รองผู้ว่าประจวบฯ ฉุนกิ๋ก ลุยจับพ่อค้าหัวใส แอบสวมรอย "ทุเรียนป่าละอู"

ว่าที่พันตรีอดิศักดิ์ น้อยสุวรรณ รองผู้ว่าราชการจังหวัดประจวบคีรีขันธ์ เปิดเผยว่า หลังจากได้รับการร้องเรียนจากประชาชน เกี่ยวกับร้านค้าจำหน่าย "ทุเรียนป่าละอู" บริเวณริมถนนทางหลวงบายพาสชะอำ-ปราณบุรี พื้นที่ อ.หัวหิน ซึ่งมีการจำหน่ายผลผลิตที่ไม่ได้มาตราฐาน โดยมีการนำทุเรียนอ่อน มาจำหน่ายให้กับประชาชนที่สัญจรไปมา ภายหลังรับแจ้งจึงได้เดินทางลงพื้นที่เพื่อตรวจสอบ พร้อมกับ นายอำเภอหัวหิน เกษตรจังหวัด พาณิชย์จังหวัด, นายก อบต.ห้วยสัตว์ใหญ่ , เจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.หัวหิน และ อส.  ซึ่งเป็นจุดจำหน่ายทุเรียน บริเวณริมถนนทางหลวงบายพาสชะอำ-ปราณบุรี 

พบร้านค้า และป้าข้อความยระบุว่า จำหน่าย "ทุเรียนป่าละอู" ซึ่งจากการตรวจสอบทุเรียนดังกล่าว ที่ทางร้านนำมาจำหน่าย ไม่ใช่ทุเรียนป่าละอู  โดยมีการนำทุเรียนจากพื้นที่อื่น ที่ไม่ได้คุณภาพ และเป็นทุเรียนอ่อน มาจำหน่ายให้กับประชาชน ซึ่งเป็นการแอบอ้างว่าเป็นทุเรียนป่าละอู  

นอกจากนั้น ยังพบว่า มีการติดสติ๊กเกอร์ทุเรียนในโครงการพระราชดำริ หมู่บ้านห้วยสัตว์ใหญ่ ป่าเด็ง-ป่าละอู แต่ข้อมูลจากสวน "ทุเรียนป่าละอู" พบว่า ช่วงนี้ยังไม่มีผลผลิตออกมาจำหน่าย การกระทำดังกล่าว จึงเข้าข่ายการหลอกลวง โดยนำทุเรียนจากแหล่งผลิตอื่น มาติดสติ๊กเกอร์ เพื่อสวมรอยจำหน่าย ว่าเป็นทุเรียนป่าละอู

ทั้งนี้ จากการตรวจสอบ พบผู้กระทำความผิดเป็นร้านค้า จำนวน  1 แห่ง ขณะที่ร้านค้าอีก 7 ร้าน บนถนนบายพาส คาดว่าจะรู้ตัวล่วงหน้า จึงได้ปิดร้านหลบหนีไปก่อนหน้านี้ จากนั้นเจ้าหน้าที่ได้แจ้งความร้องทุกข์ เพื่อดำเนินคดีตามประกาศของจังหวัดประจวบคีรีขันธ์

เรื่อง มาตรการป้องกันและแก้ไขปัญหาทุเรียนด้อยคุณภาพ ฤดูกาลผลิต ปี 2565 มีความผิดตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 271 ผู้ใดขายของโดยหลอกลวงด้วยประการใด ๆ ให้ผู้ซื้อหลงเชื้อในแหล่งกำเนิด สภาพ คุณภาพ หรือ ปริมาณแห่งของนั้น อันเป็นเท็จ และการกระทำดังกล่าว เป็นความผิดฐานฉ้อโกง ต้องระวางโทษจำคุกไม่เกิน 3 ปี หรือปรับไม่เกิน 6 หมื่นบาท หรือทั้งจำทั้งปรับ
 

นายวัชระ กำพร นายก อบต.ห้วยสัตว์ใหญ่ กล่าวว่า ขณะนี้ ต.ห้วยสัตว์ใหญ่ เริ่มมีผลผลิต "ทุเรียนป่าละอู"  แต่ผลผลิตชุดแรก มีน้อยมาก เพียงแค่ 170 ลูกเท่านั้น ซึ่งจำนวนดังกล่าวเพียงพอสำหรับการขายที่สวน และยังไม่มีการนำไปจำหน่ายแห่งอื่น

สำหรับการสวมชื่อ "ทุเรียนป่าละอู"  เพื่อจำหน่ายดังกล่าว ทำให้เกิดความเสียหายอย่างมาก ซึ่งจากนี้ไปจะดำเนินการตรวจสอบให้มีความเข้มข้นมากขึ้น เพื่อป้องกันการนำผลผลิตจากพื้นที่อื่น รวมทั้งป้องกันการนำทุเรียน ด้อยคุณภาพมาจำหน่าย และสวมรอยแอบอ้างว่าเป็น "ทุเรียนป่าละอู" เพื่อหลอกขายให้กับประชาชน