หลังจากมีรายงานว่า พระธวัฒน์พล จกฺกวโร หรือ พระย้อย ผู้นำคลิปมาเผยแพร่และร่วมให้ข้อมูลในเรื่องพระนักเทศน์ดังเสพเมถุนสีกา จนทำให้หลายคนพุ่งเป้าไปที่ พระพงศกร จันทร์แก้ว หรือ "หลวงพี่กาโตะ" พระนักเทศน์หนุ่มชื่อดัง ซึ่งเจ้าตัวออกมาปฏิเสธเสียงแข็งว่า เป็นเพียงแค่คนเสียงคล้ายเท่านั้น ก่อนที่จะมีดราม่ารวมถึงบรรดาทัวร์ตามที่มาลง “หลวงพี่กาโตะ” อย่างหนัก และตามมาด้วยกระแสข่าวว่า “หลวงพี่กาโตะ” หายตัวไปอย่างปริศนา
จนกระทั่งกลางดึกคืนที่ผ่านมา (30 เม.ย.) “หลวงพี่กาโตะ” ได้ปรากฎตัวออกมา พร้อมทำพิธีลาสิกขา ต่อหน้าเจ้าคณะภาค 16 พระราชวิสุทธิกวี เจ้าคณะจังหวัดนครศรี พระครูสิริธรรมาภิรัตน์ เจ้าคณะอำเภอฉวาง พระครูอรรคธรรมโกวิท (พระอุปัชฌาย์) เพื่อยุติอุปสรรค์ต่าง ๆ โดยมีรายงานว่า ซึ่งการลาสิกขาของหลวงพี่กาโตะครั้งนี้ ส่งผลให้การดำเนินการทางวินัยสงฆ์เป็นอันยุติ แต่หากมีกรณีที่เกี่ยวข้องและเข้าข่ายละเมิดอาจเข้าสู่กระบวนการยุติธรรมหรือไม่ก็ได้
ล่าสุด (1 พ.ค.65) พระย้อย ได้ออกแถลงการณ์ผ่านเพจเฟซบุ๊ก สมาคมสื่อมวลชนนครศรีธรรมราช
ระบุว่า “กรณีคลิปเสียงที่เกี่ยวข้องกับการเสพเมถุนที่สงสัยว่าเป็นพระนักเทศน์ชื่อดังกับสีกาสาว ที่สื่อมวลชนนำเสนอข่าวให้กระจ่าง พิสูจน์ความบริสุทธิ์ของทั้งสองฝ่ายและตรวจสอบข้อเท็จจริงว่าเรื่องราวเป็นมาอย่างไรทั้งคลิปเสียง เลขบัญชี และตามที่อาตมาได้ให้ข้อมูลให้ไป โดยมีวัตถุประสงค์เพื่อให้มีการสอบสวนข้อเท็จจริง”
“อาตมาตั้งใจปกป้องศาสนา แค่พระรูปเดียวไม่ได้มีเจตนาใด ๆ ทั้งสิ้นหากพระนักเทศน์กระทำผิดจริงก็ต้องปาราชิกก็ขอให้สึกจากความเป็นพระเสียเพื่อปกป้องพระพุทธศาสนา แต่หากพยานหลักฐานยืนยันว่าผลการสอบสวนไม่ผิดก็จะได้เป็นผู้บริสุทธิ์ทำหน้าที่ในการเผยแพร่หลักธรรมคำสั่งสอนของพระพุทธศาสนาต่อไป อาตมาบริสุทธิ์ใจไม่มีเจตนาที่จะกลั่นแกล้งทำร้ายหรือหวังให้เกิดความขัดแย้งกับผู้หนึ่งผู้ใดทั้งสิ้น”
“ขอบคุณคณะสงฆ์ทุกรูปและสื่อมวลชนที่ให้ความร่วมมือในการให้ความกระจ่าง ขอขอบคุณทุก ๆ ท่านที่ให้ความร่วมมือที่อาตมาได้ให้ข้อมูลความเป็นจริง ให้ความเป็นธรรมกับทั้งสองฝ่าย ขอเจริญพร”
“รู้สึกดีที่พระรูปนั้นได้ลาสิกขา เพื่อไม่ทำลายพุทธศาสนาต่อไป ในเมื่อพระนักเทศน์ที่ต้องสงสัยได้สึกจากพระไปเรียบร้อยแล้ว เรื่องทั้งหมดในทางพระธรรมวินัยถือว่าจบสิ้น อาตมาขอยุติการติดตามและการให้ข้อมูลในกรณีนี้แต่เพียงเท่านี้”
“และขอขอบพระคุณคณะสงฆ์ หน่วยงานที่เกี่ยวข้องและสื่อมวลชนทุกสังกัดที่ช่วยกันกระตุ้นให้เกิดการตรวจสอบจนกระนักเทศน์ตัดสินใจสึกจากพระไปแล้ว ส่วนการสอบสวนทางพระธรรมวินัยจะดำเนินการต่อไปหรือไม่อยู่ในดุลยพินิจของคณะสงฆ์ โดยส่วนตัวอาตมายืนยันว่าจะยังคงทำหน้าที่ในการปกป้องพระพุทธตลอดไป”