17 พฤษภาคม 2565 กรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย (ปภ.) กระทรวงมหาดไทย รายงาน ระหว่างวันที่ 14 – 17 พฤษภาคม 2565 เกิดวาตภัยในพื้นที่ 12 จังหวัด รวม 21 อำเภอ 42 ตำบล 67 หมู่บ้าน บ้านเรือนประชาชนได้รับความเสียหาย 167 หลัง ผู้บาดเจ็บ 1 ราย (ชัยภูมิ) ไม่มีผู้เสียชีวิต แยกเป็น
ภาคเหนือ 6 จังหวัด ได้แก่ เชียงราย พะเยา อุตรดิตถ์ พิษณุโลก กำแพงเพชร และพิจิตร รวม 12 อำเภอ 26 ตำบล 48 หมู่บ้าน บ้านเรือนประชาชนได้รับความเสียหาย 101 หลัง
ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ 5 จังหวัด ได้แก่ ขอนแก่น ชัยภูมิ อำนาจเจริญ อุดรธานี และสุรินทร์ รวม 8 อำเภอ 15 ตำบล 18 หมู่บ้าน บ้านเรือนประชาชนได้รับความเสียหาย 65 หลัง ผู้บาดเจ็บ 1 ราย (ชัยภูมิ)
ภาคตะวันออก 1 จังหวัด ได้แก่ ตราด รวม 1 อำเภอ 1 ตำบล 1 หมู่บ้าน บ้านเรือนประชาชนได้รับความเสียหาย 1 หลัง
ซึ่งกรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยได้ประสานจังหวัดและหน่วยงานที่เกี่ยวข้องในพื้นที่สำรวจความเสียหายและให้การช่วยเหลือผู้ประสบภัยในเบื้องต้นแล้ว ทั้งนี้ ประชาชนสามารถแจ้งเหตุและขอความช่วยเหลือทางไลน์ “ปภ.รับแจ้งเหตุ 1784” โดยเพิ่มเพื่อน Line ID @1784DDPM และสายด่วนนิรภัย 1784 ตลอด 24 ชั่วโมง รวมถึงสามารถติดตามประกาศการแจ้งเตือนภัยที่แอปพลิเคชัน “THAI DISASTER ALERT”
สำหรับรายงานคาดการณ์และแจ้งเตือนภัย ประจำวันที่ 17 พฤษภาคม 2565
พื้นที่เฝ้าระวังฝนฟ้าคะนองและลมกระโชกแรง
ภาคเหนือ จ.แม่ฮ่องสอน เชียงใหม่ เชียงราย ลำพูน ลำปาง สุโขทัย กำแพงเพชร ตาก นครสวรรค์ และอุทัยธานี
ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ จ.เลย ชัยภูมิ นครราชสีมา บุรีรัมย์ สุรินทร์ ศรีสะเกษ และอุบลราชธานี
ภาคกลาง จ.ชัยนาท สุพรรณบุรี สิงห์บุรี อ่างทอง สมุทรสงคราม กาญจนบุรี ราชบุรี นครนายก ปราจีนบุรี สระแก้ว ฉะเชิงเทรา ชลบุรี ระยอง จันทบุรี ตราด กรุงเทพมหานครและปริมณฑล
พื้นที่เฝ้าระวังน้ำท่วมฉับพลัน/น้ำป่าไหลหลาก
ภาคเหนือ จ.แพร่ (อ.วังชิ้น ร้องกวาง สอง) เชียงใหม่ (อ.พร้าว แม่แตง ฝาง) ลำปาง (อ.แจ้ห่ม งาว เมืองปาน วังเหนือ) น่าน (อ.นาหมื่น นาน้อย เวียงสา) และสุโขทัย (อ.ทุ่งเสลี่ยม บ้านด่านลานหอย)
พื้นที่เฝ้าระวังน้ำทะเลหนุนสูงบริเวณปากแม่น้ำและพื้นที่ราบลุ่มชายฝั่ง
ภาคกลาง จ.สมุทรสาคร สมุทรสงคราม สมุทรปราการ ฉะเชิงเทรา ชลบุรี ระยอง จันทบุรี ตราด เพชรบุรี ประจวบคีรีขันธ์ และกรุงเทพมหานคร
ภาคใต้ จ.ชุมพร สุราษฎร์ธานี นครศรีธรรมราช สงขลา ปัตตานี และนราธิวาส
ขอให้ประชาชนติดตามข้อมูลสภาวะอากาศและข่าวสารจากทางราชการ หลีกเลี่ยงการอยู่ในที่โล่งแจ้ง ใต้ต้นไม้ใหญ่ ป้ายโฆษณา และสิ่งปลูกสร้างที่ไม่แข็งแรง ระวังอันตรายจากสัตว์และแมลงมีพิษ อันตรายจากกระแสไฟฟ้า และระวังการขับขี่พาหนะบริเวณน้ำไหลผ่านเส้นทาง สำหรับพื้นที่ที่อยู่ใกล้บริเวณปากแม่น้ำและพื้นที่ราบลุ่มชายฝั่งให้ระวังผลกระทบจากระดับน้ำทะเลหนุนสูง