สำนักข่าวซินหัวของจีนรายงานว่า วารสารโกลบอล อีโคโลจี แอนด์ ไบโอจีโอกราฟี (Global Ecology and Biogeography) เผยแพร่ผลการศึกษาข้างต้นเมื่อวันอังคาร (5 เม.ย.) ซึ่งระบุว่าคณะนักวิจัยจากมหาวิทยาลัยฯ ได้วิเคราะห์ลักษณะทางสัณฐานวิทยาของตัวอย่างนก 7,981 รายการ และตรวจวัดว่ามวลและขนาดของนกแต่ละสายพันธุ์เปลี่ยนแปลงอย่างไรเมื่อเวลาผ่านไป หรือได้รับผลกระทบแบบใดจากความผิดปกติของอุณหภูมิ
คณะนักวิจัยพบว่านกสายพันธุ์ต่างๆ มากกว่าครึ่งหนึ่งเปลี่ยนแปลงรูปร่างสม่ำเสมอตลอด 70 ปีที่ผ่านมา ไม่ว่าจะเป็นลำตัวยาวขึ้นหรือมีมวลกายลดลง ซึ่งทั้งสองกรณีล้วนนำไปสู่การขยายขนาดพื้นที่ผิว โดยการเปลี่ยนแปลงทางร่างกายนี้ ได้แก่ การเพิ่มขึ้นร้อยละ 28.9 ในอัตราส่วนพื้นที่ผิวต่อปริมาตร ซึ่งสอดคล้องกับภาวะโลกร้อนที่เพิ่มขึ้นร้อยละ 12.2 ต่อองศาเซลเซียส
ผลกระทบจากอุณหภูมิที่เพิ่มสูงต่อสัณฐานวิทยามี “อันดับของขนาด” มากกว่าผลกระทบจากความแตกต่างทางภูมิศาสตร์ ซึ่งสะท้อนการตอบสนองทั่วไปต่อสภาพอากาศที่เปลี่ยนแปลง โดยการเปลี่ยนแปลงของความยาวลำตัวมีแนวโน้มพบในนกสายพันธุ์อพยพมากกว่า ขณะการเปลี่ยนแปลงของมวลกายมักพบในนกประจำถิ่น
ทั้งนี้ คณะนักวิจัยระบุว่าการเปลี่ยนแปลงในกลุ่มนกอพยพจากยูเรเซียและแอฟริกานับเป็นปรากฏการณ์ระดับโลก โดยเหล่าผู้เชี่ยวชาญกังวลว่าความยืดหยุ่นในการปรับตัวนี้อาจไม่เพียงพอขณะอุณหภูมิยังเพิ่มสูงต่อเนื่อง