svasdssvasds
เนชั่นทีวี

อาชญากรรม

เปิดคำพิพากษาฉบับเต็ม “ส.ต.ต.นรวิชญ์” ซิ่งบิ๊กไบค์ชน “หมอกระต่าย” ดับ

25 เมษายน 2565
เกาะติดข่าวสาร >> Nation Story
logoline

เปิดคำพิพากษาฉบับเต็ม “ส.ต.ต.นรวิชญ์” ซิ่งบิ๊กไบค์ชน “หมอกระต่าย” ดับ เจอจำคุก 1 ปี 15 วัน ปรับ 4,000 บาท ไม่รอลงโทษ ยึดรถ เพิกถอนใบขับขี่

วันนี้ (25 เม.ย. 65 ) เวลา 09.00 น. ที่ห้องพิจารณา 907 ศาลอาญา ถ.รัชดาภิเษก ศาลนัดอ่านคำพิพากษา คดีหมายเลขดำ อ. 399/2565 ที่ พนักงานอัยการคดีอาญา 3 เป็นโจทก์ฟ้อง ส.ต.ต.นรวิชญ์ บัวดก อายุ 21 ปี  ผบ.หมู่ กองร้อยที่ 2 กองกำกับการ 1 กองบังคับการอารักขาและควบคุมฝูงชน (กก.1 บก.อคฝ.) เป็นจำเลยในความผิด ฐานขับรถโดยประมาทหรือน่าหวาดเสียว อันอาจเกิดอันตรายต่อบุคคลหรือทรัพย์สิน และกระทำการโดยประมาทเป็นเหตุให้ผู้อื่นถึงแก่ความตาย และข้อหาอื่นๆ รวม 9 ข้อหา

 

ส.ต.ต.นรวิชญ์ บัวดก อายุ 21 ปี เป็นจำเลยในความผิด ฐานขับรถโดยประมาทหรือน่าหวาดเสียว อันอาจเกิดอันตรายต่อบุคคลหรือทรัพย์สิน และกระทำการโดยประมาทเป็นเหตุให้ผู้อื่นถึงแก่ความตาย และข้อหาอื่นๆ รวม 9 ข้อหา

 

กรณีที่เมื่อวันที่ 21 ม.ค. 2565 เวลากลางวันส.ต.ต.นรวิชญ์  จำเลย ขี่จยย.บิ๊กไบค์ ยี่ห้อดูคาติ รุ่นมอนสเตอร์ทะเบียน 1 กผ 9942 เชียงราย  ชน พญ.วราลัคน์ สุภวัตรจริยากุล หรือ หมอกระต่าย จักษุแพทย์ จักษุแพทย์รพ.ราชวิถี ขณะกำลังเดินข้ามทางม้าลาย บริเวณหน้า รพ.สถาบันไตภูมิราชนครินทร์ ถนนพญาไท แขวง-เขตราชเทวี กรุงเทพฯซึ่งเป็นเขตชุมชุนด้วยความเร็ว 108-128 กม.ซึ่งเกินกว่ากฎหมายกำหนดที่ 80 กม.ต่อชั่วโมง จนพญ.วราลัคน์ ถึงแก่ความตาย

 

 

พญ.วราลัคน์ สุภวัตรจริยากุล หรือ หมอกระต่าย จักษุแพทย์รพ.ราชวิถี

 

ต่อมาวันที่ 22 ก.พ.65  พนักงานอัยการ โจทก์ได้นำตัวส.ต.ต.นรวิชญ์  ยื่นฟ้องเป็นจำเลยต่อศาลอาญา รวม 9 ข้อหาได้แก่

1. นำรถที่มิได้ติดแผ่นป้ายทะเบียนมาใช้ในทางเดินรถ

2. ฝ่าฝืนใช้รถที่ไม่ได้เสียภาษีประจำปี

3. ใช้รถที่ไม่ได้จัดให้มีการประกันความเสียหายสำหรับผู้ประสบภัย

4. นำรถไม่สมบูรณ์มาขับและไม่ติดกระจกมองข้าง

5. ขับรถไม่ชิดขอบทางด้านซ้าย

6. ขับรถจักรยานยนต์เร็วเกินกว่ากฎหมายกำหนด

7. ขับรถโดยไม่คำนึงถึงความปลอดภัยหรือความเดือดร้อนของผู้อื่น

8. ขับรถโดยไม่ปฏิบัติตามเครื่องหมายบนพื้นทาง

9. ขับรถโดยประมาทหรือน่าหวาดเสียว อันอาจเกิดอันตรายต่อบุคคลหรือทรัพย์สิน และกระทำการโดยประมาทเป็นเหตุให้ผู้อื่นถึงแก่ความตาย

 

ท้ายคำฟ้องพนักงานอัยการ ยังขอให้ศาลมีคำสั่งริบรถจักรยานยนต์ที่ พนักงานสอบสวนยึดไว้เป็นของกลาง และมีคำขอให้ศาลเพิกถอน หรือพักใช้ใบอนุญาตขับขี่ของผู้ต้องหาด้วย โดยการริบหรือพักใช้ใบอนุญาตขับขี่ขึ้นอยู่กับดุลย์พินิจของศาลว่าจะให้พักใช้เป็นระยะเวลากี่ปี

 

ส.ต.ต.นรวิชญ์ แถลงให้การรับสารภาพ ไม่ต่อสู้คดี

 

ศาลจึงมีคำสั่งให้พนักงานคุมประพฤติ สืบเสาะ และพินิจ ประวัติการศึกษา สถานะทางครอบครัว และอื่นๆ ของส.ต.ต.นรวิชญ์ แล้วรายงานให้ศาลทราบ เพื่อใช้ประกอบการพิจารณาพิพากษา

 

ทั้งนี้ ส.ต.ต.นรวิชญ์ จำเลย ได้รับการปล่อยชั่วคราว ระหว่างพิจารณา โดยศาลตีราคาประกัน 50,000 บาท.

