19 เมษายน 2565 รศ.นพ.ธีระ วรธนารัตน์ คณะแพทยศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย โพสต์ข้อความผ่าน เฟซบุ๊ก "Thira Woratanarat" ระบุว่า ณ วันนี้ เด็กอายุ 5-11 ปี ได้รับวัคซีนเข็มแรกไปเพียง 49.5% และได้รับเข็มที่สองไปเพียง 4%
ในขณะที่ภาพรวมทั้งประเทศ มีคนได้รับเข็มกระตุ้นไป 36%
ถ้าดูเฉพาะคนสูงอายุ ได้เข็มกระตุ้นไป 39.4%
ด้วยสถานการณ์ความครอบคลุมของวัคซีนที่จำกัด นโยบายและมาตรการในการควบคุมป้องกันโรค เพื่อกดการระบาดให้ลดลง จึงมีความสำคัญมาก
ที่ผ่านมานั้นยังไม่มีประสิทธิภาพเพียงพอในการจัดการสถานการณ์ระบาด จึงทำให้สถานการณ์ของไทยยังคงสวนกระแสโลก ทั้งในเรื่องจำนวนติดเชื้อใหม่ในแต่ละวัน และการเสียชีวิต
นพ.ธีระ โพสต์ด้วยว่า จุดพลิกผันของการระบาดทั่วโลกตอนนี้ น่าจะอยู่ที่จีนและประเทศในเอเชียที่ยังระบาดรุนแรง รวมถึงไทย ผลลัพธ์ของเอเชียในช่วงเดือนเมษายน-มิถุนายน คือ ไตรมาสที่จะกำหนดภาพในครึ่งหลังของปีนี้ของโลก
เหนืออื่นใด สำหรับประเทศไทยนั้น จำเป็นต้องทราบว่า ศิลปะในการอยู่รอดท่ามกลางสถานการณ์แปรปรวนไม่แน่นอนในโลกแห่งการเชื่อมต่อกันเช่นนี้คือ "การไม่ด้อยค่าไวรัส"
เมื่อใดที่ปรามาสว่ากระจอก เอาอยู่ กรูแน่ เมื่อนั้นก็เชื่อขนมกินได้เลยว่า ย่อมเสี่ยงต่อการเจ็บซ้ำซาก เรื้อรัง และสูญเสียตามมาในไม่ช้า และคงจะลำบาก หากผู้ตัดสินใจขั้นสุดท้ายจะยอมให้ทำตามแผนการเปิดประเทศ ผ่อนคลายกิจกรรม และอื่นๆ โดยที่รู้ทั้งรู้ว่ายังไม่พร้อม
ก้าวทีละก้าว อย่างมั่นคง...จะไม่เสี่ยงต่อการหกล้ม บาดเจ็บ และสูญเสียครับ
อีกทั้งยังโพสต์ด้วยว่า ในยุควิกฤติสงครามโรค ไม่ว่าจะประเทศใดทั่วโลกนั้น
สาธารณะ...เสี่ยง
สาธารณะ...เสื่อม
สาธารณะ...ทุกข์
หากมุ่งแต่กิเลส คำลวง ความเชื่องมงายหลงผิด ยึดติดกับภาพลวงตา ตัวกูพวกกูประโยชน์กู
ผลลัพธ์ = ยุทธศาสตร์ * ความสามารถ * ทัศนคติ
ผลลัพธ์จะออกมาดีได้ ต้องมีทั้งสามองค์ประกอบที่ถูกต้องเหมาะสม ทั้งเชิงปัญญา กำลัง ทักษะ และจิตใจ
นี่คือสัจธรรมที่เราเห็นได้จากปรากฏการณ์หลากหลายตลอดหลายปีที่ผ่านมา...