18 เมษายน 2565 จากกรณีมีการแชร์ข้อมูลว่า หมู-ไก่ ติดเชื้อเอดส์ ห้ามกิน 6 เดือน จนกรมกรมปศุสัตว์ต้องออกมาชี้แจงว่าเรื่องดังกล่าวไม่เป็นความจริง และเป็นข้อความเท็จที่ถูกสร้างขึ้นตั้งแต่ปี 2551 แต่มีการนำกลับมาแชร์ใหม่อีกครั้ง และยืนยันว่าจากการส่งเจ้าหน้าที่เข้าตรวจสอบในพื้นที่ที่มีการอ้างถึง รวมทั้งพื้นที่ต่าง ๆ ทั่วประเทศ ไม่เคยพบกรณีดังกล่าว ขอให้ประชาชนอย่าหลงเชื่อ พร้อมเตือนผู้โพสต์และแชร์ข่าวปลอมว่ามีความผิดตาม พ.ร.บ.คอมพิวเตอร์ พ.ศ.2560 มีโทษหนักทั้งจำและปรับนั้น
ล่าสุด วันนี้ (18 เม.ย.) ดร.ฉวีวรรณ คำพา นายกสมาคมส่งเสริมการเลี้ยงไก่แห่งประเทศไทยในพระบรมราชูปถัมภ์ และประธานกรรมการบริหารบริษัทในเครือฉวีวรรณ ผู้ส่งออกเนื้อไก่ปรุงสุกและเนื้อไก่แปรรูปไปยังต่างประเทศ ได้ออกมายืนยันว่า ข่าวดังกล่าวไม่เป็นความจริง ในส่วนผู้เลี้ยงยังไม่เคยเจอการระบาดของโรคนี้ ทุกวันนี้ไก่ยังเจริญเติบโตดี หากมีโรคก็ต้องแสดงอาการเจ็บป่วยให้เห็น แต่ตอนนี้ไม่มี
ทั้งนี้สิ่งที่ผู้เลี้ยงและผู้ประกอบการได้รับความเดือดร้อนหนัก มีเพียงอาหารสัตว์ที่แพงขึ้นเรื่อย ๆ จาก 40-50% ช่วงต้นปี ขยับมาเป็น 70-80% แล้ว หลังเกิดการสู้รบกันระหว่างรัสเซียและยูเครน แม้ประเทศไทยจะเป็นประเทศที่ผลิตอาหารเพื่อการส่งออกเป็นอันดับ 3 ของโลก โดยเฉพาะช่วงที่มีสงคราม ความต้องการอาหารจากไทยยิ่งเพิ่มสูงขึ้นจนผู้ผลิตแทบจะผลิตสินค้าไม่ทัน แต่กลับต้องเจอปัญหาเรื่องการส่งออก โดยเฉพาะเรือสำหรับขนส่งสินค้าที่หายาก รวมทั้งราคาตู้สินค้าที่ยังแพง จนไม่รู้ว่ารัฐบาลจะแก้ปัญหานี้ได้อย่างไร
ทั้งนี้ขอฝากเตือนประชาชนว่าอย่าหลงเชื่อกับข่าวลวงที่เกิดขึ้นในโลกออนไลน์ การทำเช่นนี้เท่ากับทำลายเกษตรกรผู้เลี้ยงที่อยู่กันลำบากมากพอแล้ว ทั้งต้นทุนการผลิต ไม่ว่าจะเป็นน้ำมัน อาหารสัตว์ หรือวัตถุดิบทุกอย่างที่พุ่งสูงขึ้นตั้งแต่การระบาดของโควิด-19 หากไม่จำเป็นอย่ามาเพิ่มโรคให้ผู้ประกอบการอีกเลย
ยืนยันว่า ไม่ว่าจะเป็นผู้เลี้ยงหมูหรือไก่ ผู้ประกอบการโดยเฉพาะสมาคมส่งเสริมการเลี้ยงไก่แห่งประเทศไทย ยึดถือสุขอนามัยของผู้บริโภคเป็นสำคัญ ทั้งยังมีกฎระเบียบทั้งของคู่ค้าในสหภาพยุโรป และข้อตกลงทางการค้าที่กรมปศุสัตว์ควบคุมอย่างเข้มงวด ตั้งแต่ขั้นตอนการสวอปหาเชื้อโควิด-19 และเชื้อโรคต่าง ๆ ในไก่ ก่อนเข้าโรงงานล่วงหน้าถึง 10 วัน เช่นเดียวกับการทำข้อตกลงทางการค้าที่มีทั้งระเบียบเรื่องตรวจหาเชื้อโรค และการให้ยาควบคุมไว้ทั้งหมด
ส่วนปัญหาการสู้รบระหว่างรัสเซียและยูเครน หากยังยืดเยื้อและเชื่อว่าจะจบได้ยากนั้น ดร.ฉวีวรรณ กล่าวว่า ผู้ประกอบการจำเป็นต้องแสวงหาแหล่งวัตถุดิบ ที่ใช้ในการผลิตอาหารสัตว์จากที่อื่นทดแทน แม้รัสเซียและยูเครนจะเป็นแหล่งผลิตข้าวสาลีและข้าวโพด แหล่งใหญ่ของโลกก็ตาม ซึ่งขณะนี้ผู้ประกอบการกำลังมองว่า อาจกลับไปใช้แหล่งผลิตเดิมอย่างประเทศอินเดีย ที่มีกากถั่วเหลืองจำนวนมาก หรือข้าวโพดที่เคยนำเข้าจากพม่า โดยผู้ประกอบการก็ยังจะรับภาระต้นทุนผลิตที่สูงต่อไปจนถึงที่สุด
พรพรรณ ยางทรัพย์ รายงาน