11 เมษายน 2565 จากข้อมูลของศูนย์แก้ไขปัญหามลพิษทางอากาศ (ศกพ.) รายงานคุณภาพอากาศของวันที่ 10 เม.ย. 2565 พบ ค่าฝุ่น PM2.5 ของประเทศไทยติด 1 ใน 10 อันดับโลก วัดค่าได้เกินมาตรฐานและอยู่ในระดับที่มีผลกระทบต่อสุขภาพ (สีแดง) หลายพื้นที่ อาทิ
นอกจากนี้ จากการคาดการณ์สถานการณ์ ฝุ่นละออง PM 2.5 พบว่าในช่วงวันที่ 10 – 12 เม.ย. 65 ควรมีการเฝ้าระวังสุขภาพ เนื่องจากสภาพอุตุนิยมวิทยาไม่เอื้อต่อการระบายของฝุ่นในพื้นที่ ประกอบกับสภาพอากาศนิ่ง การยกตัวของมวลอากาศต่ำ มีจุดความร้อนมีจำนวนมากส่งผลให้สถานการณ์ฝุ่นละอองสูงขึ้น
นายแพทย์สุวรรณชัย วัฒนายิ่งเจริญชัย อธิบดีกรมอนามัย ออกมาให้คำแนะนำว่า ประชาชนโดยเฉพาะกลุ่มเสี่ยง รวมถึงผู้ที่ทำงานกลางแจ้ง เช่น ตำรวจจราจร แม่ค้าริมถนน พนักงานกวาดถนน คนขับรถรับจ้าง พนักงานส่งอาหาร และผู้ที่ออกกำลังกายกลางแจ้ง ควรดูแลสุขภาพตนเองและครอบครัว
“ หากจำเป็นต้องออกจากบ้านให้สวมหน้ากากป้องกันฝุ่นที่เหมาะสม สำหรับผู้ที่มีโรคประจำตัว ควรเตรียมยาและอุปกรณ์ที่จำเป็นให้พร้อม รวมทั้งช่วงเทศกาลสงกรานต์ ประชาชนเริ่มมีการเดินทางกันมากขึ้น เป็นสาเหตุหนึ่งที่ทำให้ค่าฝุ่นสูงขึ้นตามไปด้วย ”
ขณะที่ กทม. นายขจิต ชัชวานิชย์ ปลัดกรุงเทพมหานคร เปิดเผยถึงการป้องกันและแก้ไขปัญหาฝุ่นละอองขนาดเล็ก PM2.5 ในพื้นที่ ว่า กรุงเทพมหานครจัดเตรียมหน่วยแพทย์และสาธารณสุขเคลื่อนที่ในพื้นที่ที่ได้รับผลกระทบจากค่าฝุ่นละออง PM2.5 ที่สูงจนมีผลกระทบต่อสุขภาพในช่วงที่สภาพอากาศเปลี่ยนแปลงเพื่อช่วยเหลือและให้ความรู้ประชาชน
รวมทั้งทำการล้างทำความสะอาด ดูดฝุ่นถนน ฉีดล้างต้นไม้ในพื้นที่ที่คาดว่าค่าฝุ่นละอองขนาดเล็ก PM2.5 จะสูงเกินมาตรฐานที่กำหนด พร้อมทั้งแนะนำการป้องกันตนเองจากฝุ่นละอองขนาดเล็ก รวมถึงให้คำแนะนำการสวมใส่หน้ากากอนามัยที่ถูกต้องแก่ประชาชน
เตรียมพร้อมด้านการแพทย์และสาธารณสุข โดยวินิจฉัยและให้การรักษาที่ถูกต้องตามแนวทางการรักษาโรค จัดเตรียมยา เวชภัณฑ์ เตรียมหน้ากากอนามัยเพื่อแจกจ่ายให้กับประชาชน พร้อมรายงานสถิติผู้ป่วยที่ได้รับผลกระทบจากสถานการณ์ฝุ่นละออง ติดตามสถานการณ์ฝุ่นละออง เพื่อปฏิบัติการออกช่วยเหลือผู้ป่วยยามจำเป็น หากมีการรายงานค่าฝุ่นในพื้นที่ระดับเริ่มมีผลกระทบต่อสุขภาพ
ทั้งนี้ มีมาตรการสำคัญๆ ดังนี้
รวมทั้งจัดห้องปลอดฝุ่น พัดลม และแผ่นกรองอากาศ เพื่อจัดทำพื้นที่ปลอดฝุ่น (Safe Zone) ภายในศูนย์เด็กเล็กน่าอยู่คู่นมแม่ของโรงพยาบาลในสังกัดฯ พร้อมประชาสัมพันธ์เตือนประชาชนกลุ่มเปราะบางที่มีความเสี่ยงสูง เช่น เด็กเล็ก หญิงตั้งครรภ์ ผู้สูงอายุ ผู้ป่วยโรคภูมิแพ้ หอบหืด เยื่อบุตาอักเสบ หัวใจและหลอดเลือด รวมถึงผู้ที่ทำงานกลางแจ้งเป็นเวลานาน ควรเลี่ยงพื้นที่ฝุ่นสูง (สีแดง) หรือลดระยะเวลาออกนอกอาคารให้น้อยที่สุด
หากจำเป็นต้องออกนอกอาคาร ให้สวมหน้ากากป้องกันฝุ่น และงดการทำกิจกรรม หรือออกกำลังกายกลางแจ้ง รวมทั้ง ปิดประตูหน้าต่างให้สนิท หรืออยู่ในห้องปลอดฝุ่นและสังเกตอาการตนเอง หากมีอาการไอ แน่นหน้าอก วิงเวียนศีรษะ คลื่นไส้ อาเจียน ผื่นแดง หรือมีอาการผิดปกติทางร่างกายอื่น ๆ ควรรีบไปพบแพทย์ทันที หรือปรึกษาเรื่องสุขภาพ โทร HOTLINE 1646 สายด่วนสุขภาพ สำนักการแพทย์ ให้บริการตลอด 24 ชั่วโมง