svasdssvasds
เนชั่นทีวี

การเมือง

กรณ์ โพสต์สุดซึ้งอาลัย "เจริญ คันธวงศ์" พร้อมกล่าวถึง ก้าวแรกบนถนนการเมือง

06 พฤษภาคม 2565
เกาะติดข่าวสาร >> Nation Story
logoline

กรณ์ โพสต์อาลัย "เจริญ คันธวงศ์" พร้อมเล่า ก้าวแรกที่เข้าสู่การเลือกตั้งเพราะอาจารย์ให้โอกาส ระบุ เป็นผู้ใหญ่ที่ผมเคารพรักมากที่สุด รองจากคุณพ่อ

6 พฤษภาคม 2565 นายกรณ์ จาติกวณิช หัวหน้าพรรคกล้า อดีตรองหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ โพสต์ข้อความผ่านเฟซบุ๊ก กรณ์ จาติกวณิช - Korn Chatikavanij ถึง นายเจริญ คันธวงศ์ พร้อมเล่าเบื้องหลังการเดินบนเส้นทางการเมืองของตัวเอง วานนี้( 5 พ.ค.) โดยระบุว่า

 

อาลัยยิ่ง อาจารย์ 'เจริญ คันธวงศ์'

‘อาจารย์เจริญ’ เป็นคนรุ่นเดียวกันกับคุณพ่อผม และรองมาจากคุณพ่อแล้ว เป็นผู้ใหญ่ที่ผมเคารพรักมากที่สุด

 

ผมมานั่งคิดดูว่า อะไรเป็นสิ่งที่ทำให้เราเคารพหรือรักใคร คำตอบต้องใช้หลายคำบรรยายเหมือนกัน คือ ความใจกว้าง ความดี ความแฟร์ และการเป็นผู้ให้ (โดยไม่มีเงื่อนไขสิ่งตอบแทน)

 

ในปี 2548 ผมลงสมัครส.ส.ในเขตยานนาวา-สาทร โดยมีอาจารย์เจริญเปิดทางให้ อาจารย์เป็นส.ส.ในเขตนี้เดิม แต่ได้ตัดสินใจลงส.ส.บัญชีรายชื่อ และรับอาสาเป็นพี่เลี้ยงให้ผู้สมัครหน้าใหม่อย่างผมที่ไม่เคยมีประสบการณ์ลงเลือกตั้งใดๆ มาก่อน

 

แกยกที่ทำงานแกให้เป็นศูนย์เลือกตั้งของผม ยกทีมงานทั้งหมดให้มาช่วย แต่ที่สำคัญที่สุดคือ แกอุทิศตนในการช่วยหาเสียงเสมือนกับแกเป็นผู้สมัครเอง

 

นั่นหมายถึงว่า แกตื่นแต่มืดเพื่อลงพื้นที่กับผมแทบทุกวัน และมักจะอยู่กับผมจนเย็น เป็นเช่นนี้อยู่กว่า 3 เดือน

 

ความทุ่มเทของอาจารย์เป็นมาตรฐานที่สูงมากให้ผมตลอดมา ผมช่วยคนอื่นแค่ไหน  ผมก็ไม่เคยรู้สึกว่าเทียบได้กับที่อาจารย์เคยช่วยผมมา

 

ในฐานะ political rookie ผมมีเรื่องต้องเรียนรู้จากอาจารย์และทีมงานมากมาย

กรณ์ โพสต์สุดซึ้งอาลัย "เจริญ คันธวงศ์" พร้อมกล่าวถึง ก้าวแรกบนถนนการเมือง

“คุณกรณ์ (แกเรียกผม ‘คุณ’ ตลอด) คุณไปงานศพชาวบ้าน คุณไปเงียบๆ เหมือนคนทั่วไปไม่ได้ ถ้าจะไปอย่างนั้นคุณนั่งอยู่บ้านดีกว่า คุณจะนั่งข้างหลังกับชาวบ้านได้ แต่คุณต้องเดินไปหาเจ้าภาพหน้างานก่อน เคารพศพ แล้วค่อยเดินจากข้างหน้ามาข้างหลัง ให้ชาวบ้านเห็น และให้คุณได้ไหว้ทักทายชาวบ้านทุกคน”

 

“คุณกรณ์ เวลาไปงานโต๊ะจีน คุณต้องนั่งโต๊ะติดกับเวที เดินทักทายทุกคนถึงที่นั่งกับคุณ แล้วนั่งหันหลังให้เวที หันหน้ามาในห้อง เพื่อเวลาแขกคนอื่นเขาหันมามองเวที เขาจะได้เห็นหน้าคุณ”

 

“คุณกรณ์ จำไว้นะ อย่าเบื่อ อย่าเหนื่อยที่มีชาวบ้านมาขอความช่วยเหลือเยอะแยะมากมาย เพราะนั่นแปลว่าเขามีความหวังในตัวคุณ ในฐานะนักการเมืองวันไหนไม่มีใครมาพึ่งพาวันนั้นคุณจะรู้สึกเหนื่อยจริง”

