svasdssvasds
เนชั่นทีวี

การเมือง

"ศิธา" ลุยหาเสียงถนนข้าวสาร ชูปลดล็อก กม. ขวางการทำมาหากินของ ปชช.

14 เมษายน 2565
เกาะติดข่าวสาร >> Nation Story
logoline

"ศิธา" ขนทีมไทยสร้างไทย พบผู้ประกอบการถนนข้าวสาร แนะรัฐหาจุดสมดุลระหว่างการควบคุมโรคและการกระตุ้นเศรษฐกิจ หลังโควิดระบาดกว่า 2 ปี ประกาศมุ่งสร้างพลังทางเศรษฐกิจ ปลดล็อคกฎหมายและใบอนุญาตที่เป็นอุปสรรคขวางกั้นการทำมาหากินของประชาชน

ช่วงค่ำวานนี้ ที่ถนนข้าวสาร น.ต. ศิธา ทิวารี ผู้สมัครผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร หมายเลข 11 พรรคไทยสร้างไทย พร้อมด้วยคุณหญิงสุดารัตน์ เกยุราพันธุ์ ประธานพรรคไทยสร้างไทย และทีมคนรุ่นใหม่ไทยสร้างไทย  ลงพื้นที่พบปะผู้ประกอบการและประชาชนถนนข้าวสารในช่วงค่ำคืนแรกของวันสงกรานต์ ซึ่งมีนักท่องเที่ยวทั้งชาวไทยและชาวต่างชาติเดินทางมาเฉลิมฉลองในช่วงเทศกาลสงกรานต์แน่นขนัด


น.ต.ศิธา กล่าวว่าตั้งใจลงพื้นที่ ที่ถนนข้าวสาร โดยเฉพาะในช่วงเวลากลางคืน เพราะจะทำให้รับทราบสภาพปัญหา สภาพการค้าการขายได้ชัดเจนยิ่งขึ้น ทั้งยังเป็นการสำรวจสภาพเศรษฐกิจ บริเวณถนนข้าวสาร ซึ่งก็พบว่ามีชาวไทยและชาวต่างชาติมาท่องเที่ยวและร่วมสาดน้ำเล่นสงกรานต์อย่างสนุกสนาน

"ศิธา" ลุยหาเสียงถนนข้าวสาร ชูปลดล็อก กม. ขวางการทำมาหากินของ ปชช.

น.ต. ศิธา กล่าวถึงการแพร่ระบาดของโควิด-19 ซึ่งผ่านมากว่า 2 ปีแล้ว แม้จะเป็นผลให้หลายกิจการต้องปิดตัวลง แต่ตัวตนของถนนข้าวสารยังคงอยู่ ทำให้นักท่องเที่ยวพี่น้องประชาชนมาท่องเที่ยวกินดื่มตามธรรมชาติ จึงทำให้เจ้าหน้าที่อาจสับสนว่า จะมีมาตรการในการดูแลอย่างไร เพราะหากไม่ปล่อยให้ นักท่องเที่ยวและพี่น้องประชาชนได้ผ่อนคลายเหมือนเช่น 2 ปีที่ผ่านมา ก็ไม่สามารถทำได้ แต่หากปล่อยให้มีการจัดกิจกรรมก็กังวล เรื่องการดูแลรักษามาตรการทางสาธารณสุข โดยเฉพาะระยะห่างทางสังคม จึงทำให้ไม่กล้าตัดสินใจ

จนกระทั่งมีกฎหมายออกมาว่าถ้าจะจัดก็ห้ามขายเหล้า ถ้าขายเหล้าก็ห้ามเล่นน้ำ แต่ปรากฏว่าวันนี้นักท่องเที่ยวแห่เข้ามาที่ถนนข้าวสาร เพื่อเล่นน้ำ และฉลองวันสงกรานต์เป็นจำนวนมาก โดยที่ภาครัฐไม่สามารถบริหารจัดการ ให้เกิดความเหมาะสมได้ ดังนั้นภาครัฐควรพิจารณาว่าจะ มีแนวปฏิบัติอย่างไรให้เกิดความพอดี โดยเฉพาะด้านความปลอดภัยจากสถานการณ์โควิด-19 ซึ่งต้องดำเนินการควบคู่ไปกับ การสร้างเศรษฐกิจให้สามารถขับเคลื่อนไปได้

"ศิธา" ลุยหาเสียงถนนข้าวสาร ชูปลดล็อก กม. ขวางการทำมาหากินของ ปชช.

“เอามาตรการอะไรต้องเอาสักอย่าง เจ้าหน้าที่รัฐควรมองเห็นภาพว่าจะเกิดอะไรขึ้นแล้วออกมาตรการที่เหมาะสม วันนี้ที่เห็นเป็นข้อผิดพลาด พรุ่งนี้ก็ควรไปคุยกับผู้ประกอบการเลยว่าจะทำอย่างไรให้เกิดความเหมาะสม กับทั้งสองฝ่าย คือนักท่องเที่ยวสามารถเที่ยวได้ รวมถึงดำเนินการตามมาตรการควบคุมโรคได้ด้วย” น.ต. ศิธา กล่าว


น.ต. ศิธา ยังกล่าวถึงนโยบายส่วนที่สอง นั่นคือ นโยบายหาบเร่แผงลอย สถานบริการ สตรีทฟู๊ด ที่มีเงินหมื่นล้านก็โปรโมตไม่ได้ แต่คนบังคับใช้กฎหมาย ก็ต้องเข้าใจธรรมชาติของการค้าขาย และควรสนับสนุนให้ถูกจุด เพราะกรุงเทพมหานครได้รับวิกฤตมามาก  พ่อค้าแม่ขายอยู่ไม่ได้ 

"ศิธา" ลุยหาเสียงถนนข้าวสาร ชูปลดล็อก กม. ขวางการทำมาหากินของ ปชช.

จากนี้จึงต้องสร้างพลังทางเศรษฐกิจผ่านการปลดล็อคกฎหมายและใบอนุญาตที่เป็นอุปสรรคขวางกั้นการทำมาหากินของประชาชนอย่างจริงจัง ซึ่งปัจจุบันมีกฎหมายใบอนุญาตที่ขัดขวางการทำมาหากินกว่า 1,000 ฉบับ ดังนั้นพรรคไทยสร้างไทยจะทำการปลดล็อคและพักใบอนุญาตเหล่านี้ไว้ ชั่วคราว 3-5 ปี  โดยเฉพาะในส่วน ที่เป็นอำนาจของกทม. จะทำทันที ใช้พื้นที่กทม. เป็นพื้นที่นำร่อง สร้าง Bangkok Legal sandbox เพื่อให้คนกรุงเทพฯได้กลับมาทำมาหากินได้เร็วที่สุด และส่วนที่อยู่นอกเหนืออำนาจของกทม. พรรคไทยสร้างไทยจะประสานงานในสภาและระดับรัฐบาลต่อไป

"ศิธา" ลุยหาเสียงถนนข้าวสาร ชูปลดล็อก กม. ขวางการทำมาหากินของ ปชช.

"ศิธา" ลุยหาเสียงถนนข้าวสาร ชูปลดล็อก กม. ขวางการทำมาหากินของ ปชช.

logoline