9 พฤษภาคม 2565 นายสุชัชวีร์ สุวรรณสวัสดิ์ ผู้สมัครผู้ว่าฯกรุงเทพมหานคร หมายเลข 4 พรรคประชาธิปัตย์ ลงพื้นที่หาเสียงตลาดฝั่งโขง ถนนสรงประภา เขตดอนเมือง พร้อมรับฟังปัญหาพ่อค้าแม่ค้าในตลาด ซึ่งได้รับเสียงตอบรับเป็นอย่างดี แต่ปัญหาหลักที่พบคือ วันนี้ตลาดค่อนข้างเงียบ คนเดินตลาดค่อนข้างน้อย อาจจะเป็นเรื่องของปัญหาราคาสินค้าที่ขยับตัวสูงขึ้น ทำให้ประชาชนออกมาจับจ่ายใช้สอยน้อยลง ตนจึงให้ความมั่นใจกับประชาชนว่า หากได้เป็นผู้ว่าฯ กทม. ปัญหาปากท้องจะเป็นปัญหาหลักที่จะเร่งแก้ไข
จากนั้นลงพื้นที่รับฟังปัญหาจากทีมงานกู้ภัยดอนเมือง ซี่งทันทีที่ นายสุชัชวีร์ เห็นชุดและอุปกรณ์ของเจ้าหน้าที่อาสาก็รู้สึกสะท้อนใจ พร้อมระบุว่า กทม. มีงบบรรเทาสาธารณภัย สามารถนำมาใช้จัดอบรมให้ความรู้เจ้าหน้าที่อาสา เพื่อให้การปฏิบัติงานปลอดภัย และจัดซื้อชุด อุปกรณ์ให้ดีให้พร้อม ที่สำคัญจะพิจารณาเรื่องเบี้ยเลี้ยง และทำประกันหมู่ ซึ่งไม่ได้ใช้งบมากมาย ถือเป็นการให้กับผู้ที่เสียสละเพื่อส่วนรวม
นายสุชัชวีร์ กล่าวถึงการหาเสียงช่วงโค้งสุดท้าย ว่า ได้รับเสียงสนับสนุนนจากประชาชนในพื้นที่ดีมากๆ มีแต่คนส่งยิ้มให้กำลังใจ มาขอถ่ายรูป ยิ่งลงพื้นที่ ยิ่งเดิน ยิ่งมั่นใจว่าชาว กทม. จะให้โอกาสตนแน่นอน
ส่วนผลโพลที่ยังรั้งอันดับ 3 หรือ 4 นั้น ก็ไม่รู้สึกเสียกำลังใจ เพราะไม่เหมือนกันสักโพล และสำรวจคนแค่หลักพัน ทั้งที่คน กทม. มีกว่า 1 ล้านคน จึงคิดว่าโพลที่ดีที่สุดคือ ลงพื้นที่เพื่อรับฟังเสียงตอบรับจากประชาชนโดยตรง
สำหรับกำหนดการปราศรัยอีก 3 ครั้ง คือวันที่ 13 พ.ค. เขตสะพานสูง วันที่ 18 พ.ค. เขตบางขุนเทียน และวันที่ 20 พ.ค. ปราศรัยใหญ่ครั้งสุดท้ายใจกลางกรุงเทพฯ แต่สถานที่ขออุบสถานที่ไว้ก่อน ขอให้ติดตามเพราะการปราศรัยจะเข้มข้นขึ้นเรื่อยๆ
กรณี นายชัชชาติ สิทธิพันธุ์ ผู้สมัครหมายเลข 8 ประกาศตัวเป็น CEO บริหาร กทม. นายสุชัชวีย์ กล่าวว่า คน กทม. ต้องการคนที่อยู่ใกล้ชิดเขามากกว่า ตนขอแค่เป็นช่างประจำบ้านและเป็นแม่บ้านก็พอ เพราะนี่คือหน้าที่ของผู้ว่าฯ กทม. ต้องทั้งซ่อมทั้งปะผุ แล้วเวลาสร้างใหม่ต้องสร้างให้ดีกว่าเก่า ส่วนแม่บ้านก็คือการดูแลลูกๆ ดูแลความสะอาดบ้าน ดูแลคนแก่ในบ้าน