มาเรีย แวน เคอร์คอฟ หัวหน้าฝ่ายเทคนิคโควิด-19 องค์การอนามัยโลก (WHO) เปิดเผยเมื่อวันพฤหัสบดี (14 เม.ย.) ว่า มีการตรวจพบสายพันธุ์ย่อยใหม่ของไวรัสโอมิครอน 2 สายพันธุ์ย่อยดังกล่าวในบอตสวานา, แอฟริกาใต้, เยอรมนี และเดนมาร์ก รวมถึงในประเทศอื่น ๆ
อย่างไรก็ตามดูเหมือนว่า ไวรัสสายพันธุ์ BA.4 และ BA.5 ไม่ได้แพร่เชื้อได้เร็วกว่า หรือทำให้ผู้ติดเชื้อเสียชีวิตมากกว่าโอมิครอนสายพันธุ์ดั้งเดิม แต่อาจเปลี่ยนแปลงได้เมื่อตรวจพบจำนวนผู้ติดเชื้อมากขึ้น จึงเป็นเรื่องจำเป็นในการรักษาระบบเฝ้าระวังจีโนม (genome surveillance systems) ที่แข็งแกร่ง ซึ่งจะช่วยให้ประเทศต่าง ๆ สามารถติดตามและวิเคราะห์สายพันธุ์ย่อยทั้งสองตัว รวมทั้งโอมิครอนสายพันธุ์ก่อนหน้า
สำหรับผู้ติดเชื้อสายพันธุ์ย่อย BA.4 รายแรกพบที่แอฟริกาใต้เมื่อวันที่ 10 เม.ย. ปัจจุบันพบผู้ป่วยจากการติดเชื้อสายพันธุ์นี้ทั้งสิ้น 41 ราย ขณะที่หน่วยงานความมั่นคงด้านสุขภาพของสหราชอาณาจักรรายงานว่าพบผู้ติดเชื้อ BA.4 ครั้งแรกในเดนมาร์กเมื่อวันที่ 8 เม.ย. จำนวน 3 ราย บอตสวานา 2 ราย อังกฤษ 1 ราย และสกอตแลนด์ 1 ราย ส่วน สายพันธุ์ย่อย BA.5 พบครั้งแรกในแอฟริกาใต้ จำนวน 27 ราย