 

โดยวันนี้จำเลยเดินทางมาศาลพร้อมทนาย

 

ศาลพิพากษาว่า จําเลยมีความผิดตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 291 พ.ร.บ.รถยนต์ พ.ศ.2522 มาตรา 5 (2) 11 ,12วรรคหนึ่ง, 58, 60 พ.ร.บ.จราจรทางบก พ.ศ.2522 มาตรา 6วรรคสอง, 7,21วรรคหนึ่ง, 32. 33, 34 ,35วรรคสอง, 43(4) (8), 46(2), 67 วรรคหนึ่ง, 70, 148วรรคหนึ่ง 151, 152, 158, 160วรรคสาม พ.ร.บ.คุ้มครองผู้ประสบภัยจากรถ พ.ศ. 2535 มาตรา 11,39 กฎกระทรวงกำหนดอัตราความเร็วสำหรับการขับรถในทางเดินรถ พ.ศ. 2564ข้อ 3,44(3) กฎกระทรวงกำหนดส่วนควบและเครื่องอุปกรณ์สำหรับรถ พ.ศ. 2551 ข้อ 3(20), 5(1)

 

การกระทำของจำเลยเป็นความผิดหลายกรรมต่างกัน ให้ลงโทษทุกกรรมเป็นกระทงความผิดไป ลงโทษตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 291 จำคุก 2 ปี จำเลยให้การรับสารภาพ เป็นประโยชน์แก่การพิจารณา มีเหตุบรรเทาโทษ ลดโทษให้กระทงละกึ่งหนึ่งตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 78 ความผิดฐานนำรถที่มิได้ติดแผ่นป้ายเลขทะเบียนมาใช้ในทางเดินรถ ปรับ 1,000 บาท ฐานใช้รถที่มิได้เสียภาษีประจำปี ปรับ 1,000 บาท ฐานใช้รถที่ไม่ได้จัดให้ มีการประกันความเสียหาย

 

รวมโทษแล้วจำคุก 1 ปี 15 วัน และปรับ 4,000 บาท

 

ปรับ 1,000 บาท ฐานใช้รถโดยมีส่วนควบหรือเครื่องอุปกรณ์ สำหรับรถไม่ครบถ้วน ปรับ 1,000 บาท ฐานขับรถเร็วเกินกว่าที่กฎหมายกำหนดโดยไม่ คำนึงถึงความปลอดภัยและความเดือดร้อนของผู้อื่น จำคุก 15 วัน ฐานขับรถเร็วเกินกว่าที่กฎหมายกำหนดโดยประมาทหรือน่าหวาดเสียวอันอาจเกิดอันตรายแก่บุคคลหรือ ทรัพย์สินโดยไม่ปฏิบัติตามเครื่องหมายบนพื้นทางเป็นเหตุให้เฉี่ยวชนผู้อื่นถึงแก่ความตาย จำคุก 1 ปี รวมโทษแล้วจำคุก 1 ปี 15 วัน และปรับ 4,000 บาท

 

พิเคราะห์รายงานการ สืบเสาะและพินิจของจำเลยแล้วเห็นว่า จำเลยขับรถจักรยานยนต์ด้วยความเร็วสูงมาก ประมาณช่วงระหว่างความเร็ว 108-128 กิโลเมตรต่อชั่วโมง ซึ่งเป็นความเร็วเกินกว่า ที่กฎหมายกำหนดและที่วิญญูชนทั่วไปคาดคิด ทั้งยังขับแซงรถคันอื่นใกล้กับบริเวณที่มีเครื่องหมายจราจรทางข้าม (ทางม้าลาย) ในบริเวณที่อยู่ใกล้กับสถานพยาบาลและสถานที่ ราชการ ซึ่งเป็นเขตเมืองและเป็นเขตชุมชนที่มีประชาชนจำนวนมากไปรับบริการและใช้ทางดังกล่าวเป็นปกติตลอดทั้งวัน อันเป็นการเพิกเฉยต่อความปลอดภัยของผู้ใช้รถและผู้สัญจรอื่นๆ บนท้องถนน ประกอบกับจำเลยขับรถที่ยังไม่ได้เสียภาษีประจำปี

 

ทำให้รัฐต้องสูญเสียรายได้และไม่ได้จัดให้มีการประกันความเสียหายกับผู้ประสบภัยจากรถ แม้จำเลยจะพยายามบรรเทาผลร้ายแล้ว แต่พฤติการณ์แห่งการกระทำความผิดของจำเลยดังกล่าว ถือว่าเป็นร้ายแรง จึงไม่มีเหตุให้รอการลงโทษจำเลย หากจำเลยไม่ชำระค่าปรับ จัดการตาม ประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 29,30 สำหรับรถจักรยานยนต์ของกลางเป็นทรัพย์สินที่ จำเลยได้ใช้ในการกระทำความผิด

 

จึงให้ริบตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 33(1) และหากจำเลยขับรถต่อไปอาจก่อให้เกิดอันตรายแก่บุคคลหรือทรัพย์สินของผู้อื่น จึงให้ เพิกถอนใบอนุญาตขับรถจักรยานยนต์ ฉบับที่ 64001268 ออกโดยสำนักงานขนส่ง จังหวัดนครสวรรค์ และเพิกถอนใบอนุญาตขับรถยนต์ส่วนบุคคลชั่วคราว ฉบับที่64000905 ออกโดยสำนักงานขนส่งจังหวัดนครสวรรค์ ตามพระราชบัญญัติจราจรทางบกฯ มาตรา 162 วรรคหนึ่ง

 

logoline