4 เมษายน 2565 นายสนั่น อังอุบลกุล ประธานกรรมการหอการค้าไทยและสภาหอการค้าแห่งประเทศไทย เปิดเผยหลังผ่านการทำงานครบ 1 ปี ว่า ตั้งแต่ทำงานได้กำหนดนโยบายการดำเนินงาน ต่อเนื่องจากนโยบายเร่งด่วน 99 วัน ซึ่งสามารถดำเนินการจนสำเร็จ พร้อมเตรียมเสนอแนวทางในการฟื้นฟูเศรษฐกิจของประเทศต่อไป
ทั้งนี้ จากสถานการณ์เศรษฐกิจของไทยในปัจจุบัน ยังประสบปัญหาหลายอย่าง โดยเฉพาะสถานการณ์โควิด-19 ยังระบาดอยู่ ทำให้มาตรการเดินหน้าเศรษฐกิจได้ไม่เต็มที่
“ รัฐควรเร่งฉีดวัคซีนเข็มกระตุ้นทั่วประเทศให้เกิน 70% แล้วประกาศให้เป็นโรคประจำถิ่นโดยเร็ว ซึ่งหากเป็นไปได้ควรประกาศหลังสงกรานต์นี้ เพราะไทยยังพึ่งพิงทั้งการท่องเที่ยว การค้า และการลงทุนกับต่างชาติ ”
นายสนั่น กล่าวอีกว่า หากมีการประกาศให้เป็น โรคประจำถิ่น ได้เร็ว จะช่วยเรียกความเชื่อมั่นกลับมา อย่างไรก็ตามตอนนี้ประเทศไทยกำลังได้รับผลกระทบจากปัญหาความขัดแย้งระหว่างรัสเซีย-ยูเครน ส่งผลให้ต้องเผชิญกับสินค้าราคาแพงขึ้น แม้ว่ารัฐบาลจะมีแผนช่วยลดค่าใช้จ่ายและเพิ่มกำลังซื้อให้ประชาชนบ้างแล้ว แต่คงยังไม่พอ และอาจจะไม่ทันต่อสถานการณ์เศรษฐกิจในช่วงนี้
ดังนั้น การกระตุ้นกำลังซื้อภายในประเทศเป็นเรื่องสำคัญ โดยมาตรการคนละครึ่ง เฟส 4 กำลังจะหมดรอบในเดือนเมษายนนี้ ซึ่งมีเม็ดเงินในระบบสะพัดแล้วกว่า 6.4 หมื่นล้านบาท ถือว่าเป็นมาตรการที่ได้ประโยชน์และบรรเทาภาระค่าใช้จ่าย พร้อมเพิ่มกำลังซื้อให้ประชาชนได้จริง
“ ควรที่จะขยาย โครงการคนละครึ่ง ออกไปต่อถึงสิ้นปี 2565 เพราะเชื่อว่าจะช่วยลดแรงกดดันที่ต้องขึ้นค่าแรงขั้นต่ำ จากภาวะสินค้าราคาแพงได้อีกด้วย ”
นายสนั่น กล่าวอีกว่า รัฐบาลควรรีบนำเรื่องขยายเพดานหนี้สาธารณะจาก 60% ให้เป็น 70% ผ่านสภาฯ เพื่อให้รัฐบาลสามารถกู้เงินมากระตุ้นและพยุงเศรษฐกิจได้ เพราะขณะนี้เพดานหนี้ใกล้เต็ม 60% แล้ว
อีกทั้งเงินกู้เดิมก็เหลือประมาณ 7 หมื่นล้านบาท และตอนนี้ยังเป็นสถานการณ์ที่ไม่ปกติ การกู้เงินเพิ่มมากระตุ้นเศรษฐกิจจะช่วยทั้งการสร้างงาน สร้างรายได้ ลดภาระหนี้ เพื่อ Reboot เศรษฐกิจ และดูแลกลุ่มเปราะบาง เพื่อให้เกิดการฟื้นตัว เช่น มาตรการคนละครึ่งเฟส 5 และขยายสิทธิเราเที่ยวด้วยกัน เป็นต้น
“ตอนนี้เครื่องจักรที่จะสามารถช่วยให้เศรษฐกิจไทยเติบโตได้ในปีนี้ คือเรื่องการส่งออก ซึ่งการดูแลค่าเงินบาทและการอำนวยความสะดวก จะเป็นปัจจัยให้การส่งออกเดินหน้าได้ดีขึ้น พร้อมให้รัฐกระตุ้นเศรษฐกิจ ตรึงราคาสินค้า เพราะหากเอกชนยังมีกำไร เชื่อว่าไม่ขึ้นราคาช่วงเศรษฐกิจเป็นแบบนี้ เอกชนก็ยังประคองธุรกิจได้ ”
นายสนั่น กล่าวอีกว่า ด้านเศรษฐกิจของไทย หอการค้าฯ เชื่อว่าเศรษฐกิจไทยจะมีการฟื้นแบบ K-Shaped โดยผลกระทบที่เกิดขึ้นนั้น คาดว่า SME จำนวน 1 ใน 5 จะไม่สามารถกลับมาดำเนินธุรกิจได้อีกครั้ง
อย่างไรก็ตาม เราคงช่วยเหลือทุกกลุ่มไม่ได้ จึงต้องมุ่งเป้าไปยังกลุ่มที่มีความจำเป็นเร่งด่วนก่อน กลุ่มธุรกิจที่อยู่ K ขาล่าง ที่ส่วนใหญ่เป็นกลุ่ม SME ต้องช่วยให้เขาไม่ลงไปมากกว่านี้ เพื่อเป็นการรักษาความสามารถในการแข่งขันของประเทศเอาไว้ โดยประเทศไทยจำเป็นต้องนำเอาเทคโนโลยีใหม่ ๆ เข้ามาเสริมในการขับเคลื่อนเศรษฐกิจของประเทศ ให้เกิดการเติบโตมากกว่าที่เป็นอยู่ ภายใต้แนวทาง 4 R คือ
อย่างไรก็ดี การดำเนินงานหลังจากนี้ จะมีการขยายผลและต่อยอดด้วย 3 Connect the Dots เพื่อให้เศรษฐกิจไทยกลับมาฟื้นตัวและเข้มแข็งอีกครั้ง ประกอบด้วย