใช่เพียงบอกว่าต้องประหยัด
นายสุทิน กล่าวอีกว่า งบฯกลาโหมและงบฯกลางจัดสรรไว้มาก โดยไม่มีคำอธิบาย มีงบฯประจำมากขึ้น ซึ่งเป็นปัญหาเดิมๆ ขณะที่ไม่มีงบฯลงทุน ที่เป็นการส่งเสริมบรรยากาศการลงทุนและเป็นความหวัง ดังนั้นเบื้องต้น ฝ่ายค้านมีแนวทางเดียวกันว่า จะไม่เห็นชอบร่างกฎหมายงบประมาณ ปี 2566 หรือไม่ให้ผ่าน แต่จะรอฟังคำชี้แจงจากรัฐบาลอีกครั้งก่อนพิจารณาหากมีความหวังอาจปรับทิศทาง และได้มีการหารือกรอบเวลาในการอภิปรายกันไประดับหนึ่งแล้ว ซึ่งวันที่ 31 พ.ค.นี้ จะทบทวนแนวทางอภิปรายอีกครั้ง
สำหรับการประชุมรัฐสภา นายสุทิน ระบุว่า ฝ่ายค้านมีแนวคิดจะขอเลื่อนการพิจารณาร่างกฎหมายลูก 2 ฉบับวาระ 2 และ3 ขึ้นมาพิจารณาก่อนร่าง พ.ร.บ.ตำรวจแห่งชาติ ส่วนความเห็นต่างในการคำนวณสูตร ส.ส.บัญชีรายชื่อระหว่างหาร 100 หรือหาร 500 นั้น ในวาระ 2 และ 3 ยังเปิดให้อภิปรายแสดงความเห็นได้
ส่วนเสียงที่เห็นต่างกันอยู่จะถึงขั้นคว่ำร่างกฎหมายลูกหรือไม่ นายสุทิน กล่าวว่า ยาก เพราะยังมีความเห็นต่าง แต่ในการลงมติโหวต ไม่ต้องใช้เสียง ส.ว. 84 เสียง ใช้เสียงเพียงครึ่งหนึ่งของรัฐสภาในการโหวตผ่าน ดังนั้นจะง่ายกว่าการโหวตรัฐธรรมนูญ และโอกาสที่กฎหมายจะตกไปหรือ ส.ว.จะคว่ำกฎหมายถือว่ายากกว่ารัฐธรรมนูญ อีกทั้งถ้าฝ่าย ส.ส. ยืนยันตามนี้ก็ไม่น่าจะคว่ำได้ แต่ก็ต้องวัดใจในแต่ละพรรคดู
ขณะที่วันนี้คณะทำงานขับเคลื่อนนโยบายสวัสดิการเงินอุดหนุนเด็กเล็กแบบถ้วนหน้าสู่ความยั่งยืน ได้ยื่นหนังสือให้ ประธานวิปฝ่ายค้าน อภิปรายสนับสนุน ร่างกฎหมายงบประมาณประจำปี 2566 ในส่วน สวัสดิการเงินอุดหนุนของเด็กเล็ก แบบถ้วนหน้า เพื่อให้เด็กเกือบ 2 ล้านคน ได้เงินใช้กว่า 10,000 ล้านบาท ที่น้อยมากจากงบประมาณ ทั้งหมด กว่า 3 ล้านล้านบาท