สืบเนื่องจากสมาคมสมาพันธ์คนคาบสมุทรสทิงพระได้ยื่นหนังสือร้องเรียนต่อประธานคณะกรรมาธิการการกฎหมาย การยุติธรรมและสิทธิมนุษยชน ช่วยตรวจสอบและติดตามดำเนินคดีกับผู้บุกรุกพื้นที่โบราณสถานเมืองเก่านั้น
ล่าสุดวันนี้ (30 มีนาคม 2565 ) ที่ ต.หัวเขา อ.สิงหนคร จ.สงขลา คณะกรรมาธิการกฎหมาย ยุติธรรมและสิทธิมนุษยชน นำโดยนายชวลิต วิชยสุทธิ์ รองประธานคณะกรรมาธิการรักษาการประธานคณะกรรมาธิการกฎหมาย นายสุทัศน์ เงินหมื่น ประธานที่ปรึกษากรรมาธิการ ร.ต.อ.อรุณ สวัสดี โดยมีนายวรนัฏ หนูรอด รองผู้ว่าราชการจังหวัดสงขลา รองผู้บังการตำรวจภูธรจังหวัดสงขลาและสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรทั้ง 8 เขต ของจังหวัดสงขลาเข้าร่วมประชุมพร้อมกันด้วย โดยมีหน่วยงานราชการที่เกี่ยวข้อง ทั้งสำนักศิลปากรที่ 11 สำนักป่าไม้พื้นที่สงขลา ตัวแทนจากสำนักงานที่ดิน ประชุมพร้อมลงพื้นที่พิจารณาเรื่องร้องเรียนการบังคับใช้กฎหมายเกี่ยวกับกรณีการบุกรุกพื้นที่โบราณสถานบริเวณเมืองเก่าสงขลา ต.หัวเขา อ.สิงหนคร จ.สงขลา
ในการนี้คณะกรรมาธิการฯ ได้รับฟังข้อมูลความคิดเห็นจากทั้งจากผู้ร้องและจากทุกภาคส่วน พร้อมตั้งข้อสังเกตในการได้รับประโยชน์จากการบุกรุกพื้นที่ ทางด้านคดีความเจ้าหน้าที่สืบสวนรายงานว่ายังอยู่ในระหว่างการรวบรวมพยานหลักฐานคาด 2 สัปดาห์จะมีความคืบหน้า ภายหลังจากรับฟังข้อมูลทั้งจากผู้ร้องและผู้ถูกร้องเสร็จสิ้นคณะกรรมาธิการกฎหมายฯ ได้ลงพื้นที่สำรวจบริเวณป้อมปราการที่ 9 และเจดีย์เขาน้อยเพื่อประกอบเป็นข้อมูลในการพิจารณา
โดยนายชวลิต วิชยสุทธิ์ รักษาการประธานคณะกมธ.กฎหมายฯ เปิดเผยว่า สันนี้คณะกรรมาธิการกฎหมายลงพื้นที่เพื่อรับฟังข้อมูลจากผู้ที่เกี่ยวข้องและลงพื้นที่จริงเพื่อให้ได้เห็นว่ามีการบุกรุกจริงหรือไม่มากน้อยเพียงใดด้านคดีความก็อยู่ในระหว่างสอบสวนซึ่งผู้ต้องหายังให้การภาคเสธ
“ ส่วนของกมธ.เองก็ได้ให้คำแนะนำกับทางจังหวัดว่าให้มีการจัดตั้คณะทำงานเพื่อบูรณาการและให้มีการรวบรวมข้อมูลให้มีฐานข้อมูลเดียวกัน” รักษาการประธานกมธ.กฎหมายฯ กล่าว
โดยหลังจากนี้ทางคณะกรรมาธิการกฎหมาย การยุติธรรมและสิทธิมนุษยขนจะนำข้อมูลที่ได้ในครั้งนี้ไปประมวลผลและหากต้องมีการเชิญใครหรือหน่วยงานใดก็จะดำเนินการเชิญมาเพื่อให้ข้อมูลเพิ่มเติมอีกครั้งหนึ่ง
ภาพ/ข่าว : วิกันดา ขันธ์แก้ว สำนักข่าวเนชั่น จ.สงขลา