แพร่-ลอบยิงผู้ใหญ่บ้านหญิงเจ็บสาหัส เชื่อ คนลงมือ อยู่บ้านฝั่งตรงข้าม

15 พฤษภาคม 2565 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า วานนี้ ( 14 พ.ค.) ร.ต.อ.ไอยรา ผัดขัน พนักงานสอบสวน สภ.สะเอียบ อำเภอสอง จ.แพร่ ได้รับแจ้งเหตุมีผู้ถูกยิงด้วยปืนลูกซอง ที่บ้าน หมู่ 1 ต.สะเอียบ อ.สอง จ.แพร่ จึงประสาน พ.ต.ท.วันชนะ กางกร สารวัตรสอบสวน พร้อมุชุดสืบสวน สภ.สะเอียบ เข้าตรวจสอบที่เกิดเหตุ

พบที่เกิดเหตุเป็นบ้านไม้ 2 ชั้น มีป้าย “ที่ทำการผู้ใหญ่บ้านหมู่ที่ 1” ที่พื้นหน้าบ้านมีรอยเลือดและรองเท้าเปื้อนเลือด สอบถามทราบว่า ผู้บาดเจ็บ คือ นางสุดารัตน ชัยมงคล อายุ 50 ปี ได้รับบาดเจ็บที่บริเวณใบหน้าเจ้าหน้าที่ กู้ภัย ได้นำตัวผู้บาดเจ็บส่งโรงพยาบาลแพร่

จากการสอบถามทราบว่าผู้บาดเจ็บคือ นางสุดารัตน์หรือ “ผู้ใหญ่อ้อ” ได้เขียนชื่อผู้ต้องสงสัยลงในกระดาษให้ตำรวจ ก่อนนำตัวส่งโรงพยาบาล ว่า “เบิ้ม” จากนั้นชุดสืบสวนจึงได้ตามตัวผู้ต้องสงสัยคือ นายเบิ้ม ซึ่งอยู่บ้านตรงข้ามกับบ้านผู้บาดเจ็บ ซึ่งเป็นผู้ป่วยติดเชื้อโควิด-19 และอยู่ระหว่างกักตัวอยู่ในบ้าน ซึ่งให้ความร่วมมือกับเจ้าหน้าที่เป็นอย่างดี โดยอนุญาตให้เจ้าหน้าที่ เก็บเขม่าปืนที่มือ และดำเนินการหาอาวุธที่ใช้ก่อเหตุ ซึ่งคาดว่าน่าจะนำไปทิ้งที่บ่อน้ำในบ้าน

ร.ต.อ.ไอยรา ผัดขัน พนักงานสอบสวน เปิดเผยว่า เบื้องต้นได้ค้นบ้าน และบริเวณรอบบ้านผู้ต้องสงสัยแล้ว แต่ไม่พบอาวุธปืน ที่ใช้ก่อเหตุ จึงไม่แน่ชัดว่าเป็นผู้ก่อเหตุหรือไม่ เป็นเพียงผู้ต้องสงสัย ขณะนี้กำลังให้เจ้าหน้าที่ตรวจสอบบ่อน้ำ แต่ในบ่อน้ำมีน้ำอยู่ เราจึงต้องทำการสูบน้ำออก ว่ามีอาวุธปืนตกอยู่ข้างในหรือไม่ ผู้ต้องสงสัยนั้นบอกไม่รู้ ไม่เห็น ไม่เกี่ยว ไม่ทราบ แต่เป็นบุคคลต้องสงสัย บ้านอยู่ตรงข้ามกัน และติดเชื้อโควิด

ทั้งนี้ก่อนเกิดเหตุผู้ใหญ่บ้านเป็นห่วงลูกบ้านและได้มีการว่ากล่าวตักเตือนว่า หากติดเชื้อโควิดอย่าออกเดินเพ่นพ่าน ให้กักตัวที่บ้าน เขาคงไม่พอใจ และอาจจะเป็นผู้ก่อเหตุ เพราะหลังก่อเหตุทราบว่าผู้ใหญ่อ้อ เห็นผู้ต้องสงสัยยืนอยู่ริมรั้วติดเสาไฟฟ้า ตอนนี้เจ้าหน้าที่ได้ทำการค้นหาพยานหลักฐาน คาดว่าเป็นปืนแก๊ป เนื่องจากในที่เกิดเหตุเก็บเม็ดปรายได้สองเม็ด

ด้านนายมณีศักดิ์ ชัยมงคล อายุ 60 ปี สามีของผู้ใหญ่อ้อ กล่าวว่า ผู้ใหญ่บ้านน่าจะไปว่ากล่าวตักเตือน เพราะเขาป่วยติดโควิด เมื่อช่วงเช้าตนยังถามนายเบิ้มอยู่ว่า มีอาการอย่างไรบ้างเขาบอกเจ็บคอ ตนบอกให้ต้มน้ำผสมเกลือกลั้วคอ ไม่ต้องทานข้าวเหนียวให้หุงข้าว หรือต้มข้าวกินแทน ตอนนั้นก็ไม่มีเหตุการณ์โกรธหรืออะไรกัน

จากนั้นตนก็ไปตัดหญ้าที่สวน ตอนเที่ยงกลับมากินข้าวที่บ้าน ผู้ใหญ่กำลังทำกับข้าว ประมาณเที่ยงเขา(ผู้ต้องสงสัย)ตะโกนจากบ้านเขามาเรียกลูกชายตนให้ไปขึ้นเอาลูกตาลที่วัด แต่ผู้ใหญ่ไม่ให้ไป ห้ามไปเขาโมโหก็เรื่องของเขา ห้ามไปเกิดไปติดเชื้อโควิด ไม่ต้องไป จากนั้นพวกตนก็กินข้าวกัน หลังจากกินข้าวเสร็จ ผู้ใหญ่ก็นำขวดใส่กระสอบ แล้วนั่งเก้าอี้หน้าบ้าน เพื่อล้างขวดต่อ ตนนอนหลังบ้าน ได้ยินเสียงปืน ไม่รู้ว่ายิงมาจากบนบ้านหรือข้างหลัง เพราะห่างกันแต่ไม่ไกล ตอนวิ่งมาถึงนั้นเลือดเต็มหน้าแฟน จากนั้นก็รีบนำตัวส่งโรงพยาบาลพอไปถึงโรงพยาบาล ผู้ใหญ่เขียนชื่อ “เบิ้ม” ในกระดาษส่งให้

ขณะที่นายเหรียญ (ขอสงวนนามสกุล) หรือ “เบิ้ม” อายุ 52 ปี กล่าวว่า ขณะเกิดเหตุตนนั่งถอนหญ้าอยู่ในบ้าน ได้ยินเสียงดังเหมือนปืน จึงวิ่งมาดูตรงบันไดหน้าบ้าน ก็เห็นสามีผู้ใหญ่อ้อ นั่งกอดผู้ใหญ่อยู่ กับลูกชาย คิดว่าเป็นเรื่องทะเลาะกันในบ้านก็ไม่อยากยุ่ง ตนติดโควิดได้ 2 วัน หมอไม่ให้ออกจากบ้านก็ไม่ออกไปไหน ยืนยันว่าไม่ได้เป็นคนก่อเหตุ

กัญญสร ถิ่นทิพย์  รายงาน