22 เมษายน 2565 นพ.ทวีศิลป์ วิษณุโยธิน โฆษกศูนย์บริหารสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 หรือ โควิด19 (ศบค.) แถลงภายหลังการประชุม ศบค.ชุดใหญ่ ที่มีพล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหมเป็นประธาน ถึงสถานการณ์การติดเชื้อโควิด-19 ในประเทศไทย ระบุว่า..
ประเทศไทยหลุดออกมาจากบัญชีที่เฝ้าระวังสูงๆ ของสหรัฐอเมริกา ยอดติดเชื้อโควิด-19 รายใหม่ ล่าสุดวันนี้ 21,808 ราย เสียชีวิต 128 ราย กำลังรักษาตัว 190,780 ราย โดยผู้ที่มีอาการหนัก 1,985 ราย ใส่ท่อช่วยหายใจ 913 ราย
“ อัตราการใช้เตียงสีเหลืองและแดง 25.3% หรือ 1 ใน 4 เท่านั้น เนื่องจากใช้ระบบการดูแลแบบ “เจอ แจก จบ” ซึ่งดูแลแล้ว 1,777,974 คน ทำให้เตียงเหลืองและแดงมีเพียงพอ ”
นพ.ทวีศิลป์ กล่าวอีกว่า ประเทศไทยมียอดติดเชื้อโควิดสูงอยู่ 2 ช่วง คือ เม.ย. 2564 และ ม.ค. 2565 ส่วนทิศทางขณะนี้คล้ายกำลังจะลงแต่ผู้เสียชีวิตยังทรงๆ เหมือนดูสูงขึ้นเล็กน้อย ส่วนสถานการณ์ปอดอักเสบยังอยู่เหนือเส้นคาดการณ์สีเขียว ใส่ท่อช่วยหายใจอยู่เหนือเส้นสีเหลือง และผู้เสียชีวิตยังอยู่ที่เส้นสีเหลือง ซึ่งส่วนใหญ่ผู้เสียชีวิตยังไม่ได้รับวัคซีนและมีโรคประจำตัว
อย่างไรก็ดี การไปสู่โรคประจำถิ่นสำคัญอยู่ที่อัตราเสียชีวิต จะต้องต่ำกว่า 0.1% แต่เราอยู่ที่ 0.31% ซึ่งบางกลุ่มจังหวัดบางกลุ่มยังอยู่ในระยะการต่อสู้ เพราะเป็นช่วงขาขึ้น บางจังหวัดทรงตัว และบางจังหวัดขาลง แยกกลุ่มจังหวัดดังนี้..
“ การจะประกาศโรคโควิด-19 เป็นโรคประจำถิ่นนั้น อัตราผู้เสียชีวิตถือเป็นเรื่องที่สำคัญ จะต้องน้อยกว่า 0.1%เป็นรายสัปดาห์หรือสองสัปดาห์ติดต่อกัน เราไปถึงระยะนั้นแล้วหรือยัง นั่นคือสิ่งที่ต้องพยายามทำให้อัตราผู้เสียชีวิตต่ำมากกว่านี้ เพื่อจะได้นำไปสู่การประกาศเป็นโรคประจำถิ่นต่อไป ” นพ.ทวีศิลป์ กล่าวถึงเงื่อนไขการประกาศให้ โควิด เป็นโรคประจำถิ่น
ทั้งนี้ ที่ประชุม ศบค. ชุดใหญ่ ได้มีมติลดพื้นที่สถานการณ์โควิด-19 เหลือเพียง พื้นที่เฝ้าระวังสูงสุด (พื้นที่สีเหลือง) 65 จังหวัดและ พื้นที่นำร่องท่องเที่ยว (พื้นที่สีฟ้า) 12 จังหวัด โดยจะมีผลในวันที่ 1 พ.ค. 2565
พื้นที่เฝ้าระวังสูง 65 จังหวัด ประกอบด้วย
พื้นที่นำร่องการท่องเที่ยว 12 จังหวัด ประกอบด้วย