 

วันเลือกตั้ง ‘ของเรา’ (เพราะมันไม่ใช่วันของผมคนเดียว) ในปี 2548 การนับคะแนนในเขตผมมีดราม่ามากมาย สมัยนั้นยังมีการปิดหีบที่หน่วยเลือกตั้งแล้วขนทุกหีบมานับรวมกันที่ศูนย์กลางในแต่ละเขตเลือกตั้ง

 

ผมพบหลักฐานว่า.. มีการเปิดบางหีบระหว่างทางแน่นอน

 

ผมเรียกร้องคำอธิบายจาก กกต. และไม่ยอมให้มีการเปิดหีบนับคะแนนจนกว่าจะมีคำชี้แจง (ซึ่งเขาชี้แจงไม่ได้) กกต.ยืนยันจะนับคะแนน แต่ผมไม่ยอมจนต้องขึ้นไปนั่งทับหีบเพื่อรักษาสิทธิของผม (นั่งทับบนหีบจริงๆ!)

 

วันนั้นพรรคไทยรักไทยยิ่งใหญ่มาก มี ‘แลนด์สไลด์’ ของจริง เขตอื่นเขานับเสร็จหมดแล้ว ผู้สมัคร ส.ส.ไทยรักไทยและทีมงานยกพลมาที่เขตยานนาวาเพื่อเป็นกำลังใจให้คู่แข่งผม สื่อทุกสื่อมาตั้งกล้องที่เขตนี้ เหลือเขตนี้เขตเดียวในประเทศที่ยังไม่ได้นับคะแนน ดราม่าพีคถึงที่สุด

กรณ์ โพสต์สุดซึ้งอาลัย "เจริญ คันธวงศ์" พร้อมกล่าวถึง ก้าวแรกบนถนนการเมือง

ตลอดช่วงเวลานั้นผมมีอาจารย์อยู่เคียงข้าง จนประมาณตี 2 ผมบอกกับอาจารย์ว่า “อาจารย์กลับไปพักผ่อนเถอะครับ ผมรับมือได้แล้ว เช้าเจอกัน” เขตเรานับคะแนนเสร็จประมาณ 10 โมงเช้าวันรุ่งขึ้น ตอนสายๆ พอค่อนข้างแน่ชัดว่า ผมฝ่าด่าน ‘แลนด์สไลด์’ มาได้ อาจารย์ขับรถกลับมาที่ศูนย์นับคะแนนที่วัดดอกไม้ เดินมากอดผมแน่นแล้วร้องไห้สะอึกสะอื้นด้วยความดีใจ พลางพูดใส่หูผมว่า “คุณเก่งมาก คุณเก่งมาก”

 

อาจารย์สิครับ คือคนเก่ง คนดี คนที่ให้โดยที่ไม่เคยขอ อาจารย์เจริญ คือคนที่ผมนึกถึงเสมอว่า ในยุคหนึ่งบ้านเมืองเราเคยมีนักการเมืองแบบนี้ ที่ซื่อสัตย์ ทุ่มเท เสียสละ และเป็นคนของประชาชนอย่างแท้จริง

 

จากวันนั้นอาจารย์ก็เป็นที่พึ่งที่ พร้อมให้คำปรึกษาเสมอ ตอนผมได้เป็นรัฐมนตรี คุณพ่อผมได้เสียชีวิตไปแล้ว อาจารย์จะพูดเสมอว่า ‘ถ้าคุณพ่อคุณรู้ ท่านจะต้องภาคภูมิใจ’ ซึ่งจริงๆแล้วเป็นคำพูดที่สะท้อนความรู้สึกของแกเอง และตลอดช่วงที่ผมอยู่ในตำแหน่ง แกไม่เคยมาที่กระทรวง ไม่เคยขออะไร ไม่เคยแสดงออกใน connection พิเศษระหว่างเรา

 

อาจารย์มีอารมณ์ขันเสมอ และชอบปล่อยมุกโหดๆตามสไตล์นักเลงโบราณ

 

     “ถ้าเมียถาม จงอย่าบอก

     ถ้าเมียไล่ จงอย่าหนี

     ถ้าเมียตี จงอย่าสู้

     ถ้าเมียรู้ ต้องไม่รับ”

(คำอวยพรงานแต่งงาน ที่อาจารย์ชอบใช้)

 

ผมขอขอบคุณครอบครัวของอาจารย์ ที่ต้องยอมแบ่งปันเวลาของสามีหรือพ่อ มาให้ประชาชนและพวกเรา อยากจะบอกไว้ ณ ที่นี้ว่า ความเสียสละของครอบครัวตลอดเวลาหลายสิบปี มีความหมายอย่างมากกับชีวิตคนจำนวนมากจริงๆ ครับ

 

รักและคิดถึงอาจารย์เจริญเสมอ

กรณ์ จาติกวณิช

กรณ์ โพสต์สุดซึ้งอาลัย "เจริญ คันธวงศ์" พร้อมกล่าวถึง ก้าวแรกบนถนนการเมือง

logoline