จากกรณีที่อัยการยื่นฟ้อง นายธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ แกนนำคณะก้าวหน้า ตามความผิด "ม.112" และ พ.ร.บ.คอมพิเตอร์ กรณีไลฟ์สดวิจารณ์ปมจัดหา "วัคซีนโควิด" ของรัฐบาล
ภายหลังอัยการยื่นฟ้องแล้ว ศาลได้สอบคำให้การ โดยนายธนาธร จำเลย ให้การปฏิเสธ ต่อมานายกฤษฎางค์ ทนายความได้ยื่นคำร้องพร้อมหลักทรัพย์ 90,000 บาท
โดยศาลอาญาอนุญาตให้ประกันแล้ว ตีราคาประมาณ 90,000 บาทพร้อมกำหนดเงื่อนไขห้ามจำเลยกระทำการใดๆ ในทำนองเดียวกันกับที่ถูกกล่าวหา หรือไปกระทบสถาบันพระมหากษัตริย์อีก ในระหว่างการปล่อยชั่วคราว มิฉะนั้นจะถือว่าผิดสัญญาประกัน เเละกำหนดนัดตรวจพยานหลักฐาน ในวันที่ 6 มิ.ย.นี้ เวลา 09.00 น.
นายธนาธร กล่าวว่า ตนขอยืนยันว่าสิ่งที่ได้กระทำไปมีเจตนาที่ดีให้กับบ้านเมือง เพื่อปกป้องสถาบันฯยืนยันว่าสิ่งที่ได้กระทำการลงไปนั้น บัตรนี้เวลาก็ได้พิสูจน์แล้วว่า สิ่งที่ต้นพูดเป็นความจริงวัคซีนที่สามารถป้องกันไวรัสโควิดได้มากที่สุดคือ mRNA เวลา เป็นเครื่องพิสูจน์ว่าสิ่งที่พูดไปเป็นผลประโยชน์ของประชาชน หรือไม่อย่างไร ประชาชนก็คงตัดสินใจเองได้ ส่วนในชั้นตรวจพยานหลักฐานหลังจากนี้เราให้การปฏิเสธทุกข้อกล่าวหาและพร้อมต่อสู้คดี และเชื่อมั่นในความบริสุทธิ์ของเรา ก็คงเตรียมการเต็มที่
เมื่อถามว่ามองว่าสิ่งที่เกิด เป็นการกันแกล้งทางกฏหมายหรือไม่
นายธนาธร กล่าวว่า ยุคนี้เป็นยุคที่มีคดีทางการเมืองมากที่สุดมีคดี 112 มากที่สุดมากกว่าทุกยุคทุกสมัยที่ผ่านมา ตอนยืนยันว่าการใช้กระบวนการแบบนี้ทางการเมืองมากันแกล้งไม่เป็นคุณต่อสถาบันฯ ต้นไม่ใช่คนแรกและคนสุดท้ายขอให้กำลังใจผู้ที่ถูกกล่าวหาด้วยคดีความมั่นคง ไม่ว่าจะเป็น พรบ.คอมฯ พรก.ฉุกเฉินหรือมาตรา 112 และหลังจากนี้ตนก็ทำเต็มที่ไม่ว่าเรื่องไหนที่เป็นผลประโยชน์ของประชาชน ก็ต้องพูด
เมื่อก็ถามว่าเกรงจะผิดเงื่อนไขศาลหรือไม่
นายธนาธรกล่าวว่า ขอยึดผลประโยชน์ของประชาชนเป็นที่ตั้ง สถานการณ์สิทธิมนุษย์ชนของประเทศไทยตกต่ำอย่างน่าใจหาย สิทธิเสรีภาพความเท่าเทียมกันทางประชาธิปไตยของประชาชนเป็นเรื่องเดียวกันกับความเท่าเทียมกันทางเศรษฐกิจ เป็นเรื่องเดียวกับผลประโยชน์ของพี่น้องประชาชน เพราะเป็นเรื่องของอำนาจและการจัดสรรผลประโยชน์ของประชาชนตราบใดที่ประชาชนยังไม่มีอำนาจก็จะไม่มีทางมีชีวิตความเป็นอยู่ที่ดีขึ้น ขอให้มา ร่วมมือกัน ทำให้อำนาจสูงสุดของประเทศนี้เป็นของประชาชน