ศรีสุวรรณร้อง ป.ป.ช.สอบกรมโยธาฯ สร้างเขื่อนเอื้ออดีตรองหน.พรรค ปชป.อุบลฯ

เวลา 13.00 น. ที่สำนักงาน ป.ป.ช.นนทบุรี นายศรีสุวรรณ จรรยา เลขาธิการสมาคมองค์การพิทักษ์รัฐธรรมนูญไทย ได้เดินทางมายื่นคำร้องต่อ ป.ป.ช.เพื่อขอให้ไต่สวนสอบสวนเอาผิดโยธาธิการจังหวัดอุบลราชธานี กรณีจัดงบหลวง 60 ล้านก่อสร้างเขื่อนป้องกันตลิ่งพังริมแม่น้ำมูลและลำห้วยสักไพรซึ่งยาวเพียง 600 เมตร แต่ทำเฉพาะด้านหน้ารีสอร์ทของอดีตรอง หน.พรรค ปชป.อุบลราชธานี ถือเป็นการเอื้อประโยชน์กันหรือไม่

ทั้งนี้โครงการดังกล่าว อ้างว่าเป็นความต้องการของชาวบ้าน บ้านทุ่งเทิงหมู่ 4 และบ้านหนองสโน หมู่ 7 ต.ท่าช้าง อ.สว่างวีระวงศ์ จ.อุบลฯ ความจริงทั้ง 2 หมู่บ้านตั้งอยู่ห่างไกลริมแม่น้ำมูลถึง 2 กม. ชาวบ้านจึงไม่ได้รับประโยชน์อะไรจากการสร้างเขื่อนแห่งนี้ เพราะสถานที่ก่อสร้างเขื่อนคือริมแม่น้ำมูลและลำห้วยตลอดความยาว 600 ม.ดังกล่าว กลับอยู่บริเวณด้านหน้ารีสอร์ท ของอดีตรอง หน.พรรค ปชป.อุบลราชธานี

โดยไม่มีการทำประชาคมเพียงแต่ให้ ผญบ.แจ้งชาวบ้านให้รับทราบว่าทางการจะสร้างเขื่อนป้องกันตลิ่งริมแม่น้ำมูลพัง แต่ไม่บอกสถานที่ที่จะสร้าง ผญบ.ก็ยอมรับว่าชาวบ้านไม่ได้ประโยชน์จากเขื่อนนี้ มีแต่รีสอร์ทของนักการเมืองใหญ่เท่านั้นที่ได้ประโยชน์ฝ่ายเดียว แต่จำเป็นต้องทำเพราะเกรงใจและเกรงกลัวอิทธิพล

เมื่อตรวจสอบงบประมาณที่ใช้ในการก่อสร้างพบว่าต้องใช้ถึง 60 ล้านบาท โดยมีการตั้งงบประมาณไว้ในปี 2563-2565 และได้ทำสัญญากับผู้รับจ้างขยายเวลาเป็นปี 63-66 ซึ่งเมื่อตรวจสอบในพื้นที่ขณะนี้พบว่า กำลังเริ่มลงมือก่อสร้างเปิดหน้าดินริมแม่น้ำมูลหน้ารีสอร์ทนักการเมืองดังกล่าว โดยมีข้อพิรุธหลายประการ โดยการก่อสร้างจะดำเนินการเฉพาะด้านหน้าของรีสอร์ทดังกล่าวเท่านั้น บริเวณริมน้ำมูลด้านเหนือและด้านใต้ถัดไปไม่มีการก่อสร้าง แต่อย่างใด

เรื่องนี้เป็นกรณีสำคัญ ที่อาจเข้าข่ายการเอื้อประโยชน์ของฝ่ายราชการ ให้กับนักการเมืองใหญ่ อดีตรอง หน.พรรค ปชป.อุบลราชธานี อดีตรัฐมนตรีหลายสมัย ซึ่งไม่น่าจะถูกต้อง สมาคมองค์การพิทักษ์รัฐธรรมนูญไทย จึงจำต้องนำความมาร้องเรียนต่อ ป.ป.ช. เพื่อขอให้ตรวจสอบการใช้งบประมาณแผ่นดิน อันอาจเข้าข่ายการทุจริตต่อหน้าที่ เพียงเพื่อเอื้อประโยชน์ให้นักการเมืองโดยชาวบ้านไม่ได้ประโยชน์เลย สมควรจะยกเลิกแล้วเอางบประมาณไปสร้างแหล่งน้ำอื่นที่จำเป็นให้ชาวบ้านจะดีกว่า

นอกจากนี้ ยังมีอีกหลายเรื่องที่เป็นปัญหากับชาวบ้าน เช่น เรื่องหนองน้ำกระทุมซึ่งเป็นหนองน้ำสาธารณะที่ชาวบ้านได้อาศัยจับปูปลากุ้งหอยมาบริโภคตั้งแต่ปู่ย่าตายาย แต่ทว่าตอนนี้มีนักการเมืองใหญ่ได้ล้อมรั้วเอาเป็นส่วนหนึ่งของรีสอร์ทกีดกันห้ามไม่ให้ชาวบ้านเข้าไปจับสัตว์น้ำในหนองน้ำสาธารณะอีกต่อไป โดยลำห้วยสักไพรที่อยู่ติดรีสอร์ทก็ให้ญาติๆไปซื้อที่ดินฝั่งห้วยตรงข้ามแล้วทำรั้วปิดกั้นไม่ให้ชาวบ้านไปใช้ลำห้วยได้เช่นปกติอีกต่อไป ซึ่งปัญหาทั้งหมดนี้ต้องตรวจสอบเอาผิดให้หมดว่ามีใครเอื้อประโยชน์ ละเลยเพิกเฉยบ้าง นายศรีสุวรรณ กล่าวในที่สุด